ตอนนี้ ผู้คนชาวจีนต่างเชิดชู “อาม่า” วัย 76 ปี ในสหรัฐฯ ที่ต่อสู้กับคนผิวขาวเหยียดเอเชียในนครซานฟรานซิสโก แต่ตอนนี้ จิตใจและร่างกายอาม่า ยังสาหัสจากประสบการณ์เลวร้าย
อาม่ารายนี้มีชื่อว่า “เซี่ย เสี่ยวเจิน” อายุ 76 ปีแล้วเธอกำลังรอข้ามถนนในนครซานฟรานซิสโก แต่จู่ๆ ชายผิวขาวคนหนึ่งพุ่งเขามาแล้วต่อยเธอเข้าที่ใบหน้า แต่แทนที่จะยอมแพ้กับการใช้ความรุนแรงอย่างไร้เหตุผล“อาม่า” วัย 76 ปี ด้วยสัญชาตญาณสู้กลับด้วยท่อนไม้ จนชายผู้ก่อเหตุบาดเจ็บ ต้องถูกหามส่งโรงพยาบาลทำให้ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ สรรเสริญความกล้าหาญของอาม่า จนติดแฮชแท็กว่า “อาม่าเอเชียน-อเมริกันสู้กลับคนร้าย” ในสังคมออนไลน์ Weibo ที่เป็นที่นิยมในจีน แฮชแท็กนี้กลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว มีผู้กดติดแฮชแท็กและเข้าชมคลิปอาม่า มากกว่า 1,400 ล้านครั้งแล้ว
ผู้ใช้อินเตอร์เนตชมว่า “อาม่ากล้ามากเลย” หรือ “สั่งสอนมันเลยอาม่า” บางคนยังออกมาเรียกร้องให้ชาวเอเชียทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก สามัคคีกันต่อสู้กับอาชญากรรมจากความเกลียดชังที่เกิดจากกระแสต่อต้านเอเชียผู้ใช้งาน Weibo คนหนึ่งบอกว่า“คนจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไม่เคยลงรอยกัน แต่คนเอเชียเหล่านี้ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ พวกคุณต้องสามัคคีกันนะ เพราะพลังแห่งเอกภาพมันยิ่งใหญ่มาก”
เหตุทำร้าย “อาม่า” เกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม นางเซี่ยซึ่งพื้นเพเป็นคนจีนจากมณฑลกวางตุ้ง กำลังรอข้ามถนนอยู่ดีๆก็มีคนตะโกนว่า “คนจีน” ก่อนที่ชายคนนี้จะพุ่งเข้ามาต่อยหน้าเธออาม่าเซี่ย หยิบท่อนไม้ที่วางอยู่ใกล้ๆ แล้วต่อสู้กลับ ภาพวีดีโอที่มีผู้บันทึกไว้ได้ กลายเป็นคลิปไวรัลออนไลน์อย่างรวดเร็ว และแสดงให้เห็นว่าอาม่าที่ต้องใช้ถุงน้ำแข็งประคบใบหน้า ส่วนชายผิวขาวที่ก่อเหตุ บาดเจ็บนอนบนเปลพยาบาล ตำรวจนครซานฟรานซิสโกรายงานว่า ชายวัย 39 ปีคนนี้ถูกจับ และกำลังถูกสอบสวนฐานทำร้ายร่างกาย
ดง เหมย ลี่ ลูกสาวของอาม่าเซี่ย กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า แม่ของเธอรู้สึกบอบช้ำทางจิตใจมาก หลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตาด้านขวาของเธอก็บาดเจ็บ มีเลือดออกจนแทบมองอะไรไม่เห็น ส่วน จอห์น เฉิน หลานชายของอาม่า โพสต์บน GoFundMe ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเรี่ยไรเงินบริจาค เพื่อขอเงินบริจาคมารักษาตาของอาม่าที่บาดเจ็บหนัก “ตาดำของอาม่าอาการไม่ดีเลย ตาข้างหนึ่งเลือดไหลไม่หยุด ส่วนข้อมือของอาม่าก็บวม”
เฉินบอกอีกว่า สภาพจิตใจอาม่าย่ำแย่มาก “เวลาพูดถึงเรื่องนี้ทีไร...อาม่าจะอารมณ์แย่มากแล้วก็ร้องไห้”แต่อาม่าเซี่ยยังหวังว่า “คนเอเชียน-อเมริกันรุ่นใหม่ จะยืนหยัดซึ่งกันและกัน และเพื่อผู้สูงอายุด้วย”
ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กระแสอาชญากรรมและการทำร้ายคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียในสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องก่อนที่จะเกิดเหตุ “ทำร้ายอาม่า” ชายคนหนึ่งในรัฐจอร์เจีย ถูกตั้งข้อหากราดยิงสังหาร 8 ศพ ตามร้านนวดสปาหลายแห่ง ในจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นหญิงเอเชีย 6 คน แม้เหตุโจมตีดังกล่าว ยังฟันธงไม่ได้ว่าเป็นการกระทำพุ่งเป้าไปที่ชุมชนชาวเอเชียในสหรัฐฯ แต่ก็ทำให้คนเอเชีย คนอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นคนจีน หรือ
ชาติเอเชียอื่นๆ ต่างหวาดกลัว
จุดเริ่มต้นของกระแสเหยียดเอเชีย มาจากวาทกรรมของโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กล่าวซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า เชื้อโควิด-19 เป็นไวรัสจีน
เจ้า ลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงการณ์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การเหยียดคนจีนในสหรัฐฯ กำลังเพิ่มสูงขึ้นและการกระทำอันน่ารังเกียจนี้เกิดจากการเหยียดเชื้อชาติที่ไร้ซึ่งเหตุผล เป็นเรื่องที่น่าโกรธเคืองและเศร้าใจมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี