โดนัลด์ ทรัมป์ เหลือเวลาที่จะได้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อยู่อีกเพียงไม่ถึงสองสัปดาห์ แต่กรรมาธิการในคณะกรรมาธิการตุลาการ สภาผู้แทนราษฎร จาก
พรรคเดโมแครต ได้ออกมาเรียกร้องให้ถอดถอนเขาจากอำนาจ หลังผู้สนับสนุนทรัมป์บุกเข้าไปก่อเหตุในอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคมโดยกรรมาธิการจากพรรคเดโมแครตส่งจดหมายถึงรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ให้ดำเนินการปลดทรัมป์ โดยให้เหตุผลว่าเขาคือผู้สนับสนุนให้เกิดการจลาจล และ “พยายามบ่อนทำลายความเป็นประชาธิปไตย”
สิ่งที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงนอกเหนือจากกระบวนการ Impeachment ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง คือการใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 หรือ The 25th Amendment เปิดทางให้โอนอำนาจให้รองประธานาธิบดีไม่ว่าจะเป็นการชั่วคราวหรือตลอดไปบทบัญญัติดังกล่าวอนุญาตให้รองประธานาธิบดีขึ้นดำรงตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดีได้ หากประธานาธิบดีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ เช่น เมื่อประธานาธิบดีอยู่ในสภาพเป็นบุคคลไร้ความสามารถเนื่องจากอาการป่วยทางกายหรือทางจิต หรืออาจนำไปใช้ในกรณีที่ประธานาธิบดีไม่เหมาะสมต่อการทำหน้าที่เป็นอย่างยิ่ง
รัฐธรรมนูญที่ 25 ผ่านการลงสัตยาบันในปี 2510 หลังประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้ถูกลอบสังหารในปี 2506 บทบัญญัตินี้เกี่ยวข้องกับการสืบทอดตำแหน่งประธานาธิบดีและเมื่อประธานาธิบดีปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ โดยมาตรา 4 ระบุถึงกรณีที่ประธานาธิบดีทำหน้าที่ไม่ได้แต่ไม่ยินยอมลงจากตำแหน่ง
เมื่อใช้บทบัญญัติที่ 25รองประธานาธิบดีเพนซ์ และคณะรัฐมนตรีทรัมป์ส่วนใหญ่จำเป็นต้องประกาศว่า ทรัมป์ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ประธานาธิบดีได้ต้องถูกถอดถอน จากนั้นเพนซ์รักษาการประธานาธิบดี แต่ทรัมป์ก็ประกาศได้ว่าตนเองสามารถกลับมารับตำแหน่งได้ ถ้าเพนซ์และ ครม.ส่วนใหญ่ไม่คัดค้าน ทรัมป์ก็กลับสู่อำนาจอีก แต่ถ้าครม.ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ต้องให้สภาคองเกรสตัดสิน ระหว่างนั้นเพนซ์ยังรักษาการประธานาธิบดีต่อไป
ศาสตราจารย์พอล แคมปอสผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญมหาวิทยาลัยโคโลราโด กล่าวว่าการปลดทรัมป์ต้องใช้เสียงส่วนใหญ่2 ใน 3 ของทั้งสองสภา แต่สภาผู้แทนราษฎรที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากอาจชะลอการลงมติไปพิจารณาเรื่องอื่นที่สำคัญจนกระทั่งทรัมป์หมดวาระ แคมปอสย้ำว่า การใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 อาจเป็นวิธีเหมาะสมในการปลดทรัมป์ออกจากตำแหน่ง และทำได้เร็วกว่ากระบวนการ Impeachment
จริงๆ แล้วเคยมีการหารือเรื่องการใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ 25 นี้มาครั้งหนึ่งแล้วตอนที่ทรัมป์ป่วยด้วยไวรัสโควิด-19เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ในขณะนั้นมีความกังวลกันว่าเขาจะป่วยหนักเกินกว่าจะบริหารประเทศได้
ขณะเดียวกัน เคยมีประธานาธิบดีหลายคนที่ใช้บทบัญญัตินี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมาตรา 3 เพื่อมอบอำนาจเป็นการชั่วคราวให้รองประธานาธิบดีเช่น ในปี 2002 และ 2007อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช มอบอำนาจให้รองประธานาธิบดีรักษาการแทนตอนที่เขาเข้าโรงพยาบาลเพื่อส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นการตรวจตามที่แพทย์นัด อดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ก็ทำเช่นเดียวกัน ตอนที่เข้ารับการผ่าตัดรักษาโรคมะเร็ง ในปี 1985
อย่างไรก็ดี ยังไม่เคยมีประธานาธิบดีที่ยังอยู่ในตำแหน่งคนใดที่ถูกปลดจากตำแหน่งโดยใช้บทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ 25 นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี