สองสามสัปดาห์นี้ Mr.Flower ไม่ได้ชักชวนคุณๆ ไปเที่ยวที่ไหน เพราะรู้ว่าชวนไป คุณๆ ก็คงไม่ค่อยมีกระจิตกระใจจะไปเที่ยวในยามที่ข่าวเชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดไปในหลายสถานที่ของประเทศไทย ดังนั้นการอยู่บ้านหยุดเชื้อ เพื่อชาติ และเพื่อเราทุกคน จึงเป็นเรื่องที่ดีที่สุด รอให้เชื้อโควิด-19 ถูกควบคุมได้แบบอยู่หมัดเสียก่อน เราจึงค่อยไปท่องเที่ยวกันใหม่ดีกว่าครับ
สัปดาห์ที่แล้ว Mr.Flower นำเสนอเรื่องการช่วยหาอาหารให้ช้างตกทุกข์ได้ยากลำบากหิวโหย เพราะไร้งานทำ ซึ่งช้างทั้ง 27 เชือกอยู่ที่ตลาดน้ำอโยธยา พระนครศรีอยุธยารวมถึงการช่วยเหลือคนเลี้ยงช้าง จำนวนประมาณ 60 คน ที่พักอาศัยอยู่ในที่เดียวกันกับช้างโขลงดังกล่าว
การช่วยเหลือครั้งที่ผ่านมา (เฉพาะที่อยุธยา) พวกเราสั่งซื้อต้นสับปะรด (ย้ำว่าต้นสับปะรดจริงๆ ไม่มีผลสับปะรดเลยแม้แต่ผลเดียว) หนึ่งคันรถสิบล้อ ราคา 1 หมื่น 3 พันบาทสั่งจากจังหวัดระยอง ต้นสับปะรดถูกส่งถึงช้างเมื่อวันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม เวลาเช้าตรู่หลังจากเราได้นำกล้วยหอมและมะม่วงจำนวนหนึ่งไปบริจาคให้ช้างเมื่อวันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม (กล้วยหอมและมะม่วงบริจาคโดยเบนซ์ทองหล่อ) ซึ่งเราเช่ารถกระบะเล็กแล้วขับนำของไปบริจาคให้ช้างและคน
เมื่อช้างได้รับต้นสับปะรดจำนวนหนึ่งคันรถสิบล้อเรียบร้อยแล้ว โดยเรากระจายให้คนดูแลช้างนำไปเลี้ยงช้างให้ทั่วถึงและเท่าเทียมกัน เราได้รับคำขอบคุณจากทั้งช้างและจากคนเลี้ยงช้าง โดยช้างส่งเสียงร้องแปร๊นๆๆ เพื่อขอบคุณ พร้อมย่อขาหน้าทั้งสองข้างเพื่อแสดงความขอบคุณ แล้วก็โบกงวง พร้อมกับเต็นระบำโยกตัวไปมาเพื่อบอกเราว่าขอบคุณที่มีเมตตาต่อพวกเขาส่วนคนเลี้ยงช้าง เรานำข้าวสาร ข้าวเหนียว (รวม 8 ถุง ถุงละ 5 กิโลกรัม) และหอม กระเทียม พริกแห้ง ปลาร้า น้ำดื่ม และขนม พร้อมชา กาแฟ จำนวนหนึ่งไปมอบให้ เพื่อให้เขาได้แบ่งปันกันเอง
ในวันดังกล่าวนั้น เรานำทีมรายการ ไลฟ์ วาไรตี (รายการทีวีของแนวหน้า) ไปสัมภาษณ์พิเศษคนเลี้ยงช้างด้วย ซึ่งจะออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง NBT (ช่อง 11) วันอาทิตย์ เวลา 11 นาฬิกาในเร็วๆ นี้ โปรดติดตามชม
ต้องขอเรียนให้ทราบว่า ผู้อ่านแนวหน้าและผู้ฟังรายการวิทยุ Good Time (วิทยุจุฬาฯ FM 101.5) มีจิตเมตตาต่อสรรพสัตว์รวมถึงผู้คนตกทุกข์ได้ยากเสมอมา เพียงแค่เรากระจายข่าวไปในเวลาอันแสนสั้น หลายคนก็ร่วมบริจาคเพื่อช่วยเหลือช้างและคนอย่างอบอุ่น ทำให้เราได้ช่วยช้างที่สตึก บุรีรัมย์ (ห้าเชือก) โดยสั่งซื้ออาหารให้เป็นเงินทั้งสิ้น33,000 บาท และช่วยช้างที่ตลาดน้ำอโยธยา ในงวดแรกด้วยการซื้อต้นสับปะรดเป็นเงิน 13,000 บาท และสั่งอ้อยให้อีกหนึ่งคันรถกระบะเล็ก เป็นเงิน 6 พันบาท(อ้อยจะไปส่งปลายเดือนพฤษภาคม) นอกจากนั้น เรายังสั่งต้นสับปะรดให้ช้างในสัปดาห์ต่อๆ ไปอีกสัปดาห์ละหนึ่งคันรถสิบล้อ โดยจะจ่ายเงินให้ผู้นำสินค้าไปส่งหลังจากส่งสินค้าให้ช้างเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะรวมเป็นเงินอีก 26,000 บาท
ส่วนคนเลี้ยงช้าง พวกเราได้แค่เพียงซื้ออาหารแห้งให้เท่านั้น พร้อมกับให้เงินช่วยเหลือจำนวนเล็กน้อยไว้ โดยเราบอกกับเขาว่า ขอให้เขาช่วยตัวเองให้มากที่สุด ส่วนเรื่องช้างนั้น เราจะพยายามช่วยให้มากที่สุดเช่นกัน แต่ไม่รับปากว่าจะช่วยตลอดไป เพราะพวกเราไม่สนับสนุนการนำช้างมาให้คนนั่งบนหลังช้าง แต่คนเลี้ยงช้างบอกเราว่า เขาไม่ได้ทรมานช้าง เขารักช้างเหมือนคนในบ้าน แต่หากเขาไม่ให้ช้างทำงานแบบนี้ ก็ไม่มีรายได้เลี้ยงช้างและคนเขารับรองว่าเขาไม่ได้ทรมานช้างอย่างที่หลายคนเข้าใจผิด
การไปเลี้ยงอาหารช้างในครั้งนี้ทำให้พวกเราได้เห็นและได้เล่นกับลูกช้างอายุประมาณ 2 ปีด้วย เชือกหนึ่งเป็นพลายชื่อวาเลนไทน์ ขี้เล่นมาก ขอกล้วย อ้อยกินตลอดเวลา หากให้ช้าจะงอน และใช้งวงลากมือเพื่อให้นำกล้วยอ้อยมาให้กินโดยด่วน ส่วนอีกเชือกหนึ่งเป็นพัง ชื่อวิสาขา นิสัยเรียบร้อย ขี้อ้อน ชอบกินแตงโมแช่เย็นมาก เวลาเห็นเนื้อแตงโมสีแดงสด จะชูงวงแล้วร้องขอเสียงดังมาก พร้อมเต้นระบำให้ดูเพื่อขอแตงโมกิน เป็นภาพที่น่ารักมาก
สำหรับคุณๆ ที่สนใจจะไปเยี่ยมช้าง และเลี้ยงอาหารช้างด้วยกันในสัปดาห์หน้า โปรดติดต่อ 091-7233615 ขอแอบกระซิบทิ้งท้ายว่า มีผู้อ่านแนวหน้ารายหนึ่งซึ่งเป็นอดีตแม่ค้าขายเครื่องดื่มในโรงอาหารคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ (พี่ล้วน ขวัญใจนิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาฯ) อ่านคอลัมน์นี้แล้วบอกว่าครั้งหน้าขอไปร่วมเลี้ยงช้างด้วย ขออภัยที่ไม่ได้เอ่ยนามผู้บริจาคทุกท่าน เพราะทุกท่านบอกว่าไม่ต้องระบุชื่อ แต่ยินดีร่วมทำบุญทำทานด้วยกัน เพราะรู้จักผู้เขียนคอลัมน์นี้เป็นอย่างดี เนื่องจากร่วมงานบุญกันมาตลอด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี