มร.ปีเตอร์ บาเบจ
จากข้อมูลผลสำรวจดังกล่าวพบว่าเยาวชนในภูมิภาคเอเชียจำนวน 92٪ ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และจำนวน 85٪ บอกว่าโควิด-19ทำให้ธุรกิจหดตัวหรือจำกัดการเติบโตเพื่อความอยู่รอด นอกจากนี้ สถานการณ์เกิดขึ้นก็ได้แสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวและความยืดหยุ่นของวิสาหกิจที่นำโดยเยาวชนอย่างชัดเจนมากขึ้นเช่นกัน โดย 87٪พบว่า วิสาหกิจที่นำโดยเยาวชนมีการเปลี่ยนแปลงและปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาด และ 86٪ ได้คิดค้นนวัตกรรมเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่พร้อมทั้งเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงาน
ปัจจุบันภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นบ้านของเยาวชนคนหนุ่มสาวทั่วโลกคิดเป็น 55% หรือเยาวชนกว่า 660 ล้านคน ที่มีอายุระหว่าง 15-24 ปี โดยคนกลุ่มนี้คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ว่างงานในภูมิภาค ซึ่งการระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกได้สร้างความวุ่นวายทางเศรษฐกิจและส่งผลกระทบให้วิกฤติการว่างงานของคนกลุ่มนี้รุนแรงมากขึ้นในขณะเดียวกันเยาวชนเหล่านี้ก็เป็นผู้นำในการตอบสนองต่อวิกฤติด้วยการเป็นอาสาสมัคร คิดค้นนวัตกรรมทางสังคม และการเคลื่อนไหว
นางคานนี วิกนราชา ผู้ช่วยเลขาธิการและผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นดีพี (UNDP) กล่าวว่า ความเชื่อมั่นความเฉลียวฉลาด และพลังของคนรุ่นใหม่ถือเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ยูเอ็นดีพี และมูลนิธิซิตี้ ได้ริเริ่มโครงการ ยูธ โคแล็บ (Youth Co:Lab)เมื่อปี 2560 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนแก่กลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในการขับเคลื่อนและดำเนินการเพื่อเป้าหมายการพัฒนาธุรกิจที่ยั่งยืนเพื่อเพิ่มโอกาสเยาวชนในด้านต่างๆ ผ่านความเป็นผู้นำที่กระตือรือร้นมีจิตวิญญาณอันมุ่งมั่น ตลอดจนการเป็นผู้ประกอบการที่กล้าหาญ
มร.ปีเตอร์ บาเบจ ประธานกรรมการบริหาร ซิตี้ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ซิตี้ และมูลนิธิซิตี้ ได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรทั้งหมด เพื่อช่วยให้เยาวชนคนรุ่นใหม่สามารถพัฒนาวิธีแก้ปัญหาทางสังคมที่ใหญ่ที่สุด อันส่งผลกระทบต่อชุมชนของเยาวชน รวมถึงให้สามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งกลยุทธ์การฟื้นฟูหลังจากการระบาดของโควิด-19 จะต้องรวมมาตรการเพื่อจัดการกับวิกฤติการว่างงานของเยาวชนให้ลดน้อยลง โดยการเป็นผู้ประกอบการเพื่อสังคมถือเป็นอีกหนทางสำหรับคนรุ่นใหม่ในการสร้างงานให้สามารถรับมือกับความท้าทายที่ชุมชนของเยาวชนต้องเผชิญ และยังสามารถขับเคลื่อนการเติบโตอย่างครอบคลุมควบคู่ไปกับการพัฒนาที่ยั่งยืน
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปีที่ผ่านมาโครงการ ยูธ โคแล็บ (Youth Co:Lab) ได้ดำเนินการใน 25 ประเทศทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยมีการเจรจาระดับชาติ การจัดประชุมสุดยอดระดับภูมิภาค และความท้าทายด้านนวัตกรรมทางสังคม ปัจจุบันมีเยาวชนผู้เข้าร่วมมากกว่า 75,000 คน สร้างผู้ประกอบการทางสังคมหน้าใหม่8,000 คน และช่วยสนับสนุน และพัฒนาธุรกิจเพื่อสังคมรวมกว่า 1,000 แห่งทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ในขณะเดียวกันยังได้สร้างความร่วมมือกับพันธมิตรกว่า 192 ราย ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ เป้าหมายคือการสนับสนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ โดยเฉพาะผู้หญิงและเยาวชนที่ถูกกีดกันทางสังคมให้เชื่อมโยงเข้ากับธุรกิจ ผ่านการบ่มเพาะ การเพิ่มมูลค่า และการสนับสนุนทางการเงิน เพื่อพัฒนาแนวคิดของผู้ประกอบการรุ่นใหม่เหล่านี้ให้เป็นรูปแบบธุรกิจที่เป็นไปได้ในอนาคต ซึ่งหมดนี้จะช่วยลดผลกระทบทางสังคมอย่างยั่งยืนต่อไป
สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลสำรวจและโครงการยูธ โคแล็บ ได้ที่ https://www.youthcolab.org/٢٠٢١-summit
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี