Shawls
นอกจากใน Bilbao Fine Arts Museum จะมีผลงานของ Jose Arrue ที่เป็นศิลปินชาว Basque แล้ว ที่นี่ยังมีงานของศิลปินพื้นเมืองชาว Basque อีกคน นั่นคือ Francisco Iturrino ซึ่งเป็นศิลปินแนว Fauvism จัดแสดงอยู่เป็นจำนวนมาก งานแนว Fauvism เป็นแนวทางศิลปะของต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ราวปี 1904-1910 ที่เน้นในการใช้สีที่สดใสเข้มข้นมากกว่าความเหมือนจริง แนวทางศิลปะนี้จะให้ความสำคัญกับความง่ายและเป็นนามธรรม งานแนว Fauvism ยังเป็นการควบรวมแนวทางศิลปะที่หลากหลายในช่วงเวลานั้นเข้าด้วยกัน อาทิ Post Impressionism แบบ Van Gogh, Pointillism ของSeurat, Neo Impressionism ของ Paul Signac, Paul Cezanne และ Paul Gauguin
Francisco Iturrino เกิดที่เมือง Santander ก่อนที่ครอบครัวจะย้ายมาอยู่ Bilbao ตั้งแต่ยังเล็ก เขาได้รับศึกษาด้านภาพร่างจาก Elviro Gonzalez ลุงของเขาที่เป็นทั้งศิลปิน นักประพันธ์และนักแต่งบทกวี หลังจากนั้นเขาก็เข้าศึกษาต่อที่ Augustinian school ก่อนไปศึกษาต่อด้านวิศวกรรมที่เมือง Liege แต่เนื่องจากเขาชอบศิลปะมากกว่า เขาจึงย้ายไปเรียนศิลปะที่ AcademieRoyale des Beaux-Arts ที่เมืองบรัสเซลส์โดยไม่ให้ครอบครัวรู้
Bathers
เขาต้องการพัฒนาฝีมือจึงเดินทางไปปารีสและไปทำงานกับHenri Evenepoel ในปี 1901 เขาก็มีผลงานมากพอที่จะจัดแสดงที่ Vollard Gallery ร่วมกับ Pablo Picasso ซึ่งยังคงไม่มีชื่อเสียงในเวลานั้น หลังจากนั้นเขาก็เดินทางกลับสเปน และย้ายไปหลายเมือง อาทิ Salamanca ก่อนที่จะไปตั้งรกรากอยู่ที่ Seville หลังแต่งงานในปี 1906 เขาก็ออกเดินทางทั่ว Basqueแคว้น Andalusia และเลยไปถึงฝรั่งเศสเพื่อหาทัศนียภาพในการรังสรรค์งานทิวทัศน์ การชนวัว งานมหกรรม และผู้หญิง ในช่วงเวลานั้นผลงานของเขาเน้นไปที่ความสดใสสีสันที่ฉูดฉาด ยิ่งเมื่อเขาได้รู้จักกับ Henri Matisse งานของเขายิ่งพัฒนาไปได้มากขึ้นไปอีก
ในปี 1920 เขาประสบปัญหากับขาจนทำให้เกิดเนื้อตายและต้องตัดขาจึงทำให้เขาไม่สามารถเดินเหินได้และมีปัญหาทางการเงิน Elie Faure นักประวัติศาสตร์ศิลป์จึงได้ช่วยจัดนิทรรศการภาพของเพื่อน Iturrino ประกอบด้วย Matisse, Picasso เพื่อช่วยเหลือเขา และทำให้เขาสามารถยังชีพและสร้างสรรค์งานศิลปะต่อไปได้ก่อนย้ายไปอยู่ Cagnes sur Mer ในปี 1922 จวบจนเสียชีวิตเมื่ออายุเพียงแค่ 59 ปี
เขาได้รับการยกตำแหน่งให้เป็นศิลปินคนแรกของสเปนที่ใช้แนวทางศิลปะแบบ Fauvism หรือเป็นคนแรกที่ละทิ้งแนวทางศิลปะแบบ Realism ซึ่งเป็นที่นิยมในช่วงเวลานั้นเขาชอบสร้างสรรค์งานโดยเน้นไปที่แนวคิด ทัศนคติ และอารมณ์มากกว่าการเน้นในเรื่องรายละเอียดของวัตถุ ผลงานส่วนใหญ่จะแสดงให้เห็นถึงการเดินทางในชีวิต นักท่องเที่ยวจะเห็นว่าผลงานของเขามีอัตลักษณ์ของตนเอง และเป็นไปอย่างผสมผสานระหว่างสีเขียวของ Gauguin อาทิ The Fountain Garden, ฝีแปรงที่ใหญ่ของ Van Gogh อาทิ Colts in the Country แต่นุ่มนวลของ Renoir อาทิ Nude in the Gardenจึงสามารถสร้างสีสันให้กับวงการศิลปะสเปนได้อย่างดียิ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี