บริเวณ old town เมือง Zaragoza ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่มีอัตลักษณ์และสวยงามมากนั่นคือ Cathedral of the Savior ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกมหาวิหารที่มีชื่อเล่นว่า La Seoที่ตั้งอยู่ ณ Plaza de la Seo นี้มีต้นกำเนิดมาจากจัตุรัสโรมันที่อยู่ใกล้แม่น้ำ Ebro จัตุรัสโรมันนี้ไม่ได้เป็นที่ทำการรัฐหรือหอการค้า แต่เป็นวิหาร มหาวิหารนี้ดั้งเดิมเคยเป็นตำแหน่งที่ตั้งของมัสยิดที่ถูกก่อตั้งโดย Hanas ben Abdallahas Sanani ผู้ใกล้ชิดกับท่านนบีมูฮัมหมัดแห่งอิสลาม เมื่อพระเจ้าอลองโซที่หนึ่งมาถึงเมืองนี้ พระองค์ไม่ได้กำจัดมัสยิดไปในทันที แต่มีบัญชาให้ย้ายมัสยิดออกจากเมืองไป และสร้างอาคารขึ้นใหม่ภายใต้ชื่อ San Salvador เพื่อใช้เป็นศาสนสถานของชาวคริสต์
ในช่วงปี 1140 ที่โบสถ์แทนที่มัสยิดนั้น นอกจากจะเป็นมหาวิหารแล้ว ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของ โรงอาหาร เรือนเพาะชำ และกุฏิสองหลังด้วย ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 13-15 ที่นี่ยังเป็นที่สวมมงกุฎของกษัตริย์ Aragon ทุกพระองค์ รวมทั้งยังเป็นที่แบบติส แต่งงานและที่ฝังพระศพกษัตริย์อีกหลายองค์ในช่วงเวลานั้นด้วย ในปี 1318 พระสันตะปาปาจอห์นที่ 22 ได้แต่งตั้งอารค์บิชอปแห่ง Zaragoza ทำให้เมืองนี้มีอิสระมากขึ้นอาร์คบิชอปแต่ละองค์ก็ได้ปรับปรุงมหาวิหารเรื่อยมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าน Don Lope ได้มีบัญชาให้ออกแบบมหาวิหารเป็นสไตล์โกธิคที่หรูหราจนกลายเป็นตัวอย่างของโบสถ์ในแคว้นเดียวกันและแคว้น Seville
ในปี 1403 ท่านเบเนดิกที่ 13 ซึ่งมีสัญชาติ Aragon ได้ทำการปรับปรุงให้อาคารเป็นแบบ Romanesque และเพิ่มหอคอยขึ้นอีก 2 หลัง ในวันที่ 14 กันยายน 1485 Pedro de Arbues หัวหน้าคณะ Aragon ถูกลอบสังหารขณะอธิษฐานในมหาวิหารทำให้ชาวบ้านเข้าใจว่าเป็นการลอบสังหารโดยราชวงศ์เนื่องจากช่วงเวลานั้นชาวบ้านส่วนหนึ่งได้เปลี่ยนไปเป็นชาวยิว นับจากนั้นชาวคริสต์จึงเริ่มเป็นปฏิปักษ์ต่อยิว พระสันตะปาปา Pius IX ต้องการแก้เกมจึงสถาปนา Pedro de Arbue ขึ้นเป็นเซนต์ในคริสต์ศตวรรษที่ 16-17 มหาวิหารยังเป็นศูนย์กลางของการเรียนดนตรีเสียงประสานของแคว้น Aragon และได้ผลิตลูกศิษย์ที่เป็นนักร้องประสานเสียงที่มีชื่อเสียงอีกหลายคน แต่ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 มหาวิหารแห่งนี้กลับเจอคู่แข่งสำคัญคือ Cathedral chapter of El Pilar และเสียเปรียบไปเพราะพระสันตะปาปาฟิลิปที่สี่ ทรงโปรดอีกแห่งมากกว่า
ในปี 1676 ท่านสันตะปาปา Clement X จึงตัดสินใจสงบศึกด้วยการควบรวมมหาวิหารทั้งสองเข้าด้วยกัน ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 มหาวิหารได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ให้กลายเป็นสไตล์บาโรค หลังจากนั้นมามหาวิหารก็ไม่ได้รับการปรับปรุงอีกเลยจวบจนครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 20 โดยได้รับการปรับปรุงใหม่นานถึง 23 ปี ซึ่งใช้เงินมากถึง2 ล้านเปโซ จากรัฐบาลแคว้น Aragon ศาสนจักรและรัฐบาลกลางของสเปน
นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสมาเยือน Zaragoza และได้เยือนมหาวิหารแห่งนี้ก็จะมีโอกาสชื่นชมความอลังการของสถาปัตยกรรมและประติมากรรมทั้งภายนอกและภายในโดยเฉพาะอย่างยิ่งแท่นบูชาต่างๆ ที่ล้วนวิจิตรบรรจงสมกับการเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกจริงๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี