เราคือคนไทย เราเกิด เราอาศัยอยู่บนแผ่นดินนี้ แผ่นดินผืนนี้ให้ทุกอย่างกับเราตลอดมาวันนี้เราจึงขอทดแทนพระคุณของแผ่นดินไทย ด้วยการทำดีเพื่อแผ่นดิน และทำดีกับเพื่อนร่วมแผ่นดินทุกคน เพื่อให้แผ่นดินนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความรักใคร่กลมเกลียวสามัคคี
ไลฟ์ วาไรตี สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย นำคุณไปสนทนากับ คุณจักราวุธ แสวงผล นักประพันธ์เพลง และหม่อมหลวงวันรัชดา วรวุฒิ และหม่อมหลวงสวรรณศิริ ทองใหญ่ ตัวแทนผู้ขับร้องเพลงเราคือคนไทย
เรียนถามผู้ประพันธ์เพลงว่า อะไรคือแรงบันดาลใจสำคัญให้แต่งเพลงนี้ครับ
คุณจักราวุธ : ผมคิดถึงความดีความงามของแผ่นดินไทยเป็นอันดับแรกครับ ผมตั้งใจจะแต่งเพลงที่บอกเล่าความงดงามของแผ่นดินไทยมานานแล้วครับ จนกระทั่งเมื่อผมได้คุยกับหม่อมหลวงรจนาธร จิระประวัติ ณ สงขลา หรือพี่แคนดี้ ซึ่งพี่เขาเป็นผู้จุดประกายเรื่องนี้ขึ้นมาพี่แคนดี้บอกว่าครูแว่น (ชื่อเล่นของคุณจักราวุธ) เรามาทำเพลงบอกเล่าความดีงาม ความงดงามของแผ่นดินไทยกันไหม เรามาบอกและแสดงความรู้สึกดีๆ ของเราที่มีต่อแผ่นดินไทยด้วยกันนะคะ ตอนแรกพี่เขาบอกเพียงเท่านี้ ไม่ได้บอกว่าจะให้ใครร้อง พี่แคนดี้ให้ทำนองเพลงมาในเบื้องต้น เมื่อฟังทำนองแล้วบอกได้ว่ามลังเมลือง ยิ่งใหญ่โอ่อ่ามาก จากนั้นเราก็คุยกันทางโทรศัพท์เพียงไม่กี่นาที ได้ข้อสรุปว่า เนื้อเพลงต้องบ่งบอกถึงความรักชาติ รักแผ่นดินไทย รักสถาบันพระมหากษัตริย์ รักครอบครัว และรักลูกหลานไทยจากนั้นผมก็เริ่มแต่งเนื้อเพลง โดยประมวลเอาความคิดและภาพต่างๆ ที่ผมซึมซับจากของจริงที่ได้สัมผัสด้วยตาของตัวเอง เช่น การได้ชมขบวนเรือพระที่นั่งเมื่อครั้งในหลวงเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค จำได้ดีถึงภาพริ้วขบวน และเสียงแห่เรือที่ก้องสะท้อนกลับไปกลับมาในลำน้ำเจ้าพระยา และผมก็คิดถึงประโยคหนึ่งขึ้นมาคือ เราเกิดบนแผ่นดินผืนนี้ เราจะต้องทำความดีเพื่อทดแทน โดยไม่ขอสิ่งใดจากแผ่นดินนี้อีก แล้วผมก็นึกถึงภาพพระปรางค์วัดอรุณฯ ที่สะท้อนบนแผ่นน้ำในเจ้าพระยาผมทราบได้ทันทีว่านี่คือรากเหง้าอย่างหนึ่งของแผ่นดินของเรา พระปรางค์สูงเสียดฟ้ามากว่าศตวรรษ นี่คือการหยั่งรากลึกลงบนแผ่นดินไทย หากรากไม่ลึกไม่มั่นคงก็จะไม่สามารถตั้งตระหง่านได้ยาวนานเพียงนี้ ทุกครั้งเมื่อเห็นพระปรางค์องค์นี้สะท้อนเงาลงบนผิวน้ำ ไม่ว่าจะดูในเวลาเช้าหรือเย็นเรารู้ได้ทันทีว่านี่คือรากเหง้าของไทย เราสามารถยกมือขึ้นไหว้ได้ทันที เพราะนี่คือเครื่องบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ ขนบประเพณีวัฒนธรรมที่ล้ำค่าของไทย เรามีความเป็นไทยมายาวนานกว่า 700-800 ปีแล้ว ย้อนไปตั้งแต่สมัยสุโขทัย นี่คือความภาคภูมิใจของเราคนไทยทุกคน ถามว่ายากไหมกับการเขียนเนื้อเพลงนี้ ตอบว่าไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายนัก แต่ที่เขียนได้เพราะผมคิดถึงความเป็นไทยทั้งหลายทั้งปวง
พระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นสิ่งบ่งบอกว่านี่คือความศรัทธาของบรรพบุรุษของเราตั้งแต่ครั้งเก่าก่อน จึงทำให้พระปรางค์ยังคงอยู่และตั้งตระหง่านมาจวบจนทุกวันนี้ ใช่ไหมครับ
คุณจักราวุธ : ใช่ครับ เพราะแรงศรัทธาโดยแท้จึงทำให้พระปรางค์ยังดำรงคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ เราจะเห็นว่าองค์พระปรางค์ไม่โอนไม่เอียง ยังคงสูงตระหง่านเสียดฟ้ามานานกว่าศตวรรษทั้งๆ ที่วิศวกรรมในยุคโบราณยังไม่ดีเหมือนปัจจุบัน แต่บรรพบุรุษของเราท่านตั้งใจสร้างสิ่งนี้ให้อยู่คู่กับแผ่นดินของเรา ซึ่งต้องใช้ความศรัทธาอย่างมหาศาล
เรียนถามตัวแทนนักร้อง ซึ่งมีทั้งหมด 18 คน แต่วันนี้มาคุยกับเราสองคน เรียนถามท่านแรก หม่อมหลวงวันรัชดาว่าชักชวนกันอย่างไรจึงสามารถรวมตัวได้มากมายเช่นนี้
ม.ล.วันรัชดา : ตอนแรกพี่แคนดี้ก็คุยว่าอยากจะทำเพลงเพื่อบอกถึงความงดงามของเมืองไทย แล้วเรามาช่วยกันร้องเพลงนี้ โดยตอนแรกไม่คิดว่าจะเป็นงานใหญ่ขนาดนี้ แต่เมื่อคุยกันเริ่มลงตัวมากขึ้นพี่แคนดี้บอกว่าต้องมีนักร้องหลายคนมาช่วยกันร้อง ก็คิดว่าจะชวนใครดี โดยอันดับแรกก็คิดถึงกลุ่มพวกเราที่มีความรักชาติ รักบ้านเมือง และรักสถาบันพระมหากษัตริย์ เราคิดแค่ว่าเรามารวมพลังกันเพื่อแสดงออกถึงความรักบ้านรักเมือง ก็นึกถึงคนที่เคยร่วมร้องเพลงกันมาก่อน เช่น หม่อมหลวงสวรรณศิริ ทองใหญ่ และเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ ที่คุ้นเคยกันอีกหลายคน แต่เน้นประเด็นสำคัญคือต้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสำคัญ เมื่อพี่แคนดี้ให้จ๊ะโอ๋ (ชื่อเล่นของ ม.ล.วันรัชดา)เป็นมดงาน จ๊ะโอ๋ก็เริ่มชักชวนคนที่รู้จักและเห็นว่าร้องเพลงได้ เช่นโอ๋ (หม่อมหลวงสวรรณศิริทองใหญ่) พี่อิงค์ (อชิตะ ปราโมช ณ อยุธยา) พี่กี้(ดร.นฎาประไพ สุจริตกุล) และอีกหลายคนเลยค่ะ เช่น คุณเอ-กรวิช เทพหัสดิน ณ อยุธยา
เรียนถาม ม.ล.สวรรณศิริ ตอนที่เริ่มไปร้องเพลงนี้ อารมณ์เบื้องแรกของการเห็นเนื้อเพลง และได้ยินทำนอง เป็นอย่างไรบ้างครับ
ม.ล.สวรรณศิริ : เมื่อเห็นเนื้อเพลงครั้งแรกบอกได้คำเดียวว่า ตื้นตันใจมาก เนื้อหางดงามมากอ่านเนื้อเพลงหลายรอบ อ่านแล้วก็เห็นภาพชัดขึ้นๆ ตลอด เห็นภาพลอยเด่นขึ้นมาเลย เช่น ช่วงที่กล่าวถึงเงาพระปรางค์วัดอรุณฯ บนผิวน้ำเจ้าพระยา แล้วเมื่อได้ฟังทำนองเพลงครั้งแรกก็รู้สึกว่าไพเราะ แม้จะรู้ว่าร้องยากมากก็ตาม ฟังครั้งแรกๆ น้ำตาซึมเลยค่ะ เพราะเนื้อหากินใจ ทำนองงดงามมาก แล้วก็บอกกับตัวเองว่านี่คือแผ่นดินไทย นี่คือความงาม และนี่คือสิ่งที่เรารักและบูชามาโดยตลอด ตรงใจมาก แล้วยิ่งประโยคที่ว่า ฉันจะขอทำความดีเพื่อแผ่นดินไทย ไม่ขออะไรจากแผ่นดินนี้ ประโยคนี้ตรงใจสุดๆ ค่ะ
ในฐานะผู้แต่งเพลง ประโยคไหนที่ชอบมากที่สุดครับ
คุณจักราวุธ : ช่วงที่บอกว่า เสียงเห่เรือ เอ่อ เออ เอ้อ เป็นเหมือนเสียงย้ำเตือนว่าเราคือใคร ผมเชื่อว่าใครก็ตามที่ได้ยินเสียงเห่เรือสะท้อนก้องโค้งน้ำคุ้งน้ำจะรู้สึกได้เหมือนๆ กันเพราะหลายชีวิตบนแผ่นดินนี้ต้องเคยผ่านลำน้ำเจ้าพระยามาก่อน และรู้ว่าเจ้าพระยาคือเส้นเลือดใหญ่ของประเทศไทย แล้วยิ่งเมื่อได้เห็นขบวนเรือพระราชพิธีล่องลอยงามสง่าบนลำน้ำเจ้าพระยา ก็ยิ่งตื่นตันใจจนเกินบรรยาย ส่วนอีกตอนที่ชอบคือ พวงมาลัยในมือของยาย ลูกหลานต้องเอามาไหว้มากราบ มากอดขอพร ทำให้นึกถึงภาพเด็กผู้หญิงตัวน้อย ที่นำพวงมาลัยไปกราบไหว้คุณย่าคุณยาย นี่คือรากลึกของครอบครัวไทยแต่เก่าก่อน เห็นภาพผู้เฒ่าผู้ใหญ่กอดและลูบหัวลูบหลังให้พรลูกหลาน เห็นถึงความอบอุ่นในครอบครัวไทยในวันเก่าก่อน เราได้อยู่กับปู่ยาตายาย ลุงป้าน้าอา มีลูกหลานเหลนโหลน นี่คือความอบอุ่นในครอบครัวของเรา
เรียนถามตัวแทนนักร้องว่า คนขับร้องมี 18 คน แบ่งกันร้องอย่างไรครับ
ม.ล.วันรัชดา : คือจ๊ะโอ๋จะเลือกก่อนว่าพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ คนไทยที่ร้องเพลงได้ แล้วก็หารือกับพี่แว่น (จักราวุธ) เพื่อให้เกิดความลงตัวของเสียงร้องมากที่สุด เพราะบางช่วงร้องยาก บางช่วงร้องง่ายลงมาหน่อยหนึ่ง ช่วงที่ร้องยากมากๆ ก็ต้องให้นักร้องอาชีพ เช่น คุณเอ-กรวิช ร้องไปค่ะ
คุณจักราวุธ : เราเลือกเสียงนักร้องเป็นหลักก่อน แล้วเราก็แบ่งการร้องไปตามโทนเสียง เช่น เสียงสูงใช้เสียงผู้หญิง หากเป็นช่วงที่ต้องใช้พลังเสียงมากๆ ก็เลือกคนร้องที่มีพลังเสียงสูงพอ อย่างเช่น ดร.เอ-กรวิช สามารถร้องเพลงแบบโอเป-รา ได้ ก็ให้ร้องท่อนเดี่ยวที่ใช้พลังเสียงมากๆ โดยเฉพาะท่อนฮุก แต่ต้องบอกว่าผู้ขับร้องทุกคนร้องได้ดี เพราะร้องด้วยหัวใจ
เมื่อเริ่มร้องได้คล่องขึ้น รู้สึก in กับเนื้อเพลง และทำนองมากขึ้นไหมครับ และชอบช่วงไหนมากที่สุดครับ
ม.ล.สวรรณศิริ : (หัวเราะ) เมื่อร้องเริ่มคล่องมากขึ้น และคุ้นกับทำนองมากขึ้น ก็ฮัมเพลงนี้ทั้งวันเลยค่ะ แม้ตัวเองจะร้องเพียงประโยคสั้นๆ เท่านั้น แต่ก็แอบร้องได้ทั้งเพลง และชอบมากตรงประโยคที่ว่า ฉันไม่ขออะไรจากแผ่นดินนี้ ร้องช่วงนี้ซ้ำไปซ้ำมาตลอดเวลา เพราะตรงใจมากที่สุด และอยากให้ทุกคนคิดแบบนี้เหมือนๆ กันค่ะ
ม.ล.วันรัชดา : จ๊ะโอ๋ ชอบเนื้อทั้งบทเพลงเลยค่ะ โดยเฉพาะท่อนที่บอกว่า เรามีสิ่งที่ไม่มีใครมีเหมือนเรา โดยเฉพาะเรื่องความอ่อนน้อมถ่อมตน เคารพผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้เฒ่าผู้แก่ เราทุกคนมีความรักชาติบ้านเกิดเมืองนอน เรามีขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม สิ่งเหล่านี้เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน
ม.ล.สวรรณศิริ : เราทุกคนล้วนรักชาติรักบ้านเมือง รักพระเจ้าแผ่นดิน และรักคนไทยด้วยกันเอง เราทุกคนมีความสมัครสมานสามัคคีกันนี่คือพื้นฐานในจิตในใจของเรา
คุณจักราวุธ : ผมทำงานเพลงมา 30 ปี แต่งเพลงมาประมาณ 600 เพลง แต่งเพลงหลายแบบ แต่ขอบอกว่าเพลงนี้เป็นความภาคภูมิใจมากที่สุดของผมครับ ผมแต่งเพลงนี้ด้วยจิตบริสุทธิ์มาก แต่งด้วยความรู้สึกว่าเราต้องรักในสิ่งที่เราควรจะต้องรัก ต้องเทิดทูนต้องรักษาไว้ ผมมั่นใจว่าเราทุกคนตระหนักในคำว่าเราคือคนไทย เรามีรากมีเหง้า มีความเป็นมา และมีความผูกพันกันอย่างแนบแน่น เราทุกคนมีความรักกันและกัน โอบอ้อมอารี มีมิตรจิตมิตรใจให้กันและกันเสมอมา นี่คือความเป็นคนไทยครับ เราคือคนไทย
คุณจะได้พบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความรู้ รายการ ไลฟ์ วาไรตี ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางโทรทัศน์NBT กดหมายเลข 2 และชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTube ไลฟ์ วาไรตี
โปรเจกท์ #เราคือคนไทย ที่มีการรวมตัวกันของคนกลุ่มเล็กๆ อย่างกลุ่มราชสกุลรุ่นใหม่ มารวมตัว ร้องเพลงปลุกใจให้คนไทยรักชาติ นำโดย “แคนดี้-ม.ล.รจนาธร จิรประวัติ ณ สงขลา” ผู้อำนวยการผลิตเพลง “เราคือคนไทย” โดยมีเพื่อน พี่ น้องในแต่ละสายราชสกุลร่วมมาร้องเพลงด้วย อาทิ ม.ล.วันรัชดา วรวุฒิ, ม.ล.สวรรณศิริ ทองใหญ่, ม.ล.อรดิศ ดิศกุล สนิทวงศ์, วัฒนวงษ์ สนิทวงศ์ณ อยุธยา, ศุภาพิชญ์ ชุมสาย ณ อยุธยา, ม.ล.พิทยากรณ์รัชนี, อชิตะ ปราโมช ณ อยุธยา, ดร.กรวิช เทพหัสดิน ณ อยุธยา, ดร.นฎาประไพ สุจริตกุล, วรสุดา ชุมสาย ณ อยุธยา, ผศ.ดร.จารุดา นวรัตน์ รัชนี ณ อยุธยา, ดร.จารุวรี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา, และมีวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ Bangkok Symphony Orchestra (BSO) มาช่วยทำดนตรี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี