ผู้อ่านคอลัมน์ตะลอนเที่ยวหลายคน โทรศัพท์ไปถาม Mr. Flower ว่าเมื่อไรจะพาไปเที่ยวเมืองอุทัยธานีอีก จะขอร่วมทริปไปด้วย และทุกคนที่โทรศัพท์ไปถาม ก็ยังถามถึงวัดสวยงามที่อยู่ริมลำน้ำสะแกกรัง โดยบอกว่าวัดสวยมาก แค่เพียงเห็นภาพจากคอลัมน์ก็อยากไปดูสถานที่จริงแล้ว
วันนี้ Mr. Flower ตั้งใจจะมาชวนคุณๆ ไปเที่ยวอุทัยธานีด้วยกันอีกครับ โดยคาดว่าจะไปกันประมาณกลางเดือนพฤษภาคม สาเหตุที่ยังไม่พาคณะไปที่ไหนๆในช่วงเวลานี้ก็เพราะหลายคนยังหวาดวิตกเรื่องเชื้อโควิด-19 (ขอกระซิบว่า หลายคนวิตกจนเข้าขั้นโรคประสาทอ่อนๆ เพราะได้รับข่าวลือ ข่าวลวง ข่าวเท็จเกี่ยวกับโรคนี้ทุกวินาทีที่เปิดรับสารจาก Social Media จำพวกที่ตั้งใจสร้างความแตกตื่น โดยการนำเรื่องต่างๆ ซึ่งหาที่มาที่ไปของเรื่องราวไม่ได้แม้แต่น้อย)
สำหรับประวัติของวัดโบสถ์ ริมน้ำสะแกกรังเมืองอุทัยธานี มีคร่าวๆ คือ วัดนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าวัดอุโปสถาราม ซึ่งแต่เดิมชื่อวัดโบสถ์มโนรมย์ แต่ชาวบ้านเรียกสั้นๆ ว่าวัดโบสถ์ ตั้งอยู่บนเกาะเทโพ สันนิษฐานว่าวัดแห่งนี้สร้างสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ จุดเด่นของวัดคือมีพระอุโบสถและพระวิหารขนาดเล็กแต่งดงามมาก ผนังของพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรม แบ่งเป็นสองระดับ เขียนโดยช่างหลวงในสมัยรัชกาลที่ 3 (พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว) แต่มาแล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 4(พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) โดยข้างล่างเป็นภาพพุทธประวัติ เริ่มตั้งแต่ประสูติ เสด็จออกบวช ผจญมาร ตรัสรู้ โปรดปัจวัคคีย์ ดับขันธ์ปรินิพพาน และถวายพระเพลิง ส่วนด้านบนเป็นภาพเทพชุมนุม ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัย ศิลปะสมัยสุโขทัย
ส่วนพระวิหารมีขนาดพอๆ กับพระอุโบสถ แต่จุดเด่นอยู่ที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอยู่ด้านหน้าของพระวิหารโดยแสดงให้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านในย่านนั้น และนับว่าเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วาดไว้ภายนอกพระวิหาร ซึ่งปกติจะวาดภาพไว้ภายในตัวอาคารมากกว่า ส่วนภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระวิหารเป็นรูปพุทธประวัติ แต่ที่น่าสนใจมากคือมีภาพวาดเรื่องพระมาลัยโปรดสัตว์ และภาพพระอสีติมหาสาวก และภาพอสุภกรรมฐาน 10 ซึ่งวาดไว้ด้านล่างของผนัง ส่วนด้านบนเป็นภาพชุมนุมพระสงฆ์สาวก สลับกับภาพตาลปัตรพัดยศลวดลายงดงามมาก ภายในพระวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติหลายองค์ เป็นศิลปะสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ด้านหลังของพระอุโบสถและพระวิหารมีพระเจดีย์ที่น่าสนใจมากตั้งอยู่สามองค์ โดยแต่ละองค์มีศิลปะแตกต่างกัน เพราะมีเจดีย์แบบศิลปะอยุธยา ทำเป็นทรงหกเหลี่ยม ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ พระเจดีย์องค์กลาง เป็นศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นทรงย่อไม้สิบสอง ส่วนองค์ด้านใต้เป็นศิลปะสุโขทัย ทรงลอมฟาง และริมลำน้ำมีเรือนแพ ซึ่งเรียกว่าแพโบสถ์น้ำ ตามประวัติกล่าวว่าสร้างขึ้นเพื่อเฝ้าฯรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)เมื่อครั้งเสด็จประพาสวัดแห่งนี้เมื่อ พ.ศ. 2444 โดยยังหลงเหลือสิ่งที่บ่งบอกเป็นหลักฐานสำคัญคือ คำจารึกเป็นภาษาบาลีว่า “สุ อาคตํ เตมหาราชา” แปลว่า มหาราชาเสด็จฯมาดี
อันที่จริงเมืองอุทัยฯ ยังมีที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมายแต่วันนี้ขออนุญาตนำเสนอเพียงแค่วัดอุโปสถารามเพียงแห่งเดียวเท่านั้น เพราะต้องการให้คุณได้เห็นภาพมุมต่างๆของวัดที่งดงามแห่งนี้
หากคุณสนใจร่วมทริปเล็กๆ (รับสมาชิก 12-14 คน) แต่อบอุ่นและเต็มไปด้วยไมตรีจิต ไปท่องเที่ยวเมืองอุทัยธานีกับเรา โปรดติดต่อที่ 091-7233615
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี