เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2563 Mr.Flower เคยนำเสนอเรื่องราวของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาเถระอริยสงฆ์รูปหนึ่งของไทยไปแล้ว และได้พาแฟนคอลัมน์ตะลอนเที่ยวกลุ่มเล็กๆ ไปกราบนมัสการรูปเหมือนและกุฏิของท่านที่วัดป่าภูริทัตตถิราวาส หรือวัดป่าบ้านหนองผือ ตำบลนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร วัดนี้คือวัดสายวัดป่ากัมมัฏฐาน ที่สมัยแรกเริ่มนั้นเป็นสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ในป่าอันอุดมสมบูรณ์ และมีสิงสาราสัตว์อาศัยอยู่มากมาย และยังมีเชื้อโรคร้ายแรงสารพัดชนิด อาทิ ไข้ป่า มาลาเรีย
หลายคนอาจเข้าใจว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดดั้งเดิมที่หลวงปู่มั่นได้มาก่อสร้างไว้ แต่ท่านผู้รู้เล่าให้ฟังว่าหลวงปู่มั่นไม่ได้เป็นผู้ก่อตั้งวัดนี้ แต่ท่านเคยจำพรรษาอยู่ ณ วัดแห่งนี้เป็นเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2488-2492) โดยในยุคแรกเริ่มนั้นวัดแห่งนี้ชื่อว่าวัดสันติวนาราม ผู้ก่อตั้งวัดคือหลวงปู่หลุย จันทสาโร จนกระทั่งต่อมาเมื่อหลวงปู่มั่นมรณภาพเมื่อปี พ.ศ. 2492 พระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโร)แห่งวัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น และเป็นเจ้าคณะมณฑลสงฆ์ของเขตนี้ ได้เปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็นวัดภูริทัตตถิราวาส เพื่อถวายเป็นที่ระลึกถึงพระเมตตาคุณของหลวงปู่มั่น
ดังที่ได้กล่าวมาเบื้องต้นว่าแรกเริ่มนั้น หลวงปู่มั่นไม่ได้จำพรรษาที่วัดป่าบ้านหนองผือ เนื่องจากท่านนิยมธุดงค์จาริกแสวงธรรมไปยังสถานที่อันสงบวิเวกในเขตภาคเหนือ จนกระทั่งท่านได้รับคำนิมนต์จากลูกศิษย์ให้ไปโปรดญาติโยมในเขตภาคอีสาน แล้วได้รับคำนิมนต์จากลูกศิษย์ให้ไปจำพรรษาณ วัดป่าแห่งนี้ ซึ่งท่านได้เมตตารับคำนิมนต์ แล้วจำพรรษาจนถึงวันที่ท่านมรณภาพ เมื่อปี 2492
เมื่อไปถึงวัดแห่งนี้แล้ว ทุกคนจะต้องไปกราบนมัสการรูปเหมือนของหลวงปู่มั่น และไปกราบนมัสการกุฏิของหลวงปู่มั่น รวมถึงไปกราบนมัสการกุฏิของเกจิอาจารย์ท่านอื่นๆ ที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น เช่น หลวงปู่หลุย หลวงตามหาบัว เป็นต้น
ในทุกวันที่ 10 พฤศจิกายน วัดภูริทัตตถิราวาสจะจัดงานสำคัญเพื่อน้อมบูชาพระเมตตาคุณ และแสดงความกตัญญูกตเวทิตาคุณต่อหลวงปู่มั่น เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันมรณภาพของหลวงปู่มั่น บูรพาจารย์ของพระสงฆ์สายกัมมัฏฐานของไทย
ขอย้อนกลับไปพูดถึงช่วงก่อนที่ชาวบ้านจะสร้างกุฏิถวายหลวงปู่มั่น ท่านบอกว่าไม่ต้องสร้างให้ เพราะมีที่พักอาศัยแล้ว จนชาวบ้านต้องกราบขออนุญาตหลายครั้งโดยอ้างเหตุผลต่างๆ นานา จนในที่สุดหลวงปู่มั่นจึงอนุญาตให้สร้างได้ โดยไม้พื้น เสากุฏิ หลังคา ฝาผนังล้วนนำไม้มาจากบ้านเก่าที่ชาวบ้านนำมาถวายทั้งสิ้น และที่สำคัญที่สุดคือกุฏิหลังนี้เป็นสถานที่ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เคยเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรเมื่อ พ.ศ. 2521 ล่าสุดกุฏิหลังนี้ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากร เป็นโบราณสถาน เมื่อปี พ.ศ.2522
นอกจากผู้ไปวัดแห่งนี้จะได้กราบนมัสการกุฏิหลวงปู่มั่นแล้ว ยังจะต้องไปกราบนมัสการอัฐิธาตุของท่านที่บรรจุไว้บนศาลาใหญ่ของวัด และไปกราบนมัสการพระมหาเจดีย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตตมหาเถระ ซึ่งมหาเจดีย์นี้ระเบียงรอบที่ประดิษฐานรูปปั้นเหมือนของหลวงปู่มั่นและบรรดาศิษยานุศิษย์สายตรงของหลวงปู่จำนวน 63 รูป พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดพระมหาเจดีย์องค์นี้ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2560
ผู้อ่านคอลัมน์ตะลอนเที่ยวจำนวนหนึ่งถามว่าเมื่อไรจะพาคณะผู้อ่านแนวหน้าไปกราบนมัสการรูปปั้นเหมือนหลวงปู่มั่นที่วัดป่าภูริทัตตถิราวาสอีก คำตอบเบื้องต้นคือต้องรอให้การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จางหายไปจากประเทศไทยเสียก่อน เพราะการเดินทางท่องเที่ยวในยามที่หลายคนยังวิตกกังวลกับเชื้อโควิด-19
ไม่เป็นเรื่องที่พึ่งกระทำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง Mr.Flower เชื่อว่าหากเราทุกคนช่วยกันระมัดระวังตัวเองให้ห่างไกลจากเชื้อโควิด-19 แล้ว อีกไม่นานจนเกินไป เราทุกคนจะสามารถเดินทางออกไปท่องเที่ยวได้อย่างแน่นอน สำหรับคุณๆ ที่มีความประสงค์จะร่วมเดินทางท่องเที่ยวแบบกลุ่มเล็กๆ ที่นำเที่ยวโดย Mr.Flower กรุณาสำรองที่นั่งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 091-7233615
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี