สำหรับคุณๆ ที่เป็นแฟนประจำของคอลัมน์ตะลอนเที่ยวคงทราบดีแล้วว่า สมาชิกของคอลัมน์นี้ และสมาชิกรายการวิทยุชื่อ Good Time (ออกอากาศทางสถานีวิทยุจุฬาฯFM 101.5 MHz วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 3 ทุ่ม) ได้ช่วยกันสมทบทุนช่วยเหลือช้างตกยากที่ไร้งานทำ ด้วยการซื้อต้นสับปะรด กล้วย อ้อย และจัดหาข้าวสาร อาหารแห้งให้กับคนเลี้ยงช้าง โดยที่ผ่านมาได้ช่วยช้างและคนเลี้ยงช้างซึ่งตกทุกข์ได้ยากอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และชลบุรี ในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน ปีนี้
ล่าสุดคนเลี้ยงช้างและช้างที่เคยได้รับความช่วยเหลือจากคณะของเราติดต่อมาเพื่อแจ้งข่าวว่า ทั้งช้างและคนเลี้ยงช้างกลุ่มหนึ่งจะเดินทางกลับบ้านเกิดที่จังหวัดสุรินทร์ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากทนอดและอดทนมานานนับปีจนในที่สุดก็ตัดสินกลับบ้านเกิดดีกว่า เพราะอย่างน้อยก็ประหยัดเงินค่ากินค่าใช้จ่ายรายได้ไปได้บ้าง
ดังนั้น ภาพที่นำมาเสนอให้คุณๆ ได้ชมในคอลัมน์วันนี้จึงเป็นภาพเก่าที่บางภาพเคยนำเสนอให้ได้รับชมรับทราบไปแล้ว แต่สาเหตุที่ต้องนำภาพเก่ากลับมาให้ชมอีกครั้งก็เพราะได้รับคำบอกกล่าวจากเจ้าของช้าง และคนเลี้ยงช้างที่พวกเราเคยให้การช่วยเหลือมาหลายครั้งฝากคำขอบคุณมาถึงพวกเราทุกคน และเป็นภาพที่น่าจะทำให้คุณดูแล้วมีความสุข เมื่อเห็นช้างและคนเลี้ยงช้างมีกินมีใช้บ้างในยามตกทุกข์ได้ยาก
คนเลี้ยงช้างฝากบอกว่า ขอบคุณในเมตตาจิต ขอบคุณในน้ำใจที่มีให้กับช้างและคนเลี้ยงช้าง แม้พวกเราจะช่วยพวกเขาไปแค่ 2-3 ครั้ง ด้วยการสั่งซื้อต้นสับปะรดจำนวนสี่คันรถสิบล้อ และซื้อกล้วย อ้อย และหญ้าเนเปียร์ให้อีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงให้อาหารจำนวนไม่มากนักกับคนเลี้ยงช้าง แต่พวกเขาก็บอกว่าจะขอจดจำความมีเมตตาจิตไปตลอดชีวิต และจะระลึกถึงความมีน้ำใจตลอดไปแล้วหากวันหน้าวันหนึ่งในอนาคตที่เขาจะสามารถตอบแทนบุญคุณได้ ก็ยินดีจะตอบแทนบุญคุณให้ด้วยความเต็มใจ
ต้องบอกว่า เมื่อ Mr.Flower ได้รับโทรศัพท์จากคนเลี้ยงช้างเมื่อสามสี่วันก่อน ซึ่งเขาโทรศัพท์มาแจ้งเพื่อจะลากลับบ้านเกิด และโทรฯ มาเพื่อแสดงความขอบคุณ ก็ได้ตอบกลับไปยังคนเลี้ยงช้างว่า พวกเรายินดีช่วยเหลือตามความสามารถ แม้จะไม่สามารถช่วยได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่สามารถช่วยให้ช้างและคนเลี้ยงช้างมีกินมีอยู่ที่ดีมากกว่าเดิมเท่าไรนัก แต่เราทุกคนก็ยินดีช่วย และเต็มใจช่วย โดยไม่หวังว่าเรื่องบุญกุศลหรือเรื่องใดๆ เป็นสิ่งตอบแทน แต่ช่วยเพราะมีจิตที่ต้องการจะเห็นช้างและคนรอดพ้นจากความอดอยากหิวโหยในบางมื้อบางคราวเท่านั้น แล้วก็บอกกับคนเลี้ยงช้างด้วยว่า เมื่อกลับไปถึงบ้านเกิดที่สุรินทร์แล้ว ก็ขอให้ช่วยส่งข่าวความเป็นอยู่ของทั้งช้างและคนเลี้ยงช้างให้ทราบเป็นระยะๆ ด้วย และหากพวกเรายังสามารถช่วยเหลือในเรื่องอื่นๆ ได้ในอนาคต ก็ยินดีจะช่วยเหลือต่อไป แต่ขออย่างเดียวคือขอให้คนเลี้ยงช้างรักและเมตตาต่อช้างให้มาก
คำตอบที่คนเลี้ยงช้างตอบคือ รับรองว่าจะรักและดูแลช้างให้ดีที่สุด เพราะเขาเกิดและอยู่กับช้างมานาน บางคนบอกว่าที่มีกินมีอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะช้างในยามที่ช้างมีความสุข เขาก็มีความสุขด้วย แต่ในยามที่ช้างตกทุกข์ได้ยาก พวกเขาก็ตกทุกข์ได้ยากด้วย ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าพวกเขาจะทอดทิ้งช้าง เพราะช้างเป็นเสมือนคนในครอบครัวของเขา และเป็นผู้มีพระคุณต่อเขาด้วยเพราะฉะนั้นเขาจึงให้คำสัญญาอย่างหนักแน่นว่า เขาไม่ทอดทิ้งช้างอย่างแน่นอน ซึ่ง Mr.Flower ก็บอกคนเลี้ยงช้างไปว่า หากในอนาคตวันที่โควิด-19 พ้นผ่านสังคมไทยไปแล้ว เราคงจะได้พบกันอีก โดยอาจจะไปเยี่ยมที่จังหวัดสุรินทร์ แล้วถ้าวันนั้นมาถึง Mr.Flowerจะชวนคุณๆ ไปเยี่ยมช้างและคนเลี้ยงช้างด้วยกันครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี