อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยจำเป็นต้องบริโภค เพื่อใช้เป็นพลังงานและเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ หรือจะพูดอีกนัยหนึ่งว่าอาหารเป็นปัจจัยหลักอย่างหนึ่งในการช่วยให้ภูมิคุ้มกันร่างกายดีซึ่งจะช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บให้กับคนเราได้
ข้อมูลจาก อ.ศัลยา คงสมบูรณ์เวช นักกำหนดอาหารขึ้นทะเบียนวิชาชีพ (สหรัฐอเมริกา) กรรมการบริหาร มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ เปิดเผยว่า การขาดสารอาหารบางตัวอาจมีผลในการลดระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ข้อมูลการวิจัยส่วนใหญ่สนับสนุนการบริโภคอาหารหลากหลายในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ได้รับสารอาหารสมดุล เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการที่จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารและพฤกษเคมีอย่างเพียงพอที่จะเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย มีงานวิจัยชี้ว่า การทำงานของระบบภูมิต้านทานไม่ต้องการวิตามิน และเกลือแร่ในปริมาณมากอย่างที่เราคิด เพียงแต่เรารับประทานให้เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการเท่านั้น ถ้ากินมากเกินไปกลับเป็นอันตรายได้
เช่น การได้รับธาตุเหล็กสูงเกินควรอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ ซึ่งแย่พอๆ กับการได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ ทำนองเดียวกับแร่ธาตุทองแดง ถ้าได้รับมากเกินไปก็จะก่อให้เกิดปัญหาอนุมูลอิสระในร่างกาย มีผลต่อการทำลายดีเอ็นเอ แม้ว่าแร่ธาตุสังกะสีเป็นอีกตัวหนึ่งในการป้องกันหวัด แต่ถ้าได้รับมากเกินควรก็อาจลดการดูดซึมของแร่ธาตุทองแดงและลดภูมิต้านทานได้ ฉะนั้นอาหารที่หลากหลายและมีสารอาหารที่สมดุลที่เราเลือกกินในชีวิตประจำวันจะเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
l ไขมันกับระบบภูมิต้านทาน อาหารไขมันต่ำเกินไปอาจสร้างปัญหาลดภูมิต้านทาน ในขณะที่อาหารไขมันสูงเกินไปสร้างปัญหาโรคอ้วน ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง เป็นต้น ไขมันที่มีบทบาทต่อระบบภูมิต้านทานคือ กรดไขมันจำเป็นไลโนเลอิก (กลุ่มกรดไขมันโอเมก้า 6) และกรดไขมันจำเป็นแอลฟาไลโนเลนิก (กลุ่มโอเมก้า 3) พบมากในปลาทะเล แฟลกซ์ซีด วอลนัทและน้ำมันคาโนลา หากร่างกายได้รับกรดไขมันทั้งสองไม่เพียงพอจะทำให้แผลหายช้า ซึ่งเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งที่บอกให้รู้ว่าระบบภูมิต้านทานทำงานลดลง คนส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาในปริมาณกรดโอเมก้า 6 เพราะทุกวันนี้ร่างกายได้รับอย่างเกินพอ แต่กรดโอเมก้า 3 ซึ่งเพิ่มภูมิต้านทาน เรามักจะรับประทานกันไม่เพียงพอ
l หวัดกับภูมิต้านทาน เรื่องของการรักษาหวัดเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด ปัจจุบันไม่มียาที่จะรักษาหวัดซึ่งเป็นเชื้อไวรัส จะรักษาตามอาการ แนะนำให้พักผ่อน และดื่มน้ำมากๆ แต่ถ้าภูมิต้านทานดีหวัดก็จะทำอะไรไม่ได้ สำหรับการรับประทานวิตามินซีในขนาดสูงๆไม่สามารถป้องกันหวัดได้ จากการวิจัยพบว่าการเสริมวิตามินซีวันละ 2,000 มิลลิกรัม เพียงลดความรุนแรงของอาการหวัดและระยะเวลาของการเป็นหวัดเท่านั้น แต่ขนาดสูงขนาดนั้นไม่แนะนำสำหรับเด็ก หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร และอาจทำให้เกิดอาการถ่ายท้องบ่อยหรือนิ่วในไตกับบางคน กรณีที่รับประทานวิตามินซีขนาดสูงไม่ควรเกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน และแบ่งเป็น 2 ขนาด ขนาดละไม่เกิน 500 มิลลิกรัม แต่การดื่มน้ำส้มคั้นสดมากๆ จะได้ทั้งน้ำและวิตามินซีที่เพิ่มภูมิต้านทานและลดอาการหวัดได้ สมุนไพรบางชนิดยังได้รับการยอมรับว่าอาจมีส่วนในการเพิ่มภูมิต้านทาน เช่น เอคินาเซียโสม สำหรับเครื่องเทศบางชนิด ได้แก่ ขมิ้น เห็ดหอมญี่ปุ่น และกระเทียม เป็นต้น
l อาหารเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ปัจจุบันมีข้อมูลที่แสดงว่าการรับประทานวิตามินและแร่ธาตุรวม วันละครั้งสามารถเพิ่มระบบภูมิต้านทานได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ และ คนที่มักจะรับประทานอาหารไม่ครบส่วนกรณีที่ต้องการเสริมวิตามินและแร่ธาตุรวม หรือมัลติวิตามินที่ให้สารอาหาร โดยเฉพาะวิตามินบีประมาณร้อยเปอร์เซ็นต์ของข้อกำหนดประจำวันเสริมเพียงวันละเม็ดก็พอแล้ว ผู้สูงอายุอาจพิจารณาการเสริมวิตามินอีธรรมชาติวันละไม่เกิน 200 ไอยู ทั้งนี้อย่าลืมปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือนักโภชนาการถึงปริมาณที่เหมาะสม
ตัวอย่างผลของสารอาหารที่มีต่อภูมิคุ้มกัน เช่น
l วิตามินบี 6 ช่วยเซลล์เม็ดเลือดขาวสร้างแอนติบอดี แหล่งจากอาหาร เช่น ถั่วเมล็ดแห้ง ธัญพืชไม่ขัดสี ไก่ หมู กล้วย
l วิตามินซี ช่วยป้องกันเซลล์เม็ดเลือดนิวโทรฟิล ซึ่งทำหน้าที่ดักจับเชื้อแบคทีเรีย แหล่งจากอาหาร เช่น ผลไม้ตระกูลส้ม ฝรั่ง สตรอว์เบอร์รี่ พริกหวาน บร็อกโคลี่ มะเขือเทศ ดอกกะหล่ำ
l วิตามินอี ช่วยเพิ่มการสร้างแอนติบอดี ช่วยสร้างเสริมการทำงานของทีเซลล์ ซึ่งทำหน้าที่หลักในการป้องกันการติดเชื้อร่วมกับบีเซลล์ แหล่งจากอาหาร เช่น ถั่วเปลือกแข็ง
วีทเจิร์ม
l ซีลีเนียม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์ที่ทำหน้าที่ภูมิคุ้มกัน แหล่งจากอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน อาหารทะเล ถั่วบราซิล
l สังกะสี ช่วยสร้างและเสริมการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดนิวโทรฟิล และคิลเลอร์เซลล์ ป้องกันเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลายโดยการลดไซโตไคน์ ซึ่งควบคุมการบวมอักเสบ เสริมสร้างบีเซลล์และทีเซลล์ แหล่งจากอาหาร เช่น วีทเจิร์ม ถั่วดำ เนื้อวัวไม่ติดมัน อาหารทะเลโดยเฉพาะปู
l โปรตีน ช่วยผลิตและรักษาปริมาณเซลล์เม็ดเลือดขาว แหล่งจากอาหาร เช่น ผลิตภัณฑ์นมขาดไขมัน ถั่วเมล็ดแห้ง เนื้อสัตว์ทุกชนิด ไข่ถั่วเปลือกแข็ง
l เบต้าแคโรทีน เพิ่มการทำงานของเซลล์ที่ดักจับเชื้อโรค แหล่งจากอาหาร เช่น แครอท ฟักทอง มันเทศ ผักใบเขียวจัด แคนตาลูปมะปรางสุก มะม่วงสุก มะละกอสุก
การมีโภชนาการดี นอกจากจะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานแล้ว การดื่มน้ำเปล่าสะอาดอย่างน้อยวันละ 8 แก้วจะช่วยทดแทนน้ำที่ร่างกายต้องเสียไปทางเหงื่อและปัสสาวะ และน้ำยังช่วยขจัดของเสียในร่างกายอีกด้วย ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ ที่สำคัญคุณควรปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลดความเครียด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ งดบุหรี่ ร่วมกับการมีโภชนาการที่ดี ร่างกายก็จะแข็งแรงมีภูมิคุ้มกันต่อต้านเชื้อโรคต่างๆ ได้
ขอฝากข้อมูลจาก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่ชี้ว่าสารสำคัญในฟ้าทะลายโจร กำจัดไวรัสได้แต่ยังไม่มีข้อยืนยันว่าใช้ป้องกันโควิด-19 ได้ จึงแนะให้ใช้เฉพาะเมื่อมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ตามสรรพคุณที่ระบุในบัญชียาหลักแห่งชาติเท่านั้น
ผศ.(พิเศษ)ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานกรรมการมูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี