นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี เตรียมอำลาจากตำแหน่งที่เธอสร้างประวัติศาสตร์ อยู่ยาวนานมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2005 ในขณะที่สถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศยังคงมีความไม่แน่นอน
นางแมร์เคิล วัย 67 ปีได้รับการเรียกขานว่า “ผู้นำแห่งโลกเสรี” ในช่วงที่กระแสประชานิยมเบ็ดเสร็จครองพื้นที่ในยุโรปและสหรัฐฯ และได้รับฉายาว่า “นายกรัฐมนตรีตลอดกาล” ของเยอรมนี ชนะเลือกตั้งมา 4 สมัยติดต่อกัน และสามารถชนะสมัยที่ 5ได้อย่างสบายๆ หากลงเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 26 กันยายน แต่เราทราบกันดีว่า เธอประกาศตั้งแต่ปี 2018 ว่าจะลงจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคคริสเตียน เดโมเครติค ยูเนียน หรือซีดียู (CDU) ในการประชุมใหญ่พรรคปลายปีนั้น และจะไม่ลงเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีในปีนี้ นายกรัฐมนตรีหญิงเยอรมนีตอบผู้สื่อข่าวระหว่างเยือนสหรัฐฯ ครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนมิถุนายนว่าสิ่งที่เฝ้ารอมากที่สุดคือ การไม่ต้องตัดสินใจอยู่ตลอดเวลาอีกต่อไป
ในช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนี นางแมร์เคิลถือได้ว่าเป็นผู้นำที่สร้างความแข็งแกร่งให้กับเยอรมนีเป็นอย่างมาก นำพาประเทศและสหภาพยุโรป ฝ่าฟันวิกฤตต่างๆ มาได้ด้วยดี เธอเป็นแบบอย่างของนักการเมืองเยอรมนี ที่เป็นคนทำงานหนัก ไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาโจมตีใส่ร้ายกัน เธอไม่พูดมากไม่พูดเรื่องไร้สาระไม่คุยโวโอ้อวดตนไม่นิยมการแต่งตัวหรูหรา ใส่เสื้อผ้าชุดเดียวในทุกๆ งานแถมซักรีดด้วยตนเองอีกต่างหาก ไม่ชอบถ่ายภาพหรือนำภาพส่วนตัวมาลงสื่อโซเชียล บางครั้งโดนสื่อถามเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม โดยเฉพาะชุดที่ใส่ออกงานซ้ำๆ แมร์เคิลก็จะตอบว่า เธอเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ใช่นางแบบ ถือเป็นการปฏิบัติตนที่สมถะ ทุ่มเททำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน โดยไม่เคยมีข่าวหรือเรื่องราวเกี่ยวกับการทุจริตหรือประพฤติมิชอบแต่อย่างใด ตลอดเวลาที่เป็นนายกรัฐมนตรี
ผู้สนับสนุนยกย่องว่านางแมร์เคิลผ่านพ้นวิกฤตโลกครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยการแสดงความเป็นผู้นำที่แน่วแน่และจริงจัง ขณะที่ผู้วิพากษ์วิจารณ์มองว่า เธอเพียงแค่เอาตัวรอดด้วยการยึดแต่สิ่งที่น่าจะเป็นมติเอกฉันท์แบบครอบคลุมที่สุดเท่านั้น ขาดวิสัยทัศน์ในการตระเตรียมยุโรปและเยอรมนีสำหรับอนาคตข้างหน้า ศูนย์วิจัยพิวเผยผลสำรวจเมื่อปลายปี 2563 ว่า ประเทศตะวันตกส่วนใหญ่มั่นใจว่า นางแมร์เคิลจะตัดสินใจอย่างถูกต้องในประเด็นระดับโลก อย่างไรก็ดี การที่เธอตัดสินใจอย่างกล้าหาญที่สุดในปี 2015 ด้วยการเปิดประเทศรับผู้แสวงหาที่ลี้ภัยกว่า 1 ล้านคนส่งผลให้พรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี (AfD) ที่ต่อต้านผู้เข้าเมืองนำพากลุ่มการเมืองขวาจัดเข้าสภาผู้แทนราษฎรเยอรมนีได้เป็นครั้งแรกนับจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวเยาวชนตำหนิเธอที่ไม่เผชิญหน้ากับความเร่งด่วนเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งที่เคยผลักดันเรื่องการใช้พลังงานหมุนเวียนมาก่อน
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าใครจะได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของเยอรมนี ก็จะถือว่าเป็นผู้นำที่อ่อนด้อยประสบการณ์ และขาดซึ่งบารมีอย่างที่แมร์เคิลเคยส่องแสงเป็นดาวเด่นในยุโรปและบนเวทีโลกตลอดหลายปีที่ผ่านมา
และเชื่อว่า พวกเราก็คงจะคิดถึงเธอ หญิงเหล็กแห่งเยอรมนี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี