ประเทศไทยเป็นเมืองร้อนมีที่ตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ทำให้ได้รับแสงแดดมากตลอดปี แต่ด้วยความที่เราเกิดและใช้ชีวิตอยู่จนคุ้นเคยกับแดดแรงๆ มาตลอด อาจทำให้บางคนละเลยไม่ได้ป้องกันดวงตาจากแสงแดดที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสายตาของเรา
ข้อมูลจาก นพ.ธีรวีร์ หงษ์หยก จักษุแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกระจกตา ต้อกระจกและการผ่าตัดแก้ไขสายตา เปิดเผยว่า ในความเป็นจริงแล้ว แสงแดดโดยเฉพาะแสงรังสีอัลตร้าไวโอเล็ต (Ultraviolet หรือ UV) ถ้าในระยะยาวสามารถนำมาสู่ความเสื่อมของตาและก่อให้เกิดโรคตาตามมาได้หลายโรค ไม่ว่าจะเป็น ต้อลม ต้อเนื้อ รวมทั้งการเพิ่มอาการของคนที่เป็นโรคตาแห้ง ทำให้เกิดต้อกระจกที่มาเร็วกว่าวัย หรือแม้กระทั่งเพิ่มความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อม
โดยปกติจักษุแพทย์หรือหมอตามักจะแนะนำคนไข้ คนใกล้ตัวให้ใส่แว่นกันแดดเสมอ โดยเฉพาะเวลาออกกลางแจ้ง ออกนอกอาคารเวลากลางวัน เพื่อลดความเสี่ยงโรคตาดังกล่าว อย่างไรก็ตามแว่นกันแดดอย่างเดียวอาจป้องกันไม่ได้ทั้งหมด ถ้าออกกลางแจ้งมากๆ นานๆ การใส่หมวกปีกหรือกางร่มก็จะช่วยได้อีกมาก
แว่นกันแดดที่เหมาะสมควรจะมีลักษณะ ดังนี้
1.เลนส์ที่สามารถกันรังสี UV ได้ดีแว่นสีเข้มสามารถกันแสงในช่วงที่ตามองเห็น แต่ความสามารถในการกันรังสี UV ไม่ได้ขึ้นกับความเข้มของสีแว่นเพราะ UV เป็นรังสีที่ตาเรามองไม่เห็น จึงต้องใช้อุปกรณ์พิเศษวัดความสามารถในการกรองรังสี UV ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อควรวัดดูว่าสามารถกันรังสี UV ได้มากกว่า 99% ซึ่งผู้ขายบางรายมีเครื่องวัดไว้บริการหรือดูจากฉลากของผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ สำหรับแว่นกันแดดที่ไม่กันรังสี UV ไม่แนะนำให้ใช้ เพราะเมื่อใส่แว่นกันแดดรูม่านตาจะขยาย รังสี UV จะยิ่งเข้าตามากและมีผลเสียกับดวงตายิ่งขึ้น
2.กรอบแว่นควรกว้างและแข็งแรง จะสามารถกันแสงได้มากกว่าแว่นกันแดดขนาดเล็ก เพราะแสงสามารถผ่านด้านบนและล่างของกรอบแว่นได้อีกมาก กรอบบางรุ่นมีลักษณะโค้งด้านข้าง กันลมได้ด้วยยิ่งดี จะช่วยได้มากโดยเฉพาะในคนไข้ที่เริ่มมีปัญหาของผิวกระจกตาแล้ว นอกจากนี้กรอบแว่นที่แข็งแรงจะปกป้องดวงตาจากอุบัติเหตุวัตถุกระแทกดวงตาเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้งด้วย ถ้าทำกิจกรรมที่เสี่ยงที่จะมีอะไรโดนตา เช่น ซ่อมแซม ตัดลวด เลื่อยไม้หรือโลหะ ควรเลือกใช้เลนส์ที่เหนียวแข็งแรง กันการกระแทกได้ดี พวก polycarbonate lens
3.กรอบแว่นควรจะใส่สบาย ใส่แล้วมั่นใจ จะได้อยากใส่บ่อยๆ ใส่เป็นประจำ เพราะถึงแว่นจะมีดีอย่างไรก็คงไม่มีประโยชน์อะไร ถ้าไม่ได้ใส่อย่างสม่ำเสมอเวลาออกกลางแจ้ง การที่มีกรอบแว่นมากมายให้เลือก ก็เพราะไม่มีกรอบไหนที่เหมาะกับทุกๆ คน
4.กรณีที่มีค่าสายตา สั้น ยาว เอียงก็สามารถใส่แว่นกันแดดได้ ซึ่งมีหลายทางเลือกมากในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นใช้คลิปแว่นกันแดดมาติดหรือหนีบเสริมกับแว่นสายตา ตัดแว่นสายตาอีกอันที่เคลือบกันแสงและรังสี UV ไว้ใส่กลางแจ้ง แว่นกีฬารุ่นใหม่จะมีกรอบสองชั้น ซึ่งชั้นในสามารถใส่เลนส์สายตาได้ด้วย การใช้เลนส์พิเศษที่สามารถปรับความเข้มได้ตามระดับของแสง (photochromic lens) ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สามารถพิจารณาได้ตามความชอบ หรือ Lifestyle ของแต่ละคนได้
5.คนที่ขับรถหรือออกทะเลมาก แว่นที่เป็น polarized lens ที่สามารถลดแสงสะท้อนแนวราบที่จะรบกวนสายตาได้ดี ไม่ว่าจะเป็นแสงสะท้อนจากพื้นถนน กระจกรถคันหน้า หรือผิวน้ำจะทำให้เห็นได้ดี และสบายตาขึ้นมาก
จะเห็นได้ว่าราคาไม่ใช่ปัจจัยหลักในการเลือกซื้อแว่นกันแดด แว่นกันแดดคุณภาพดีบางอันราคาไม่แพงเลยก็สามารถช่วยดูแลรักษาดวงตาของเราได้ โรคตาก็เหมือนกับหลายๆโรคของร่างกายที่การป้องกันดีกว่ามาตามแก้ไขรักษา เหมือนคำของ Desiderius Erasmus ที่ว่า“Prevention is better than cure” แค่เพียงคุณหยิบแว่นกันแดดที่คุณภาพดีมาใส่ประจำเวลาออกกลางแจ้ง ก็สามารถดูแลดวงตาและลดความเสี่ยงโรคตาได้หลายโรคเลยทีเดียว
สำหรับในสถานการณ์การระบาดระลอก 3 ของเชื้อโควิด-19 ที่รุนแรงกว่าเดิมส่งผลให้สภาวะเศรษฐกิจที่ทำท่าจะว่าดีขึ้นกลับตกต่ำอย่างต่อเนื่องลงไปอีก ข้อมูลล่าสุดจาก มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ แจ้งว่า การดำเนินงานของมูลนิธิฯได้รับผลกระทบอย่างหนักถึงขั้นวิกฤติก็ว่าได้เนื่องจากขาดแคลนข้าวสารอาหารและของใช้จำเป็นต่างๆ อย่างหนัก ซึ่งมูลนิธิฯได้บริโภคข้าวสารกว่า 7 หมื่น กก.ต่อปี สืบเนื่องจากมูลนิธิฯ มีนักเรียนและนักศึกษาของสถาบันศึกษาในการดูแลของมูลนิธิฯทั้ง 4 แห่ง ซึ่งเป็นคนพิการที่อาศัยอยู่ประจำรวมบุคลากรและครู ซึ่งอยู่ในความดูแลกว่า 800 คน ซึ่งทั้งหมดนี้มูลนิธิฯดูแลโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือคนพิการในทุกๆ เรื่องเพื่อให้พวกเขาเหล่านี้มีวิชาชีพ สามารถนำไปประกอบอาชีพที่ยั่งยืน มีรายได้เลี้ยงตนเอง ครอบครัว และอยู่ในสังคมได้อย่างเท่าเทียม ดังนั้น มูลนิธิฯจึงต้องพยายามหางบประมาณเพื่อนำมาใช้ในการบริหารจัดการ โดยการรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา รวมไปถึงการขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
สำหรับเรื่องอาหารการกิน ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ณ เวลานี้ เนื่องจากสต๊อกข้าวสารอาหารแห้งและของใช้จำเป็นของมูลนิธิฯลดลงอย่างมาก เรียกว่าเข้าขั้นวิกฤติก็ว่าได้ จึงขอความเมตตาของผู้มีจิตศรัทธาหรือพอจะมีกำลังให้ช่วยบริจาคข้าวสาร อาหารและของใช้จำเป็นต่างๆ อาทิ นม ทิชชู่ น้ำมันพืช หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ทั้งแบบเจลและแบบน้ำ เป็นต้น เพื่อต่อลมหายใจให้คนพิการ ให้ท้องอิ่ม มีแรงสู่ชีวิตต่อไป หรือท่านใดไม่สะดวกสามารถบริจาคเงินช่วยเหลือผู้พิการเหล่านี้ได้ โดยโอนเงินผ่าน ธนาคารกรุงเทพ สาขาบางละมุง ชื่อบัญชี มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เลขที่บัญชี : 342-3-04066-0 ทั้งนี้นำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้หรือสอบถามรายละเอียด โทรศัพท์ 02-5724042 ต่อ 8100, 8102 มือถือ 099-3944795, 094-6652223 ขอเชิญทุกท่านมาร่วมบริจาคเพื่อช่วยคนพิการได้ท้องอิ่มมีแรงสู้ชีวิตต่อไป
ผศ.(พิเศษ)ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานกรรมการ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี