ในเมื่อลูกชายเราไม่ได้มีโอกาสได้เรียน เพราะเขาจากไปแล้ว เราจึงอยากให้ลูกหลานไทย โดยเฉพาะเด็กที่เรียนดีแต่ยากจน มีทุนสำหรับเรียนหนังสือต่อไป เพื่ออนาคตที่ดีของเขา และหวังว่าเขาจะมาช่วยกันพัฒนาบ้านเมืองของเรา 

แนวหน้าวาไรตี้สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย นำคุณไปสนทนากับสมาชิกครอบครัวศาตะมาน คือ พล.ต.ท.ประกาศ คุณหญิงผะอบทิพย์คุณปานเกศ ศาตะมาน และคุณพสิษฐ์ เอี่ยมผ่องใสหลานชายซึ่งเป็นนักกอล์ฟดาวรุ่งของเมืองไทยโดยเราไปสนทนากันในงาน Music is My Lifeงานแสดงดนตรีเพื่อระดมทุนการศึกษาให้ กองทุนกฤดิกร ศาตะมาน มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ โดยทูลเกล้าฯ ถวายเงินในคืนวันงาน774,000 บาท และมีการบริจาคสมทบทุนเข้าไปอีกหลังจบงาน โดยรวมเป็นเงิน 1,088,500 บาท ดังนั้นงานนี้จึงทูลเกล้าฯ ถวายเงินเพื่อทรงใช้เป็นทุนการศึกษาของเด็กไทยจำนวน 1,088,500 บาท 

กราบเรียนถาม พล.ต.ท.ประกาศว่าประทับใจสิ่งใดในตัวคุณหญิงผะอบทิพย์มากที่สุดครับ ในฐานะคู่ชีวิตที่อยู่กันมานาน 51-52 ปี 

พล.ต.ท.ประกาศ : คุณหญิงเธอเป็นคนร่าเริงมาก ชอบร้องเพลงที่สุด มีความจำเป็นเลิศจำเนื้อเพลงภาษาอังกฤษได้หลายร้อยเพลง ส่วนผมนั้นให้ท่องเนื้อเพลงแค่ 4 บรรทัด ท่องไปเป็นเดือนยังจำไม่ค่อยได้เลยครับ (หัวเราะ) เธอเป็นคนน่ารักมากเพราะโกรธใครไม่เป็น ถ้าไม่พอใจ ก็จะหายได้ภายในเวลาเดี๋ยวเดียวเท่านั้น เป็นคนที่มีความสุขกับชีวิตตลอดเวลา กับตัวผมนั้น เวลาผมทำอะไรผิดแล้วเธออาจไม่พอใจ แต่เธอให้อภัยได้หลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาที นี่คือความดีและความน่ารักของเธอ 

วัตถุประสงค์ของงานวันนี้คืออะไรครับ 

พล.ต.ท.ประกาศ : เพื่อหาเงินเข้ากองทุนกฤดิกร ศาตะมาน ในมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ กองทุนนี้ตั้งขึ้นเมื่อ 30 ปีมาแล้ว หลังครอบครัวเราสูญเสียลูกชาย คือนายกฤดิกร ศาตะมาน ที่อเมริกา ตอนนั้นเขาอายุเพียง 18 ปี เรานำร่างเขากลับมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีในเมืองไทย โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณทรงรับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ในครั้งนั้นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระราชอิสริยยศในขณะนั้น เสด็จพระราชดำเนินในพระพิธีธรรม และเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงศพ หลังงานเสร็จสิ้น ครอบครัวเราพบว่าได้รับเงินร่วมทำบุญเกือบหนึ่งล้านบาท เราจึงคิดจะสร้างอนุสรณ์อันเป็นกุศลให้กับเขา ครอบครัวเราได้รับพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงพระเมตตาตั้งกองทุนกฤดิกร ศาตะมาน ในมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เพื่อจัดหาทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนที่มีผลการเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จากวันนั้นจนบัดนี้มูลนิธิฯ มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กไทยไปแล้วประมาณ 28,800 ทุน รวมเงินประมาณ420 ล้านบาท และวันนี้เราก็มาร่วมกันจัดงานเพื่อหาเงินสมทบกองทุนด้วยกันอีกครั้ง และเราตั้งใจจะร่วมกันจัดงานเพื่อหาทุนการศึกษาให้กับเด็กไทยไปเรื่อยๆ ทุกท่านที่ร่วมสมทบทุนกับกองทุนนี้จะได้รับใบเสร็จรับเงินจากมูลนิธิฯ เพื่อนำไปหักลดหย่อนภาษีรายได้ด้วยครับ และวันนี้คุณแม่ของนายกฤดิกร ศาตะมาน ก็จะมอบเสียงเพลงมากมายโดยร่วมกันขับร้องกับเพื่อนพ้องเพื่อมอบให้ผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมงาน 

สำหรับผู้อ่านแนวหน้า และผู้ชมรายการแนวหน้าวาไรตี้ที่ต้องการร่วมสมทบทุนกองทุนฯจะสามารถร่วมได้อย่างไรครับ 

พล.ต.ท.ประกาศ : ยินดีมากครับ กรุณาติดต่อที่มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้โดยตรงครับ เรามาช่วยกันนะครับ เพื่ออนาคตด้านการศึกษาของเด็กไทย 

อยากฝากบอกความในใจถึงคุณหญิงผะอบทิพย์อย่างไรบ้างครับ  

พล.ต.ท.ประกาศ : เธอเป็นคนดีมาก และเธอมีจิตใจเข้มแข็งมาก ผมจำได้ว่าตั้งแต่วันเกิดเหตุร้ายกับครอบครัวเรา เธอคือคนประคับประคองเราทุกคน ช่วยปลอบใจคนในครอบครัว ช่วยสร้างขวัญให้กำลังใจตลอดมา แต่ผมแอบเห็นเธอแอบนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว เพราะเธอเองก็เจ็บปวด แต่เธอไม่แสดงออกให้เราเห็น เพราะไม่อยากให้เราเสียกำลังใจ จริง ๆ แล้ว เธอมีจิตใจที่อ่อนละมุนมาก แต่เธอต้องทำเข้มแข็งเพื่อครอบครัวของเรา แต่เธอก็มีความสุขมากขึ้น เพราะเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ครอบครัวเราได้หลานชายมา 1 คน ชื่อน้องอิ๊ก เล่นกอล์ฟเก่งมาก แล้วเมื่อ 9 ปีที่แล้ว เราก็ได้หลานชายคนที่ 2 สรุปว่าบัดนี้เราได้กำไร 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะมีหลานชาย 2 คน มาเป็นแก้วตาแก้วใจของเราทุกคน โดยเฉพาะคุณยายของเขา เพราะฉะนั้นเธอจึงดูมีความสุขมากขึ้น 

เราจะไปสนทนากับคุณหญิงผะอบทิพย์ ศาตะมาน กราบเรียนถามว่าคอนเสิร์ต Music is My Life วันนี้มีวัตถุประสงค์หลักคืออะไรครับ 

คุณหญิงผะอบทิพย์ : เพื่อหาเงินเข้ากองทุนกฤดิกร ศาตะมาน ในมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ค่ะ พูดง่ายๆ คือชวนกันร่วมทำบุญเพื่อหาทุนการศึกษาให้เด็กไทยที่เรียนดีแต่ยากจนซึ่งเราก็คิดเสมอว่าเขาเหล่านั้นก็เป็นเสมือนลูกหลานของเราทุกคน และเป็นอนาคตของชาติบ้านเมืองของเราด้วย กองทุนนี้ตั้งมา 30 ปีแล้วนะคะ กองทุนมีอายุเท่ากับลูกชายของเราที่จากเราไป เมื่อลูกชายของเราเขาไม่มีโอกาสได้ร่ำเรียนอีกแล้ว เราก็อยากให้โอกาสด้านการศึกษากับเด็กไทยที่มีความจำเป็น เพื่อให้เขามีการศึกษาที่ดี พี่ก็อยากเชิญชวนทุกคนมาร่วมด้วยช่วยกันนะคะ 

หลายคนบอกตรงกันว่าคุณหญิงอารมณ์ดีมาก ไม่โกรธใคร ร่าเริงตลอดเวลามีพละกำลังมาก จนลูกสาวแอบบอกว่าคุณแม่อายุ 76 ปีแล้ว แต่ยัง very active คุณหญิงมีเคล็ดลับอย่างไรกับการมีอารมณ์ดีครับ 

คุณหญิงผะอบทิพย์ (หัวเราะ) เหรอคะ อาจเพราะพี่เกิดปีลิงกระมังคะ (หัวเราะ) เลยซนไปเรื่อย ก็อยากจะบอกว่าจะไปอารมณ์เสียทำไม เราหาความสุขใส่ตัวเราดีกว่า คนเราอายุไม่ยาวมากนัก เครียดไปทำไม เสียเวลา จะไปโกรธไปขึ้งกันทำไม ให้อภัยกันดีกว่า ชีวิตเราสั้นนัก จริงไหมคะเราให้อภัยกันดีกว่าเนอะ มองโลกในแง่บวกไว้ แต่จริงๆ แล้วพี่ก็เจ็บป่วยบ้าง เมื่อไม่สบายก็ไปหาหมอ ไม่ต้องตกทุกข์ร้อน เช่นก่อนจะถึงงานวันนี้ก็ต้องไปหาหมอฉีดยาเพื่อให้มีเสียง เพราะเมื่อวานนี้ไม่มีเสียงเลย (หัวเราะ) ไม่สบายก็หาหมอ ก็เท่านั้นเองจริงไหม จริงๆ แล้วพี่เองก็มีปัญหาสุขภาพบ้างเคยผ่าตัดใหญ่มาแล้ว 2-3 ครั้ง แต่ก็ถือว่าคนเรามีเจ็บมีป่วย ก็รักษากันไป ทำใจให้สบาย เดี๋ยวก็หายป่วยเอง 

กราบเรียนถามว่ามีข้อคิดอะไรถึงคนในสังคมไทยที่กำลังเครียดกับสารพัดปัญหาครับ บางคนบ่นว่าเมืองไทยไม่น่าอยู่ 

คุณหญิงผะอบทิพย์ : คุณขาพี่อยากบอกว่าถ้าคิดว่าเมืองไทยไม่น่าอยู่แล้ว คุณจะไปอยู่ที่ไหนคะประเทศไทยของเรามีความน่าอยู่ที่สุดแล้วค่ะ พี่ยืนยันคนต่างชาติมากมายยังอยากมาอยู่เมืองไทยเลยเขามองว่าบ้านเรามีความอุดมสมบูรณ์ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมคนไทยบางคนจึงไม่รักบ้านเกิดเมืองนอนพี่อยากให้คนไทยรักบ้านเมืองของเรามากๆ สำหรับพี่แล้ว เมืองไทยน่าอยู่มากที่สุด  

แขกรับเชิญคนต่อไปคือคุณพสิษฐ์ เอี่ยมผ่องใส (น้องอิ๊ก) หลานชายคุณหญิงผะอบทิพย์สวัสดีครับน้องอิ๊ก ขอถามว่า ทำไมจึงเล่นกอล์ฟได้ดีมากจนติดอันดับต้นๆ ของนักกอล์ฟรุ่นเด็กและเยาวชนของไทย ซ้อมหนักมากไหมครับ สัปดาห์หนึ่งซ้อมกี่วัน วันละกี่ชั่วโมงครับ 

คุณพสิษฐ์ (ยิ้ม) ผมเล่นกอล์ฟมาตั้งแต่อายุประมาณ 7 ขวบครับ แรกๆ ก็ไปกับคุณยายไปเล่นที่สปอร์ตคลับ เริ่มเรียนกับโปรบิว แล้วก็เล่นมาเรื่อยๆ เพราะผมชอบครับ ผมตั้งใจจะเล่นกอล์ฟเป็นอาชีพครับ ผมซ้อมสัปดาห์ละ 6 วันครับ หยุดวันศุกร์หนึ่งวัน แล้วก็ซ้อมอย่างน้อยวันละสองชั่วโมงครับ 

คุณหญิงผะอบทิพย์ : อิ๊กเขามีความมุ่งมั่นกับการเล่นการซ้อมมาก พี่ไม่เคยบังคับเขาเลย เขาชอบเล่นเอง จัดตารางซ้อมเอง 

น้องอิ๊กเรียนหนังสือระดับชั้นไหนครับแบ่งเวลาเรื่องเรียนกับซ้อมกอล์ฟอย่างไรครับ 

คุณพสิษฐ์ : ผมเรียนอยู่ชั้น year 10 ครับ ผมก็เรียนไปด้วย ซ้อมไปด้วยเมื่อว่างจากเรียนครับ  

มีเด็กๆ อายุพอกับกับน้องอิ๊กฝากมาถามว่าหากอยากเล่นกอล์ฟเก่งเหมือนน้องอิ๊กต้องทำอย่างไรครับ 

คุณพสิษฐ์ : ต้องขยันซ้อมครับ ซ้อมแบบไม่หยุดต้องมุ่งมั่น ต้องรักในเกมกีฬานี้ครับ ต้องไม่ยอมแพ้เมื่อเจออุปสรรค ต้องทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ ถ้าทำในสิ่งที่ชอบแล้ว ผมคิดว่าจะเล่นกอล์ฟได้ดีครับ 

วันนี้มางาน Music is My Life จะร่วมร้องเพลงกับคุณยายไหมครับ 

คุณพสิษฐ์ (ยิ้มแบบเขินอาย) 

คุณหญิงผะอบทิพย์ : ชวนให้ร้องเพลงด้วยกันก็ไม่ยอม อาย จริงๆ เขาร้องเพลงดีนะ สมัยเด็กๆยังร้อง แต่โตขึ้นอาย เลยไม่ยอมร้องอีก  

แขกรับเชิญอีกคนที่ใกล้ชิดมากกับคุณหญิงผะอบทิพย์ คือคุณปานเกศ ศาตะมานคุณแป๊บ เวลาพูดถึงคุณแม่ ในสายตาของลูกสาวคุณแม่มีความโดดเด่นในเรื่องใดมากที่สุดครับ 

คุณปานเกศ : ความทรงพลังที่มากจริงๆเป็นคนที่ต้องบอกว่า Hyperactive มากๆ ทำหลายสิ่งอย่างได้ภายในวันเดียว เช่น งานคอนเสิร์ตนี้คุณแม่ทำเกือบทุกอย่าง ทั้งเลือกเพลง ซ้อมร้องเพลงวางลำดับเพลง ซ้อมเต้น เชิญแขก จัดโต๊ะว่าแขกคนนี้ต้องนั่งตรงนี้ ดูแลเรื่องอาหารการกิน ซ้อมร้องเพลงหนักมากมาเกือบสองเดือน จนเส้นเสียงอักเสบต้องไปฉีดยาเมื่อวานก่อนจะถึงวันงาน ปกติแล้วแม่จะมีงานตลอดเวลา ทำงานต่างๆ ได้โดยไม่เหน็ดไม่เหนื่อยทั้งๆ ที่อายุก็มิใช่น้อยแล้ว เราก็อดเป็นห่วงไม่ได้ แม่ชอบร้องเพลง ชอบเต้น ชอบออกกำลังกาย มี class เรียนต่างๆ สารพัดเลย อ้อ! อีกอย่างหนึ่งคือแม่เป็นคนที่มองว่าทุกอย่างไม่มีปัญหา ถ้ามีปัญหาก็แก้ไขได้ทุกเรื่องเช่นที่เล่าให้ฟังว่าไม่มีเสียงเลย แม้จะถึงวันงานแล้ว แต่แม่ก็ยังทำเหมือนไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างชิลเสมอสำหรับแม่ป้อม ไม่เคยตื่นตูม ไม่โวยวาย ไม่ตกใจกับเรื่องอะไร มองว่าทุกอย่างมีทางออกเสมอ ในฐานะลูกนะ เราก็เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของแม่ป้อม อยากให้ดูแลสุขภาพตัวเองให้มากขึ้นอีกสักนิด อยากให้เพลาๆกิจกรรมต่างๆ ลงบ้าง 

งานนี้คุณแป๊บช่วยคุณแม่ทำอะไรบ้างครับ 

คุณปานเกศ : ช่วยร้องเพลง 1 เพลง ร้องกับทีมงาน pobpab studio ร้องเพลงไทยกับระนาดแล้วเป็นพิธีกรด้วย แป๊บร้องเพลงไทย และไทยเดิมด้วย ส่วนแม่ชอบร้องเพลงฝรั่ง คนละสไตล์กันเลย เป็นความต่างที่อยู่ร่วมกันอย่างลงตัวมาก  

ตอนนี้คุณแป๊บทำงานอาชีพอะไรครับ 

คุณปานเกศ : แป๊บมี pobpab studio ค่ะ เน้นงานด้านศิลปะไทย ดนตรีไทย แป๊บชอบท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมไทย มีพานำชมสถานที่ประวัติศาสตร์ เช่น บ้านพระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ (นพ ไกรฤกษ์)เป็นต้น และโบราณสถานอื่นๆ ด้วย และจัดสอนดนตรีไทยสอนวาดรูปศิลปะไทย เน้นสำหรับคนไม่มีพื้นฐานด้านนี้มาก่อนเลย แต่ต้องมีใจรักนะคะ สมมุติพี่เฉลิมชัยไม่มีพื้นฐานการเล่นดนตรีไทยมาก่อนเลย แต่ถ้าพี่ไปเรียนกับแป๊บแค่วันเดียว พี่จะภูมิใจว่า สามารถเล่นดนตรีไทย
ได้หนึ่งเพลงภายในวันเดียว  

สตูดิโออยู่ที่ไหนครับ 

คุณปานเกศ : เราเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยๆ ตามแหล่งที่เราเห็นว่ามีความเก๋ น่าสนใจ เช่น เรือนไทยที่อยู่ริมแม่น้ำ หรือริมลำคลอง หรือในบ้านโบราณเป็นต้น หากสนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดในเฟซบุ๊คเพจ pobpabStudio นะคะ ชวนพี่เฉลิมชัยไปลองดูด้วยนะคะ  

คุณจะได้พบกับรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความบันเทิง รายการแนวหน้าวาไรตี้ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางโทรทัศน์ TNN 2 ช่อง 784 ดิจิทัลทีวี หรือ True Visions 8 และชมรายการ ย้อนหลังได้ที่ YouTube แนวหน้าวาไรตี้