Gogolook ผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นป้องกันการฉ้อโกงชั้นนำระดับโลก ที่รู้จักกันดีในชื่อ Whoscall แอปพลิเคชั่นระบุตัวตนสายเรียกเข้าที่ไม่รู้จักและป้องกันสแปมมีมากกว่า 90 ล้านผู้ใช้งานทั่วโลก เปิดตัวในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2559 แจ้งเตือนภัยจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่ออกมาหลอกลวงประชาชนโดยการโทร.หาเหยื่อและใช้กลโกงให้เหยื่อหลงเชื่อเพื่อหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้
ฐิตินันท์ สุทธินราพรรณหัวหน้าฝ่ายการตลาด Gogolookประเทศไทย เผยว่า Gogolook ขอเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มภูมิคุ้มกันทางไซเบอร์และป้องกันภัยเบื้องต้นให้กับประชาชน โดยการตีแผ่คดีอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นจริงเพื่อช่วยประชาชนรับรู้เล่ห์เหลี่ยมกลโกงที่อาจเกิดขึ้น เช่น การหลอกลวงทางโทรศัพท์ SMS อีเมลหลอกลวง(Phishing) และข้อความทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้จะใช้วิธีโทรศัพท์เข้าเบอร์ของเหยื่อแล้วอ้างว่าโทรมาจากหน่วยงานต่างๆ เช่น บริษัทโทรคมนาคม ธนาคาร สถาบันการเงิน บัตรเครดิต หรือจากหน่วยงานภาครัฐ เพื่อหลอกถามข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน ที่อยู่ บัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิต และหมายเลข OTP เป็นต้น
“ในช่วงที่แก๊งนี้ออกมาหลอกลวงประชาชน เราจะเห็นยอดการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Whoscall แบบก้าวกระโดด ซึ่งเทรนด์นี้จะถูกพบเห็นบ่อยครั้งโดยเฉพาะช่วงระหว่างการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19ทาง Whoscall ได้ระบุสายหลอกลวงไปมากกว่า 1.8 ล้านสายในประเทศไทยในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม2564 ที่ผ่านมา เนื่องจากประชาชนอยู่บ้านมากขึ้นและอาจมีการสั่งของที่ต้องรับสายที่ไม่รู้จักมากมาย ซึ่งเบอร์แปลกที่โทร.เข้าอาจมาในรูปแบบของผู้ไม่หวังดีที่หลอกเอาข้อมูลส่วนตัวไปทำธุรกรรม หรือหลอกให้โอนเงิน หากเราไม่สามารถระบุตัวตนของคนที่โทรเข้ามาได้”
ทั้งนี้ ในยุคที่การรู้เท่าทันกลโกงเป็นเรื่องที่เราต้องคอยระวัง แอปฯ Whoscall จึงเป็นแอปที่ควรมีติดมือถือไว้ทุกเครื่องเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ป้องกันการฉ้อโกงและความอุ่นใจให้กับตัวเราและครอบครัว อีกทั้งยังช่วยตัดความรำคาญของเบอร์สแปมที่โทร.มาเสนอขายสินค้าและบริการต่างๆ ที่เราไม่สนใจอีกด้วย
“จากกรณีที่เกิดขึ้น ล่าสุดพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ คือโทร.ไปหลอกลวงประชาชน โดยพูดล่อลวงว่าโทร.มาจากบริษัทขนส่งพัสดุชั้นนำแห่งหนึ่ง แจ้งว่ามีพัสดุผิดกฎหมายถูกส่งมา แต่ถูกอายัดไว้ไม่สามารถนำพัสดุออกได้ และขอให้เหยื่อบอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อใช้ในการดำเนินการนำพัสดุออกหรือถ้าเหยื่อรู้ทันแจ้งว่าไม่ได้ส่งพัสดุ คนกลุ่มนี้จะอ้างว่าทางบริษัทจะนำข้อมูลไปประสานแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจ ซึ่งมีเหยื่อบางรายหลงเชื่อและเสียทรัพย์สินไปกับคนกลุ่มนี้ซึ่งวิธีป้องกันและรับมือ มีดังนี้ 1.ถ้ามีเบอร์ที่ไม่รู้จักโทรมา อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญเด็ดขาด แม้จะถูกปลายสายเร่งรัด เพราะในความเป็นจริงบริษัทหรือองค์กรต่างๆ ส่วนมากจะไม่ใช้วิธีการโทรเพื่อสอบถามข้อมูลส่วนตัวเหล่านี้
2.ดาวน์โหลด Whoscallแอปพลิเคชั่นระบุตัวตนสายเรียกเข้าที่ไม่รู้จัก ทำให้เราสามารถรู้ได้ว่าเบอร์ต้นทางนั้น เป็นเบอร์จากใคร โดย Whoscall มีฐานข้อมูลเบอร์มากกว่า 1.6 พันล้านเลขหมายทั่วโลกนอกจากนี้ ยังสามารถใช้เพื่อบล็อกหมายเลขรบกวนอีกด้วย” ฐิตินันท์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากต้องการร้องเรียน ปรึกษาเกี่ยวกับคดีทางไซเบอร์ สามารถแจ้งไปยังคอลเซ็นเตอร์ ศูนย์ PCT สำนักงานตำรวจแห่งชาติเบอร์ 1599 หรือ เบอร์ 081-8663000ได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ห้วงเวลา08.30-16.30 น. หรือผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอปฯ Whoscall ฟรี จาก App Store และ Play Store เมื่อติดตั้งและตั้งค่าสำเร็จ Whoscallจะช่วยระบุตัวตนผู้โทรเข้าที่ไม่รู้จัก และยังช่วยสแกนลิงก์ในข้อความ SMSที่อาจมีอันตรายได้อีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี