ในช่วงเวลาที่การล็อกดาวน์ในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทุกๆ สถานที่ท่องเที่ยวโดยเฉพาะในกทม.ต้องปิดและงดกิจกรรมไปก่อนจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ดังนั้นช่วงนี้สำหรับคนที่รักงานศิลปะจึงจำเป็นต้องเที่ยวทิพย์ชมภาพศิลปะสวยๆ กันไปพลางๆ

ล่าสุด ในเฟซบุ๊ค ของ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ได้นำภาพดอกกุหลาบสีน้ำ ฝีมือของ อาจารย์อิงอร หอมสุวรรณ์ ศิลปินสีน้ำชื่อดังที่จะเตรียมมาจัดแสดงชุด “ดอกไม้และแจกัน” ในนิทรรศการกลุ่มที่ ริเวอร์ซิตี้ กรุงเทพ ประมาณปลายเดือนสิงหาคม 2564 ร่วมด้วยงานแสดงนิทรรศการของสมาคมศิลปินทัศนศิลป์นานาชาติ แห่งประเทศไทยครั้งที่ 14 ที่หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน กรุงเทพฯ มาให้ชมกัน

อาจารย์อิงอร หอมสุวรรณ์ กล่าวถึง ประสบการณ์ในการทำงานศิลปะสีน้ำด้วยความรักมากว่า 40 ปี ว่า “ความสนใจศิลปะจริงๆ แล้วมันคงจะอยู่ลึกๆ ข้างใน ชอบมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ เริ่มจากวาดตุ๊กตากระดาษและออกแบบชุดเสื้อผ้าเพื่อนำมาประกอบการเล่นในสมัย 60-70 ปีก่อน ตอนชั้นประถมเริ่มฝึกวาดลายเส้นรูปคน เช่น วิลเลี่ยมเชกเสปียร์ วาดจากรูปในหนังสือ แล้วให้คุณพ่อตรวจดูและวาดหน้าคนเรื่อยๆ มา ตอนอยู่มัธยมต้นจะทำคะแนนวาดเขียนได้ดีและได้รับคัดเลือกให้ไปวาดรูปแข่งขันกับโรงเรียนอื่นๆ จนเข้าศึกษาที่โรงเรียนสตรีวัดระฆังจนจบชั้น ม.ศ.5 เคยตั้งใจจะเข้าเรียนต่อที่คณะจิตรกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากรแต่คุณพ่อขอให้เรียนวิชาพยาบาล ที่เหมาะกับผู้หญิง ได้สอบผ่านข้อเขียนและสัมภาษณ์ที่ศิริราชพยาบาล ขณะเป็นนักศึกษาก็สนใจประวัติและผลงานของศิลปินโลก เช่นวินเซนต์ แวนโก๊ะ และได้ซื้อหนังสือมาดูงานและชมภาพยนตร์ประวัติของเขา ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้สร้างงานจนปัจจุบันนี้

อาจารย์อิงอร หอมสุวรรณ์

หลังจากจบพยาบาลศิริราช ได้ไปทำงานที่ N.Y.,USA และได้พบกับอาจารย์กาพย์ หอมสุวรรณ์ ซึ่งไปเรียนปริญญาโท สถาปัตยกรรมที่ University of California, Berkeley และท่านได้พาชมงานตามมิวเซียมที่ N.Y. และ Pennsylvania เป็นความประทับใจมากที่สุดในชีวิต เมื่อกลับมาเมืองไทยได้เข้าทำงานที่ห้องผ่าตัด ตา หู คอ จมูก โรงพยาบาลรามาธิบดี 15 ปี และลาออกมาช่วยสามีบริหารบริษัทสถาปนิก จึงได้เริ่มเรียน Drawing และสีเทียนจากอาจารย์กาพย์ หอมสุวรรณ์

จากนั้นได้แนะนำให้ไปเรียนสีน้ำที่วิทยาลัยช่างศิลป์ วังหน้า ถึง 3 ปี ปีละ2 เดือน 6 วันต่อสัปดาห์ เป็นโครงการอบรมจิตรกรรมสีน้ำสำหรับบุคลภายนอก ได้เรียนทฤษฎีสีและองค์ประกอบศิลป์ และดรอว์อิ้ง ในวันธรรมดา วันหยุดจะออกไปวาด Landscape, Seascape และ Still life โดยมี อาจารย์สวัสดิ์ ตันติสุข ศิลปินแห่งชาติอาจารย์ธงชัย รักปทุม เป็นผู้อำนวยการวิทยาลัยช่างศิลป์ อาจารย์สมศักดิ์เชาวน์ธาดาพงศ์ เป็นผู้อำนวยการวิทยาลัยช่างศิลป์ อาจารย์กมล สุวุฒโท อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ อาจารย์สรรณรงค์ สิงหเสนี และอาจารย์ที่วิทยาลัยช่างศิลป์ปีต่อมาได้สมัครเรียนสีน้ำมันที่คณะจิตรกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากรและสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์

ส่วนจุดเริ่มต้นของการวาดภาพกุหลาบ เกิดจากความชอบส่วนตัว จนกลายเป็นแรงบันดาลใจ ให้ลงมือวาดและปลูกสวนกุหลาบแบบออร์แกนิก ด้วยตนเองเพื่อใช้ในการจัดแจกันวาดภาพ และเป็นสื่อในการสอนสีน้ำต่อนักเรียนด้วย ซึ่งปัจจุบันปลูกกุหลาบที่บ้านอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ หลากหลายสีหลายพันธุ์ รวมแล้วกว่า 300 ต้นมีตั้งแต่กุหลาบพันธุ์ Bishop’s Castle ที่หอมมากสีชมพูหวาน กุหลาบมอญสีชมพู และแดงหอมและทานได้ด้วย Clair Matin และ Juliet เป็นต้น เวลาวาดรูปจะดึงกลีบกุหลาบออกมาดูสีที่ซ่อนอยู่โคนกลีบว่ามีสีอะไร เช่น เหลือง เขียวอ่อน จะเลือกกุหลาบที่มีกลีบซับซ้อน พลิ้วไหว ดูนุ่มตา และเห็นไส้ที่มีเกสรสีสวยๆ จะมีเสน่ห์มาก ก้านกุหลาบจะเลือกที่โค้งงอ มาจัดให้วาด

และที่ผ่านมาเกือบ 20 ปี จากการแสดงและจำหน่ายผลงาน รายได้ส่วนหนึ่งได้มอบเป็นทุนให้แก่นักเรียนศึกษาศิลปะในระดับมหาวิทยาลัย และวิทยาลัยช่างศิลป์ทั้ง 3 แห่งและวิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ นอกจากนี้ ยังได้มอบผลงานสีน้ำ เพื่อทำการประมูลนำรายได้ช่วยเหลือมูลนิธิต่างๆ ทั้งหมด ตลอดจนนำผลงานสีน้ำไปประดับตกแต่งตามอาคารของโรงพยาบาลหลายแห่ง เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ และเยียวยาจิตใจแก่ผู้มาใช้บริการและบุคลากรที่ทำงานในโรงพยาบาลด้วย เช่นโรงพยาบาลรามาธิบดี กรุงเทพฯ, โรงพยาบาลดารารัศมี เชียงใหม่, โรงพยาบาลดอยสะเก็ด เชียงใหม่, โรงพยาบาลทุ่งสง นครศรีธรรมราช และอีกหลายแห่งทางภาคใต้

อาจารย์อิงอรกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมงานแสดงสีน้ำ ชุด “ดอกไม้และแจกัน” แสดงนิทรรศการกลุ่มที่ ริเวอร์ซิตี้ กรุงเทพฯ ประมาณปลายเดือนสิงหาคม 2564 งานแสดงนิทรรศการของสมาคมศิลปินทัศนศิลป์นานาชาติ แห่งประเทศไทยครั้งที่ 14 ที่หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน กรุงเทพฯ และได้รับเชิญร่วมการงานแสดงชุด “Out of the box” กับกลุ่มศิลปินแม่หญิงเจียงฮาย ที่จังหวัดเชียงราย ในระหว่างนี้ผู้สนใจสามารถติดตามผลงานของอาจารย์ได้ที่เพจเฟซบุ๊ค https://web.facebook.com/engon.homsuwan