ย้อนหลังไปเมื่อครั้งแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง (พ.ศ. 2172-2199) แห่งกรุงศรีอยุธยา ก็ปรากฏชื่อของพระราชวังบางปะอินมาแล้วเพราะพระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังแห่งนี้บนเกาะบ้านเลน ริมลำน้ำเจ้าพระยา ดังมีประวัติว่าทรงให้สร้างพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เพื่อทรงใช้เป็นที่ประทับยามเสด็จประพาส ณ สถานที่แห่งนี้ แต่หลังจากเสียกรุงฯ ครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2310 แล้ว พระราชวังบางปะอินถูกปล่อยทิ้งร้างมา จนกระทั่งรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะพระราชวังแห่งนี้ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่ง และอาคารอื่นๆ เพิ่มเติม
ครั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดการเสด็จประพาสพระราชวังบางปะอินอยู่เสมอๆ และทรงเห็นว่าเป็นสถานที่ซึ่งสมเด็จพระบรมชนกนาถทรงโปรด จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งอีกหลายองค์ และอาคารต่างๆ เพิ่มเติม ด้วยทรงใช้เป็นที่ประทับ และสำหรับถวายการต้อนรับพระราชอาคันตุกะจากต่างประเทศ และพระราชวังแห่งนี้ยังได้ถูกใช้เป็นสถานที่พระราชทานเลี้ยงรับรองพระราชอาคันตุกะจากต่างประเทศเรื่อยมาจนถึงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
พระราชวังบางปะอินในปัจจุบันแบ่งพื้นที่เป็นเขตต่างๆ ดังนี้ เขตพระราชฐานชั้นนอก และชั้นใน โดยเขตพระราชฐานชั้นนอก ประกอบด้วย หอเหมมณเฑียรเทวราช สภาคารราชประยูร พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ และพระที่นั่งวโรภาษพิมาน เขตพระราชฐานชั้นนอกใช้สำหรับการเสด็จออกมหาสมาคม และประกอบพระราชพิธีต่างๆ
สำหรับการใช้พระราชวังบางปะอินเป็นที่ถวายการต้อนรับพระราชอาคันตุกะ ก็มีดังนี้ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดถวายการต้อนรับแกรนด์ดุ๊กซาร์วิตส์ แห่งรัสเซีย เมื่อปี 2434 (ต่อมาคือพระเจ้าซาร์ แห่งรัสเซีย) ครั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงใช้ถวายการรับรอง และพระราชทานเลี้ยงพระกระยาหารแด่พระราชอาคันตุกะ เช่น สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ ที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร สมเด็จพระราชินีนาถเบียทริกซ์ แห่งเนเธอร์แลนด์ สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอ ที่ 2 แห่งเดนมาร์ก และอินฟันตาเอเลนา ดัชเชสแห่งลูโก ประเทศสเปนรวมถึงสมเด็จพระยุพราชเจ้าชายฟูมิฮิโตะ อะกิชิโนะ โนะมิยะ แห่งญี่ปุ่น เป็นต้น
ส่วนเขตพระราชฐานชั้นใน ใช้เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระอัครมเหสี และพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายใน ทางเชื่อมระหว่างเขตพระราชฐานชั้นนอกกับชั้นในคือสะพานที่ทอดจากพระที่นั่งวโรภาษพิมานไปยังประตูเทวราชครรไล โดยประตูนี้ถือเป็นประตูทางเข้าเขตพระราชฐานชั้นใน
ภายในเขตพระราชฐานชั้นใน ประกอบด้วยพระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร พระที่นั่งเวหาศน์จำรูญ หอวิฑูรทัศนา พระตำหนักของเจ้านายฝ่ายใน อาทิ พระตำหนักสมเด็จพระพันวัสสา พระตำหนักสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้าฯ พระตำหนักพระวิมาดาเธอฯพระตำหนักเก้าห้อง ตำหนักพระราชชายา เจ้าดารารัศมีและเรือนของเจ้าจอมมารดาต่างๆ และยังมีพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเรือล่ม (สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี) และอนุสาวรีย์ราชานุสรณ์ รวมถึงมีพลับพลา ศาลา กระโจมแตรตำหนักแพ เรือนแพพระที่นั่ง แพทรงบาตร และพระราชอุทยาน
เหตุที่ชักชวนคุณไปเที่ยวชมพระราชวังบางปะอินในสัปดาห์นี้ เพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้พาคุณไปเที่ยวชมวัดนิเวศธรรมประวัติ ซึ่งเป็นวัดประจำพระราชวังบางปะอินมาแล้ว และการไปเที่ยวบางปะอินทั้งที ก็ต้องไปเที่ยวชมสถานที่สำคัญทั้งสองแห่งนี้ ซึ่งอันที่จริง บางปะอินยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจมาก เช่น วัดชุมพลนิกายาราม (สร้างในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง) และชุมชนชาวบ้าน รวมถึงวัดเก่าแก่ที่อยู่รอบๆ พระราชวังบางปะอิน
หากคุณๆ สนใจไปเที่ยวชมโบราณสถานสำคัญในบางปะอิน และในจังหวัดพระนครศรีอยุธยากับMr.Flower โปรดติดต่อหมายเลข 091- 7233615
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี