คำว่า “นักอัลตราซาวด์” เป็นคำใหม่ในแวดวงของแพทย์ และระบบสาธารณสุข แต่ในต่างประเทศคำว่านักอัลตราซาวด์มีมานานแล้ว อย่างที่ออสเตรเลียมีมาประมาณ 30 กว่าปี ซึ่งการอัลตราซาวด์ถือเป็นการตรวจชนิดหนึ่ง อย่างเช่นตั้งครรภ์เราก็ใช้อัลตราซาวด์ตรวจอายุครรภ์ได้ ตรวจดูว่าเด็กดิ้นดีไหม เห็นแขน เห็นขาเห็นอวัยวะภายใน คนทั่วไปก็จะตรวจช่องท้อง ดูตับ ดูถุงน้ำดี โดยที่ผ่านมาเป็นหน้าที่ของแพทย์ แต่ในต่างประเทศการตรวจต้องใช้เวลานาน จึงพัฒนาให้มีนักอัลตราซาวด์เกิดขึ้น เพื่อลดภาระหน้าที่ของแพทย์ คือแทนที่แพทย์จะต้องทำการถ่ายภาพดูส่วนต่างๆ เอง ก็จะส่งหน้าที่นี้ให้กับนักอัลตราซาวด์ เพราะขั้นตอนนี้ใช้ระยะเวลานาน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์สุรเชษฎ์ สิริพงษ์สกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนนักอัลตราซาวด์ทางการแพทย์คณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เผย ถึง
การเปิดหลักสูตรใหม่ผลิต “นักอัลตราซาวด์ทางการแพทย์” ขึ้นมารองรับในสาขาที่ขาดแคลนบุคลากร ว่า อัลตราซาวด์ทางการแพทย์ คือ เครื่องตรวจวินิจฉัยโดยการใช้คลื่นเสียงนั่นเอง ส่วนหลักการของเครื่องอัลตราซาวด์ คือเครื่องมือวินิจฉัย ที่ทำให้เราเห็นภาพได้โดยการใช้คลื่นเสียงสะท้อนกลับไปแล้วส่งภาพกลับมา เราใช้คลื่นเสียงที่กลับมาสร้างภาพเป็นภาพขาวดำเพื่อให้เห็นโครงสร้างทางกายวิภาค ซึ่งเครื่องมือชนิดนี้เป็นเครื่องมือที่ปลอดภัย ตรวจได้ง่ายและรวดเร็ว
สำหรับนักอัลตราซาวด์ ที่โรงเรียนเปิดสอนจะสังกัดอยู่ในคณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นโรงเรียนที่ผลิตบุคลากรทางการแพทย์สายสนับสนุน ซึ่งอาชีพหนึ่งที่ต่างประเทศมีแต่ประเทศไทยยังไม่มีนอกจากนั้นอาชีพนี้ยังช่วยในการบริการสุขภาพที่ดีเราผลิตบุคลากรที่ใช้เครื่องมืออัลตราซาวด์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวินิจฉัยโรคและการสร้างภาพ หน้าที่ของนักเรียนที่จบมาก็ต้องสามารถทำการใช้เครื่องอัลตราซาวด์ในการสร้างภาพและวินิจฉัยเบื้องต้นในโรคต่างๆ ของผู้ป่วยได้ ส่วนผู้ที่จะแปลผลจริงๆ ก็คือแพทย์ โดยภาพรวมการทำอัลตราซาวด์ใช้เวลานาน ถ้าใช้แพทย์ในการตรวจรักษารวมถึงทำ อัลตราซาวด์ผู้ป่วยด้วยตนเองจะใช้เวลามาก หากมีนักอัลตราซาวด์มาช่วยก็จะทำให้แพทย์ทำงานได้คล่องตัวมากขึ้น รวมทั้งดูแลคนไข้ได้มากขึ้นอีกด้วย
โดยหน้าที่ของนักอัลตราซาวด์จะมีด้วยกัน 2 ส่วน ส่วนแรกคือทำการตรวจหารอยโรค ทำการเก็บภาพและการวินิจฉัยภาพ ส่วนที่สองคือการแปลผลซึ่งส่วนนี้จะทำโดยแพทย์ แต่ที่ผ่านมาในประเทศไทยแพทย์จะทำหน้าที่นี้ทั้งหมด ทำให้กว่าจะตรวจเสร็จสักคนต้องใช้ระยะเวลานาน ทางคณะฯ จึงอยากให้มีนักอัลตราซาวด์เกิดขึ้นเพื่อลดภาระให้กับแพทย์ ทำให้แพทย์รับคนไข้ได้มากขึ้น ถึงได้จัดตั้งโรงเรียนแห่งนี้ขึ้นมา พร้อมศาสตร์ทางด้านอัลตราซาวด์โดยเฉพาะ อีกวัตถุประสงค์คือเนื่องจากเครื่องอัลตราซาวด์มีอยู่ทุกที่ทุกโรงพยาบาลแล้ว อีกทั้งเครื่องตรวจไม่ได้แพง แถมยังไม่มีรังสีด้วย ทำให้สามารถทำการตรวจคนไข้ได้ไม่จำกัดและตรวจได้ในอีกหลายระบบ
ทั้งนี้โรงเรียนนักอัลตราซาวด์ ทางการแพทย์ ตอนนี้เราเปิดอยู่ 2 หลักสูตร หลักสูตรแรก คือ หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตชื่อ สาขาวิชาสัทภาพการแพทย์ชื่อในราชบัณฑิต สัท แปลว่า เสียง ภาพ ก็คือ การสร้างภาพ ดังนั้น สัทภาพการแพทย์ คือ การสร้างภาพด้วยเสียง หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าการ อัลตราซาวด์ เป็นหลักสูตรที่เรียนเพื่อเป็นอาจารย์ หลักสูตรต้องเรียน 36 หน่วยกิต ใช้เวลาเรียน 2 ปีกับหนึ่งภาคฤดูร้อน ในช่วงหนึ่งปีแรกจะเรียนเรื่องทักษะการอัลตราซาวด์ทั้งหมด ในช่วงปีที่ 2 จะเป็นการทำวิจัยและการทำวิทยานิพนธ์เพื่อขอจบ และอีกหลักสูตรหนึ่งคือ หลักสูตร 1 ปี สำหรับบุคคลที่เรียนเพื่อไปใช้งาน ทำงานบริการในโรงพยาบาลเป็นหลัก และช่วยงานแพทย์ต่างๆ โดยหลักสูตร 1 ปี จะเรียนเรื่องทักษะการอัลตราซาวด์ทั้งหมด
โดยการเรียนการสอนแบบเฉพาะทางของ “นักอัลตราซาวด์ทางการแพทย์” ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ มุ่งสร้างมาตรฐานระดับนานาชาติจึงได้ร่วมมือกับ โมแนส ยูนิเวอร์ซิตี้ (Monash University) ซึ่งเป็นสถาบันที่มีหลักสูตรการอัลตราซาวด์ทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียงของออสเตรเลียมาสร้างหลักสูตรร่วมกัน โดยมีเนื้อหาโครงสร้างที่ได้รับการพัฒนาโดยคำแนะนำอย่างใกล้ชิดจากผู้ทรงคุณวุฒิที่เชี่ยวชาญจากโมแนส ยูนิเวอร์ซิตี้ ก็จะส่งบุคลากรจะมาเทรนอาจารย์เราด้วย เทรนในเรื่องคอนเซ็ปต์และหลักเกณฑ์ในการสอนนักอัลตราซาวด์เป็นผู้เชี่ยวชาญต้องทำอย่างไร นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมภาคสังคมเพื่อฝึกฝนให้กับนักศึกษาได้ฝึกทักษะ เพราะเครื่องอัลตราซาวด์เป็นเครื่องมือที่ต้องใช้ทักษะ ต้องฝึกทำเยอะๆ จึงจะทำได้ดี
อัลตราซาวด์ทางการแพทย์ถือเป็นสาขาวิชาชีพที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่และถ้ามีมากขึ้นก็จะสามารถช่วยแพทย์ได้มากขึ้น ดังนั้นจึงเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างแน่นอน ดังนั้นบัณฑิตที่มาต้องได้งาน 100 เปอร์เซ็นต์ โดยเข้าทำงานในองค์กรที่เกี่ยวกับระบบสุขภาพได้อันดับแรกเลยคือโรงพยาบาลต่างๆที่ต้องการขยายงานทางด้านอัลตราซาวด์ซึ่งมีความต้องการนักอัลตราซาวด์ยกตัวอย่างเช่น รังสีแพทย์ อยากให้มีคนมาช่วยทำอัลตราซาวด์ เพื่อแพทย์จะได้รับคนไข้ได้มากขึ้น หรือ ถ้าจบปริญญาโท ก็มีโอกาสเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนนักอัลตราซาวด์ทางการแพทย์ เพราะโรงเรียนฯ กำลังจะขยายเพื่อผลิตแพทย์ที่จะช่วยงานด้านวิชาการต่างๆ ในโรงเรียนฯ ให้มากขึ้น นอกจากนั้นยังสามารถทำงานร่วมกับโรงพยาบาลเอกชนก็ได้ หรือทำงานบริษัทเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์โดยเฉพาะเครื่องอัลตราซาวด์ก็ได้เช่นกัน
สำหรับผู้สนใจหลักสูตร สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.pccms.ac.th/ หรือ https://www.facebook.com/SonographerSchool/
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี