รศ.พญ.บุษยามาส ชีวสกุลยง
วันมะเร็งปอดโลก ซึ่งจัดขึ้นเพื่อรณรงค์ให้คนทั่วโลกหันมาตระหนักถึงภัยของมะเร็งปอด ซึ่งเป็นมะเร็งที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงและเป็นปัญหาสุขภาพระดับโลก จากความตระหนักดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดการจัดงานเสวนาภายใต้หัวข้อ “ดูแลปอด ดูแลใจ เพื่อผู้ป่วยมะเร็งปอด” โดยเป็นการร่วมมือกันระหว่างมูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง (Thai Cancer Society :TCS) กลุ่มสนับสนุนผู้ป่วยมะเร็งปอดและผู้ดูแล (Lung Cancer Patient Advocacy Group) แพลตฟอร์มความรู้สำหรับผู้ป่วยมะเร็งปอด LungAndMeและคณะทำงานมะเร็งปอดเพื่อคนไทย (Thai Lung Cancer Group : TLCG) เพื่อเจาะลึกถึงประเด็นต่างๆ เช่น สถานการณ์มะเร็งปอดและความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปอดในคนไทย การเดินทางของผู้ป่วยมะเร็งปอด ตั้งแต่แรกพบอาการไปจนถึงการติดตามการรักษา และการดูแลตัวเองในยุคโควิด-19 ของผู้ป่วยมะเร็งปอด
สถานการณ์มะเร็งปอดในปัจจุบันนับเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่น่าเป็นห่วงของไทย สถิติในปี 2563 ที่ผ่านมา มีอุบัติการณ์และอัตราการเสียชีวิตที่สูงเป็นอันดับสอง โดยปอดเป็นอวัยวะที่สำคัญต่อการดำรงชีวิต ดังนั้น เมื่อเกิดมะเร็งขึ้นจึงมีโอกาสเสียชีวิตสูง ในด้านของปัจจัยเสี่ยงแบ่งออกเป็นปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน ปัจจัยภายนอกเป็นปัจจัยที่สามารถควบคุมได้ เช่น การสูบบุหรี่และการได้รับสารพิษจากควันบุหรี่มือสองหรือมือสาม ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปอด รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น การสัมผัสกับแก๊สเรดอนและสารก่อมะเร็งอื่นๆ เช่น แร่ใยหิน โครเมียมและรังสี ในด้านของปัจจัยภายใน จะเป็นเรื่องของพันธุกรรม ซึ่งเกิดขึ้นจากยีนที่ผิดปกติทำให้เซลล์ในปอดแบ่งตัวอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นมะเร็งในที่สุด ซึ่งปัจจัยเสี่ยงทางพันธุกรรมนั้นจะพบได้มากในผู้ป่วยชาวเอเชียที่อาจไม่ได้มีปัจจัยเสี่ยงภายนอก เช่น ไม่ได้สูบบุหรี่ เป็นต้น
ผศ.นพ.ไนยรัฐ ประสงค์สุข
รศ.พญ.บุษยามาส ชีวสกุลยง อายุรแพทย์มะเร็งวิทยา โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ กล่าวว่า การเดินทางของผู้ป่วยมะเร็งปอด แบ่งออกเป็นสี่ขั้นหลักๆ หนึ่งคือ ก่อนที่จะตรวจพบมะเร็งผู้ป่วยควรสังเกตการณ์อาการและความเสี่ยงของตนเอง รวมถึงวิธีป้องกันและแนวทางการตรวจคัดกรอง ขั้นที่สองคือ เมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็งแล้ว เราจะมีการตรวจยืนยันอย่างไร เช่น เป็นมะเร็งชนิดไหน ระยะที่เท่าไหร่ มีตัวบ่งชี้ทางชีวภาพหรือไม่ ซึ่งนับเป็นขั้นตอนของการวินิจฉัย ขั้นตอนต่อมาคือการรักษา ควรศึกษาว่ามีแนวทางการรักษาตามชนิดและระยะอย่างไร ผ่าตัดได้ไหม ต้องฉายรังสีไหม มีตัวบ่งชี้ทางชีวภาพที่เหมาะกับยามุ่งเป้าหรือไม่ เพื่อวางแผนแนวทางการรักษาที่เหมาะสมให้แก่ผู้ป่วย
ขั้นตอนสุดท้ายคือ ช่วงเวลาที่ผู้ป่วยกำลังรักษาอยู่ บางคนรักษาเป็นเดือน แต่หลายคนจำเป็นต้องรักษานานเป็นปีถึงหลายปี จึงควรต้องมีการติดตามดูแลอาการและผลข้างเคียง หากเป็นมะเร็งปอดระยะต้น ผู้ป่วยมีโอกาสหายขาดได้ แต่หากเป็นมะเร็งระยะลุกลามเฉพาะที่หรือระยะแพร่กระจายก็สามารถรักษาและเฝ้าระวังอาการไปได้เรื่อยๆ ทั้งนี้เส้นทางการรักษาของผู้ป่วยแต่ละรายนั้นแตกต่างกันออกไป บางรายอาจรักษาได้อย่างราบรื่นเพราะมีการตอบสนองที่ดีต่อการรักษา แต่หากผู้ป่วยดื้อยาก็อาจประสบอุปสรรคระหว่างทางและอาจต้องมีการปรับแนวทางการรักษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลลัพธ์การรักษาที่ดีกว่า โดยตลอดการเดินทางของผู้ป่วย ผู้ดูแลหรือญาติควรช่วยให้กำลังใจกับผู้ป่วยและเดินไปด้วยกัน ช่วยสนับสนุนพวกเขาทำให้การเดินทางของพวกเขาเป็นไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น
ผศ.นพ.ไนยรัฐ ประสงค์สุข อายุรแพทย์มะเร็งวิทยา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กล่าวว่า แนวทางการรักษามะเร็งปอดขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของมะเร็ง โดยประโยชน์ของการรู้ว่าผู้ป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะอะไรคือ หนึ่ง เราสามารถรู้ได้ว่าพยากรณ์ของโรคจะเป็นอย่างไร สอง เราต้องวางแผนการรักษาแบบไหน และสาม จุดมุ่งหมายจะเป็นอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น หากผู้ป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะที่ 1-2 เราสามารถที่จะผ่าตัดได้ เพราะจุดมุ่งหมายคือการหายขาด ระยะที่สามหรือลุกลามเฉพาะที่ถือเป็นระยะกลางๆ ถึงแม้ยังไม่ได้เกิดการกระจายไปที่จุดอื่นของร่างกายแต่มะเร็งเป็นก้อนที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ จึงอาจผ่าตัดไม่ได้ ซึ่งในกรณีนี้อาจจะต้องใช้เคมีบำบัดหรือการฉายแสงเพื่อให้ก้อนยุบลงแล้วค่อยพิจารณาผ่าตัด หากผู้ป่วยเป็นมะเร็งระยะสามปลายๆ ผ่าไม่ได้แล้วจะรักษาด้วยยาเคมีบำบัดร่วมกับการฉายแสง ส่วนผู้ป่วยระยะที่สี่ หรือระยะแพร่กระจายการรักษาจึงจะเป็นการให้ยาเพื่อเพิ่มระยะเวลารอดชีวิต ลดการกำเริบ บรรเทาความเจ็บปวดที่เกิดจากตัวโรคและเพิ่มคุณภาพชีวิต ดังนั้นจุดมุ่งหมายของการรักษาผู้ป่วยระยะลุกลามเฉพาะที่หรือระยะที่สี่ไม่ใช่การหายขาด แต่เป็นการรักษาเพื่อลดอาการและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี โดยการเลือกยาและแนวทางการรักษาที่เหมาะสมจะช่วยทำให้ผู้ป่วยมีร่างกายที่แข็งแรงและใช้ชีวิตได้ตามปกติ
จิตนิภา ภักดี
จิตนิภา ภักดี ผู้ป่วยมะเร็งปอดชนิด EGFR ระยะที่สี่ ได้ร่วมเล่าประสบการณ์ตั้งแต่การวินิจฉัยไปจนถึงอาการปัจจุบันว่า ส่วนตัวเป็นมะเร็งปอดชนิดที่เกิดจากพันธุกรรม โดยมียีนผิดปกติเป็นชนิด EGFR ตอนตรวจพบมีอายุเพียง 29 ปีและค่อนข้างดูแลสุขภาพดีพอสมควร ไม่ดื่มเหล้าหรือสูบบุหรี่ และคนในครอบครัวก็ไม่มีปัจจัยเสี่ยงที่จะส่งต่อให้เราเป็นมะเร็งได้เลย ก่อนที่จะตรวจพบมะเร็ง เริ่มมีอาการไอเรื้อรัง แต่ไม่ได้มีเสมหะหรือเจ็บคออย่างใดจึงประมาทและไม่ได้คิดว่าตัวเองจะเป็นอะไรมาก จนเริ่มมีอาการแน่นหน้าอก เหนื่อยกว่าปกติ และน้ำหนักลดลงเรื่อยๆ จึงยอมไปพบแพทย์ในที่สุด ระหว่างที่รอผลตรวจอาการก็เริ่มแย่ลงตามลำดับ เริ่มหายใจไม่ปกติ และน้ำหนักลงไปกว่า 9 กิโลกรัม ต่อมาเมื่อทราบว่าเป็นมะเร็งปอดระยะแพร่กระจาย ชนิดที่มียีนกลายพันธุ์ EGFR จึงเริ่มการรักษาทันที ด้วยการทานยามุ่งเป้า โดยได้เริ่มทานยามาประมาณ 17 เดือน จากที่เรามีอาการผิดปกติหอบหายใจไม่ค่อยสะดวก หลังจากที่ทานยามุ่งเป้าไปเพียงหนึ่งสัปดาห์อาการก็เริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผลข้างเคียงอย่างเดียว คือมีผื่นคล้ายสิวขึ้นที่หน้าและลำตัว และทุกวันนี้เราก็สามารถใช้ชีวิตได้เกือบจะปกติเท่ากับตอนก่อนเป็นมะเร็ง
“การที่ผู้ป่วย ครอบครัว และผู้ดูแลร่วมเดินทางไปด้วยกัน แล้วตั้งสติและทำความเข้าใจกับโรคที่เราเป็น รับมือกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น จะช่วยให้เราเดินทางไปกับมะเร็งได้ง่ายขึ้น หากเราดูแลตัวเองดีๆ ก็อาจมีแนวทางรักษาใหม่ๆ เข้ามาในอนาคตทำให้เรามีโอกาสอยู่รอดมากขึ้น จึงอยากให้ทุกคนมีความหวังในการรักษาเสมอ มะเร็งเหมือนเข้ามาเตือนใจเราให้รักตัวเองและหันมาใส่ใจคนรอบข้างและกลับมาดูแลตัวเองให้ดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงโควิดเราควรเลี่ยงการพบปะผู้คน และป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด เพราะเรามีความเสี่ยงต่ออาการรุนแรงหากติดโควิด-19 ออกกำลังกายคลายเครียด ดื่มน้ำเยอะๆ ระมัดระวังตัวเองดูแลสุขภาพกายและใจให้ดีที่สุด”
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคมะเร็งปอดได้ที่ช่องทางต่างๆ เหล่านี้ LungAneMe : เฟซบุ๊ค LungAndMe, ยูทูบ LungAndMe,LINE Official @LungAndMe, เว็บไซต์ www.LungAndMe.com, คลับเฮ้าส์ @LungAndMe กลุ่มสนับสนุนผู้ป่วยมะเร็งปอดและผู้ดูแล : พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องมะเร็งปอดได้ในเฟซบุ๊คกลุ่ม ห้องนั่งเล่นพูดคุยเรื่องมะเร็งปอด (สำหรับผู้ป่วยและผู้ดูแลเท่านั้น), มูลนิธิเครือข่ายมะเร็ง :เฟซบุ๊ค Thai Cancer Society : TCS เว็บไซต์ www.thaicancersocitey.com และมะเร็งสมาคมวิทยา : เว็บไซต์ http://www.thethaicancer.com/index.html
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี