วันจันทร์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
ปวงประชาร่มเย็น ใต้ร่มพระบารมี  พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์

ปวงประชาร่มเย็น ใต้ร่มพระบารมี พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์

วันพุธ ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.
Tag : ในหลวงรัชกาลที่10 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
  •  

นับเป็นความปีติยินดียิ่งของปวงชนชาวไทย เมื่อ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะทรงราชย์และเฉลิมพระปรมาภิไธย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกอบการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตามพระราชประเพณี ในห้วงเวลาวันที่ 4-6 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 เพื่อความเป็นสวัสดิมงคลของประเทศชาติและราชอาณาจักร ถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของแผ่นดินไทย เนื่องจากเป็นพระราชพิธีสำคัญเพื่อการเสด็จขึ้นครองราชย์โดยสมบูรณ์ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 10แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ พร้อมทั้งทรงมีพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระประมุข เป็นศูนย์รวมใจไทยทั้งชาติ ทรงเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทสมเด็จพระบรมราชบุพการีทั้งสองพระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ได้ทรงกระทำบำเพ็ญมาแล้วอย่างบริสุทธิ์บริบูรณ์


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพระราชกรณียกิจอย่างต่อเนื่องในการพระราชพิธีสำคัญต่างๆ ตลอดจนการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฎรของพระองค์ ทรงน้อมนำแนวพระราชดำริและพระราชปณิธานของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มาทรงปฏิบัติ ทรงแสดงความมุ่งมั่นพระราชหฤทัยที่จะทรง “สืบสาน รักษา ต่อยอดและครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” ตามแนวพระราชดำริในสมเด็จพระบรมชนกนาถ ให้เป็นที่ประจักษ์แก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด ทั้งด้วยพระราชดำรัส พระบรมราโชบาย แนวพระราชดำริตลอดจนพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ทั้งปวง

สืบสาน คือทรงนำองค์ความรู้ของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาสืบสานในการทรงงาน รักษา คือพระราชทานพระราชดำริแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลรักษาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้เกิดความยั่งยืน ต่อยอด คือสานต่อโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้สัมฤทธิผลตามพระราชประสงค์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงใส่พระราชหฤทัยในสุขทุกข์ของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ทรงรับเป็นพระราชภารกิจสำคัญที่จะดูแลประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบากเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ในประเทศไทยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 จนถึงปัจจุบัน ทั้งสองพระองค์ได้พระราชทานพระมหากรุณาธิคุณและพระราชทานความช่วยเหลือในทุกด้านมาโดยตลอด โดยเมื่อวันที่ 6 เมษายน พุทธศักราช 2563 ได้เสด็จออกณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชทานพระราชวโรกาสให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โรคโควิด-19 และมาตรการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล พร้อมทั้งรับพระราชทานพระบรมราโชบายเพื่อเป็นแนวทางในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ความว่า... “มีอะไรที่จะมีส่วนช่วยเหลือ ที่จะแก้ปัญหาก็ยินดี เพราะว่าก็เป็นปัญหาของชาติซึ่งเรื่องโรคระบาดนี่ก็ไม่ใช่ความผิดของใคร แล้วสิ่งที่เกิดขึ้น ก็คือ เรามีหน้าที่ที่จะดูแลแก้ไขให้ดีที่สุด อย่างที่เคยพูดไว้ว่า ถ้าเกิดมีความเข้าใจในปัญหา มีความเข้าใจ ไม่ใช่หมายความว่ายอมรับตามบุญตามกรรม แต่มีความเข้าใจในสถานการณ์ มีความเข้าใจในปัญหา และก็มีความรู้เกี่ยวกับโรค ก็คือเข้าใจในปัญหานั่นเอง อันแรกก็เป็นอย่างนี้

อันที่สอง ก็คือจากข้อที่หนึ่ง ก็คือการมีการบริหารจัดการ มีแผนเผชิญเหตุ มีระบบในการปฏิบัติ แก้ไขให้ถูกจุดรู้ปัญหา แก้ไขให้ถูกจุด โดยมีการบริหารจัดการ แล้วก็ในเวลาเดียวกันก็ต้องให้ประชาชนได้เข้าใจถึงวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง และเหตุผลที่จะต้องปฏิบัติ เพราะว่าการมีระบบ หรือแผนในการปฏิบัติตามแผนที่ได้วางไว้ตามความเป็นจริง ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แก้ถูกจุด ก็จะลดปัญหาลงไป จะแก้ได้ในที่สุด ก็เชื่อแน่ว่าจะต้องแก้ไขและก็เอาชนะอันนี้ได้ เพราะว่าประเทศของเรานี่ก็นับว่าทำได้ดี ประเทศของเรานี่น่าภูมิใจว่าทำได้ดี และก็ทุกคนก็ร่วมใจกัน ก็ดีกว่าที่อื่นอีกหลายที่ แต่บางทีก็ต้องเน้นเรื่องการทำงานมีระบบด้วยความเข้าใจ และการมีระเบียบวินัยในการแก้ไขปัญหา โดยมีเป้าหมายว่า เราจะต้องต่อสู้ให้โรคนี้สงบลงไปได้ในที่สุด เพราะว่าโรคมาได้ โรคก็ไปได้ โรคจะไม่ไปถ้าเราไม่แก้ไขปัญหา เราไม่แก้ไขให้ถูกจุด หรือเราไม่มีความขันติอดทนที่จะแก้ไข บางทีก็ต้องสละในความสุขส่วนตัวบ้าง หรือเสียสละในการกล้าที่จะสร้างนิสัยหรือสร้างวินัยในตัวเอง ที่จะแก้ไขเพื่อตัวเอง เพื่อส่วนรวม อันนี้เราก็ขอเป็นกำลังใจให้”

ด้วยความห่วงใยที่ทรงมีต่อพสกนิกรของพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างใกล้ชิด ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เพื่อจัดซื้อเครื่องมือและและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นเร่งด่วนในภาวะวิกฤติของการแพร่ระบาดเพื่อพระราชทานให้กับบุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาลทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น รถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย ห้องผ่าตัดแรงดันลบที่ใช้แยกผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนสายพันธุ์ใหม่ออกจากผู้ป่วยรายอื่นในโรงพยาบาล ห้องตรวจหาเชื้อ(Modular Swab Unit) โดยได้พระราชทานพระราชทรัพย์ให้เอสซีจีดำเนินการก่อสร้างให้ 20 โรงพยาบาลทั่วประเทศรวมถึงอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ภายใต้ “โครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทาน” พระราชทานให้กับโรงพยาบาล 123 แห่ง ใน 76 จังหวัดและกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยหน้ากากอนามัย Face Shield  ชุด PPE ชุดกันไวรัส PAPR เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว เครื่องช่วยหายใจ เครื่องติดตามการทำงานของหัวใจและสัญญาณชีพ(ICU Monitor) เครื่องเอกซเรย์ดิจิทัลเครื่องกำจัดเชื้อโรคและฟอกอากาศบริสุทธิ์ เครื่องช่วยกดหน้าอกเพื่อฟื้นคืนชีพ กล้องส่องทางเดินหลอดลมแบบเคลื่อนที่ โคมไฟผ่าตัดใหญ่โคมคู่เครื่องสกัดสารพันธุกรรมอัตโนมัติรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัย รถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ และสิ่งของอื่นๆ ที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดหาและพระราชทานไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ และชุมชนแออัด

และเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2564 ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กำลังอยู่ในขั้นวิกฤติจากการแพร่ระบาดระลอก 3 อย่างต่อเนื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชทรัพย์เพื่อสมทบทุนและจัดหาอุปกรณ์การแพทย์ให้กับโรงพยาบาลและสถานที่ต่างๆ เพื่อใช้ในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ดังนี้ พระราชทานพระราชทรัพย์ จำนวน 100,000,000 บาท สมทบทุนสร้างอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษาโรงพยาบาลศิริราชพระราชทานทรัพย์ จำนวน 2,407,144,487.59 บาท แก่ โรงพยาบาล วิทยาลัยแพทย์ และสถานพยาบาล 27 แห่ง เพื่อจัดซื้อเครื่องมือครุภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์พระราชทานทรัพย์ จำนวน 345,000,000 บาทแก่เรือนจำ ทัณฑสถาน และโรงพยาบาลแม่ข่ายของเรือนจำ 44 แห่ง เพื่อจัดซื้อเครื่องมือ ครุภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นเร่งด่วนในการรักษาชีวิตผู้ป่วย

ตลอดระยะเวลาของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2563 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ได้เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์เพื่อพระราชทานความช่วยเหลือด้วยพระองค์เองในหลายครั้ง อาทิ เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรโครงการพระราชทานความช่วยเหลือประชาชน ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ณ กรมทหารรักษาวังมหาดเล็กราชวัลลภ รักษาพระองค์ ทอดพระเนตรการทำถุงผ้าพระราชทานสำหรับบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคพระราชทานแก่ราษฎร การผลิตเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ นอกจากนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงเย็บหน้ากากผ้าสำหรับเป็นตัวอย่างให้กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์นำไปผลิตเพื่อพระราชทานแก่ข้าราชบริพารและราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งโปรดเกล้าฯ พระราชทานหน้ากากฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ให้กับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจขณะปฏิบัติหน้าที่เพื่อคลี่คลายสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ต่อมาในปีพุทธศักราช 2564 วิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 ได้ทวีความรุนแรงขึ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยและทรงให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ที่เสียสละกำลังกายและอุทิศตนในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วย ได้ทรงประกอบอาหารพระราชทานด้วยพระองค์เอง อาทิ ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นลูกชิ้น ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นมะระเครื่องยาจีน ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟลูกชิ้นเห็ดหอม ข้าวซี่โครงหมูอบกระชายขาวยอดผัก ไข่เจียวหมูสับกระชายซอย คั่วกลิ้งไก่กระชายขาว ลาบเหนือคั่วกระชาย ซึ่งล้วนเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบ 5 หมู่ มีประโยชน์ต่อสุขภาพอนามัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีส่วนประกอบของสมุนไพรไทยที่ช่วยบำรุงร่างกายและต่อต้านโรคโควิด-19 ได้แก่ กระชาย เป็นส่วนประกอบสำคัญในการประกอบอาหาร เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ให้มีสุขภาพแข็งแรงและสามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างเต็มกำลังความสามารถ นอกจากนี้ ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ครัวพระที่นั่งอัมพรสถานและหน่วยงานทหารจัดอาหารพระราชทานให้แก่ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดโรคไวรัสโควิด-19 ระหว่างวันที่ 24 พฤษภาคม-11 มิถุนายน 2564 รวมทั้งเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พุทธศักราช 2564 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลอากาศโทสุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นผู้แทนพระองค์ฯ ส่งมอบยาฟ้าทะลายโจรพระราชทาน จำนวน 2,000 ขวด แก่กรุงเทพมหานคร เพื่อใช้บำบัดรักษาเป็นเบื้องต้นสำหรับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีอาการไม่มากนัก ซึ่งประชาชนทุกหมู่เหล่าต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้

ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์ พระบรมราโชบาย “สืบสาน รักษา ต่อยอด” ปรากฏให้เห็นคือ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานความช่วยเหลือ เช่น โครงการก่อสร้างฝายบ้านเขาแดงพัฒนาฯ อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำชี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอบ้านแขหว้า-หนองบังละเหวจังหวัดชัยภูมิ และโครงการอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลแก่งดินสอ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดโครงการ ท่ามกลางประชาชนที่เดินทางมาเฝ้าฯรับเสด็จอย่างเนืองแน่น เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พุทธศักราช 2560 เดิมคือโครงการพัฒนาแหล่งน้ำห้วยโสมงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริให้จัดสร้างขึ้นตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2521 เพื่อเป็นแหล่งเก็บกักน้ำ ก่อสร้างเป็นเขื่อนดินความสูงกว่า 32 เมตร ความยาวกว่า 3,967 เมตร นอกจากจะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้งแล้ว ยังช่วยรักษาระบบนิเวศ ผลักดันน้ำเค็ม น้ำเน่าเสียในแม่น้ำปราจีนบุรีและแม่น้ำบางปะกง ซึ่งที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายให้กับพืชผลทางการเกษตรและระบบน้ำประปาในช่วงฤดูแล้งเป็นประจำเกือบทุกปี ที่สำคัญอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นแนวกันชนป้องกันการบุกรุกทำลายป่าไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลานและอุทยานแห่งชาติปางสีดารวมทั้งเป็นแหล่งน้ำที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในพื้นที่ป่าไม้อีกด้วย

โครงการจิตอาสาพระราชทาน904 วปร. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดโครงการหน่วยพระราชทานและประชาชนจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานชื่อของจิตอาสาและภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์จิตอาสาพระราชทาน เพื่อพระราชทานกำลังใจแก่ประชาชนทุกคนที่มีจิตอันเป็นกุศลในการทำความดีเพื่อส่วนรวมและประเทศชาติ โดยเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พุทธศักราช 2562 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานชื่อของจิตอาสาและภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์จิตอาสาใหม่ เพื่อทดแทนชื่อของจิตอาสาและภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์จิตอาสาที่ได้พระราชทานไว้แต่เดิม เพื่อเชิญไปใช้ในกิจกรรมต่างๆ อันเกี่ยวเนื่องกับจิตอาสาพระราชทาน โดยพระราชทานชื่อจิตอาสาว่า “จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร.” และให้ใช้ชื่อและภาพการ์ตูนจิตอาสาใหม่ในกิจกรรมอันเกี่ยวเนื่องกับจิตอาสาพระราชทานและในการจัดทำสิ่งของพระราชทานที่เกี่ยวข้องต่างๆ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนเป็นสำคัญ และทรงมีพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะทำให้ประเทศชาติมั่นคงและประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยทรงมีพระราชประสงค์ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและแนวพระราชดำริต่างๆ ในการบำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้ประชาชนและพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า และเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2560 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยราชการในพระองค์ร่วมกับหน่วยราชการต่างๆ และประชาชนทุกหมู่เหล่าที่มีจิตอาสาร่วมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วมในเขตชุมชน ปัญหาการจราจร และอื่นๆ เพื่อสืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงห่วงใยปัญหาน้ำท่วมและปัญหาการจราจรในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ อาทิ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดโครงการจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ในขณะนั้นระหว่าง วันที่ 28 กรกฎาคม-วันที่ 3 สิงหาคม พุทธศักราช 2560 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อออกปฏิบัติงานสาธารณประโยชน์ เช่น การดำเนินการเก็บผักตบชวา วัชพืชขยะมูลฝอย สิ่งกีดขวางทางน้ำ และขุดลอกคูคลองระบายน้ำ รวมทั้งทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ วัด และตลาดชุมชน เพื่อเป็นแบบอย่างในการพัฒนาสภาพแวดล้อมในชุมชน และขยายไปสู่จังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ อีกทั้ง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานภาพวีดิทัศน์ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติมหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร (ขณะทรงดำรงพระอิสริยยศ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ) ทรงร่วมกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะกิจกรรมด้านกีฬาและกิจกรรมจิตอาสา เพื่อเป็นแบบอย่างแก่เยาวชนด้านการออกกำลังกายและการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวม เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี พุทธศักราช 2561 ทั้งนี้ ได้จัดให้มีการลงทะเบียนจิตอาสาจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ ณ อาคารรับรองพระราชวังดุสิต อาคาร 606 สำนักพระราชวัง โดยประชาชนจิตอาสาที่เข้าร่วมกิจกรรมนั้นต่างได้รับสิ่งของพระราชทาน ได้แก่ หมวก ผ้าพันคอ และสมุดบันทึกความดี เพื่อเป็นกำลังใจให้ทำความดีต่อไป

กิจกรรม “อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” จากพระราชปณิธานที่หมายมั่นของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะทรง “สืบสานรักษา และต่อยอด” พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ที่จะทรงบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับอาณาประชาราษฎร์ให้อยู่รอดปลอดภัยจากภยันตรายนานัปการมีผืนแผ่นดินให้ประชาราษฎร์ได้อยู่อาศัย ประกอบสัมมาอาชีวะอย่างสุจริต และดำเนินวิถีชีวิตอย่างมีความสุข จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยราชการในพระองค์ฯ หน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน จัดงานฤดูหนาว พระราชทานความสุขความรื่นเริงให้กับประชาชน ภายใต้ชื่องานว่า “อุ่นไอรักคลายความหนาว” ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า ระหว่างวันที่ 8 กุมภาพันธ์-วันที่ 11 มีนาคม พุทธศักราช 2561 เป็นครั้งแรก เพื่อเผยแพร่ความรู้ความงดงามของความเป็นไทย ช่วยกันอนุรักษ์ฟื้นฟูและเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมประเพณีไทย ตลอดจนให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการทำบุญและสานต่อบุญไปยังผู้ประสบภัยด้านต่างๆ และปีถัดมาเป็นครั้งที่ 2 ภายใต้ชื่องานว่า “อุ่นไอรักคลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม พุทธศักราช 2561 ถึงวันที่ 19 มกราคม พุทธศักราช 2562 ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า โดย พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดงานในวันที่ 9 ธันวาคม พุทธศักราช 2561 หลังจากนั้น เวลา 16.00 น. ทรงปั่นจักรยานนำประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม “ปั่นจักรยาน Bike อุ่นไอรัก” ผ่านตามเส้นทางประวัติศาสตร์ คลองที่สำคัญ เริ่มจากพระลานพระราชวังดุสิตถึงสวนสุขภาพคลองลัดโพธิ์ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นจุดที่เป็นโครงการประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีประชาชนเฝ้าฯ รอรับเสด็จและชื่นชมพระบารมีตลอดเส้นทางทรงปั่นอย่างเนืองแน่น

ภายในงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ได้จัดแสดงนิทรรศการประวัติศาสตร์ที่ให้ความรู้ แสดงความผูกพัน ความรัก ความเทิดทูนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ถึงสมัยรัชกาลปัจจุบันกับประชาชน ที่มาของลำน้ำคูคลองสายต่างๆ วัฒนธรรมประเพณีที่งดงามแห่งสายน้ำ เช่น ขบวนเรือพระราชพิธี งานประดิษฐ์ไทยและอาหารชาววัง  บันทึกภาพกับภาพสามมิติแห่งความทรงจำ ร่วมกิจกรรมเสริมสร้างความรู้และส่งเสริมความรักความสามัคคีในครอบครัว การจัดจำหน่ายสินค้าจากร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์และร้านค้ารับเชิญ อิ่มอร่อยกับอาหารในตลาดบก ตลาดน้ำ ตลาดเดินชิมริมทาง ประชาชนที่มาร่วมงานนอกจากจะได้รับความสุข สนุกสนานแล้ว ยังได้รับชมการแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทุกวัน ทั่วทุกภูมิภาค ทั้งยังได้ร่วมทำบุญลุ้นรับรางวัลมัจฉาพาโชค สลากการกุศล รายได้จากการจัดงานทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่าย นำไปช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อไปกิจกรรมสวดมนต์ในพิธีมหามงคล บำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย และกิจกรรมพิธีสวดพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย ณ พระลานพระราชวังดุสิต ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญมาประดิษฐานเป็นพระประธานในพิธี เพื่อให้ประชาชนได้สักการะอันจะเป็นมงคลแก่ชีวิต ประเทศชาติ และสืบสานพระราชปณิธาน “ธรรมราชินี” ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพิมพ์หนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์ขึ้นใหม่ จากเดิมมีบทสวดมนต์ 28 บท ทรงให้เพิ่มเติมบทสวดมนต์อีกจำนวน 9 บท รวมเป็น 37 บทโดยพระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์พิมพ์บนปกหนังสือเจริญพระพุทธมนต์ดังกล่าวเพื่อพระราชทานแก่ผู้มาร่วมพิธี กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ นำไปมอบให้แก่ประชาชน นักเรียน นักศึกษา อย่างทั่วถึง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงให้ความสำคัญกับสุขภาพอนามัยและโภชนาการของผู้สูงอายุ เด็ก และเยาวชน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยราชการในพระองค์ เชิญอาหารพระราชทานไปพระราชทานเลี้ยงแก่ผู้สูงอายุ เด็ก และเยาวชน ไปพระราชทานเลี้ยงแก่ผู้สูงอายุ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันคล้ายวันพระราชสมภพและวันคล้ายวันประสูติของพระบรมวงศานุวงศ์ มาโดยตลอด ด้วยทรงมีพระราชประสงค์ที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่พสกนิกร รวมถึงผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์เหล่านี้ให้ได้รับประทานอาหารที่ดี มีคุณค่าทางโภชนาการ เหมาะสมตามวัย เพื่อให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีจิตใจที่แจ่มใส สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

นับเป็นบุญของแผ่นดินไทยที่มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงเปี่ยมด้วยพระมหากรุณาธิคุณและทรงอุทิศพระองค์เพื่ออาณาประชาราษฎร์ ด้วยพระราชประสงค์ที่จะทรงสืบสาน รักษาและต่อยอด พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ดังพระปฐมบรมราชโองการ “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘สืบสาน รักษา และต่อยอด’ ปวงประชาร่มเย็น ใต้ร่มพระบารมี  พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ‘สืบสาน รักษา และต่อยอด’ ปวงประชาร่มเย็น ใต้ร่มพระบารมี พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์
  • ‘โครงการปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ’ ในหลวง ร.10  ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ‘โครงการปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ’ ในหลวง ร.10 ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา
  • นิทรรศการศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติ  ‘72 พรรษา เทิดไท้องค์ราชัน มหาวชิราลงกรณ’ นิทรรศการศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติ ‘72 พรรษา เทิดไท้องค์ราชัน มหาวชิราลงกรณ’
  •  

Breaking News

เยียวยาจิตใจจากไฟสงคราม! ‘David’s Circle’พื้นที่ฟื้นฟูของชาวอิสราเอลในไทย

ปักหมุด 13 พ.ค.นี้ ‘เพื่อไทย’เปิดตัวโครงการใหม่‘Pheu Thai YPP’

ผบ.ตร.สั่งฟันเด็ดขาด! เหตุทำร้าย'ตำรวจ'ภายในหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา

เช็คผลที่นี่!!! 'เลือกตั้งเทศบาล'ส่วนใหญ่แชมป์เก่าคว้าชัย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved