นางลิซา มอนต์โกเมอรีนักโทษหญิงในเรือนจำรัฐบาลกลางเพียงคนเดียวของสหรัฐ ถูกประหารชีวิตแล้ว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา จากความผิดในคดีฆาตกรรมสาวท้องแก่เพื่อขโมยทารกในครรภ์เมื่อปี2547 ซึ่งเป็นข่าวใหญ่มากที่สหรัฐในช่วงนั้น
มอนต์โกเมอรี วัย 52 ปีถูกประหารชีวิตด้วยการฉีดสารพิษที่ทัณฑสถานในเมืองแตร์โฮตรัฐอินดิแอนา เมื่อช่วงเช้ามืดวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หลังจากผู้พิพากษาศาลสูงปฏิเสธคำสั่งให้เลื่อนการประหารชีวิตของผู้พิพากษาท้องถิ่นเมื่อคืนวันจันทร์ เปิดทางให้สามารถประหารชีวิตเธอได้ทันที โดยการประหารชีวิตนางมอนต์โกเมอรีตามกำหนดเดิมในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ก็ต้องเลื่อนออกมาแล้วครั้งหนึ่งจากการระบาดของโควิด-19
ขณะที่ทนายความของนางมอนต์โกเมอรี แสดงความผิดหวังที่ลูกความถูกประหารชีวิต โดยอ้างว่างนางมอนต์โกเมอรีมีอาการป่วยทางจิต และสมองได้รับความเสียหายจากการถูกทำร้ายและล่วงละเมิดในวัยเด็ก อีกทั้งมีสภาพจิตใจไม่ปกติขณะก่อเหตุฆาตกรรม จึงไม่สมควรถูกประหารชีวิต แต่ก็ไม่เป็นผล ส่งผลให้นางมอนต์โกเมอรีเป็นนักโทษประหารหญิงคนแรกที่ถูกประหารชีวิตในรอบ 67 ปี และเป็นนักโทษคนที่ 11 ที่ถูกประหารชีวิตในช่วงรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดย
นักโทษหญิงคนล่าสุดที่ถูกประหารชีวิตโดยรัฐบาลกลางคือ บอนนี บราวน์เฮดดี้ ซึ่งโดยประหารโดยห้องรมแก๊สเมื่อเดือนธันวาคม 2496 ในความผิดฐานลักพาตัวและฆาตกรรมลูกชายวัย 6 ขวบ ของพ่อค้ารถยนต์ที่มีฐานะดี
นางมอนต์โกเมอรีเป็นนักโทษหญิงเพียงคนเดียวที่ถูกคุมขังในเรือนจำกลางของรัฐบาลกลาง จากความผิดฐานฆาตกรรมนางบ๊อบบี้ โจ สตินเนตต์ วัย 23 ปีหญิงท้องอายุครรภ์ 8 เดือน เมื่อปี 2547 โดยนางมอนต์โกเมอรี ซึ่งขณะนั้นอาศัยรัฐแคนซัส อยากมีลูกแทบใจจะขาด แต่ไม่สามารภมีได้จากความผิดปกติของตัวเอง จนถึงวันหนึ่ง เธอบอกกับสามีและคนใกล้ชิดว่าตั้งครรภ์ ทั้งที่ไม่ได้ท้อง
ต่อมา มอนต์โกเมอรีพบกับสตินเนตต์ เจ้าของฟาร์มเลี้ยงสุขันทางอินเตอร์เนต ที่เหมาะมากสำหรับการขโมยลูก เพราะเธอกำลังท้องแก่ ตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน มอนต์โกเมอรีจึงวางแผน ด้วยการออกอุบายลวงซื้อลูกสุนัขจากนางสตินเนตต์ และทำทีเดินทางไปยังบ้านของนางสตินเนตต์ในรัฐมิสซูรีเพื่อรับลูกสุนัข แต่นางมอนต์โกเมอรีกลับทำร้ายร่างกายจนนางสตินเนตต์หมดสติ จากนั้นใช้มีดผ่าท้องซึ่งเป็นเหตุให้เหยื่อเสียชีวิต ก่อนขโมยทารกเพศหญิงในครรภ์ของนางสตินเนตต์ไป และนำทารกไปแอบอ้างกับครอบครัวตัวเองว่า เด็กน้อยเป็นลูกของตน
ต่อมานางมอนต์โกเมอรีถูกตำรวจตามจับกุมได้ในเวลาไม่นานส่วนทารกเพศหญิงที่ถูกขโมยนั้นได้รับการดูแลจากสามีของนางสตินเนตต์ที่เสียชีวิต และปัจจุบันมีอายุได้ 16 ปีแล้ว มอนต์โกเมอรี ถูกตั้งข้อหาว่าลักพาตัวและทำให้เกิดการเสียชีวิต ซึ่งคณะลูกขุนลงความเห็นว่าเธอมีความผิดในปี 2550 โดยไม่ยอมรับคำแก้ต่างที่ว่าเธอมีอาการประสาทหลอน
มีรายงานว่าครอบครัวของนางสตินเนตต์เดินทางมาเป็นสักขีพยานในการประหารชีวิตนางมอนต์โกเมอรีด้วย และบอกว่าไม่เห็นด้วยที่ทนายความอ้างว่าเธอสภาพจิตไม่ปกติและไม่สมควรถูกประหารชีวิต เนื่องจากนางสตินเนตต์ถูกฆาตกรรมอย่างทารุณ การที่นางมอนต์โกเมอร์รีถูกประหารชีวิตจึงสาสมกับความผิดที่ก่อแล้ว
เรื่องราวการก่อเหตุฆาตกรรมของนางมอนต์โกเมอรี ถูกนำมาบอกเล่าและนำเสนอใหม่ผ่านทางรายการสารคดีต่างๆ หลายครั้งใครสนใจลองหาชมกันได้ทางยูทูบ แนะนำสารคดีที่ทำออกมาเป็นซีรี่ส์ชื่อ Deadly Women ที่ทำให้ออกมาได้น่าสนใจและเนื้อหาครอบคลุมสมบูรณ์ดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี