ในแผ่นดินอีสานใต้ของประเทศไทย อันได้แก่ จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษนั้น ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์อันยาวนานจากปราสาทหินโบราณมากมายเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ตั้งของชุมชนขนาดใหญ่ของชาวไทยเชื้อสายขแมร์ ซึ่งใช้ภาษาพูด และมีวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมายาวนาน
คำถามที่น่าสนใจคือ: “คนกลุ่มนี้มาจากไหน?”
นักประวัติศาสตร์และนักชาติพันธุ์วิทยาหลายท่านได้ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่น่าทึ่งระหว่างชาวเขมรพื้นถิ่นในพื้นที่นี้กับชนเผ่า "ขอม" ที่เคยรุ่งเรืองในดินแดนสุวรรณภูมิที่ลพบุรีและ พิมาย ซึ่งเป็นผู้สร้างอารยธรรมขอมโบราณอันยิ่งใหญ่ ดังที่ปรากฏในงานสถาปัตยกรรมระดับโลก เช่น ปราสาทหินพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ หรือปราสาทหินพิมาย ในประเทศไทย ก่อนการสร้างปราสาทนครวัด นครธม ในกัมพูชา
ประวัติศาสตร์กัมพูชาระบุว่า เมื่อสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 9 มีการปฏิวัติยึดอำนาจจากราชวงศ์มหิธรปุระที่นิยมสร้างปราสาทหิน โดยพวกทาสและชนชั้นล่าง นำโดยนายแตงหวาน ซึ่งได้ตั้งตนเป็นกษัตริย์ต้นราชวงศ์ตระเซาะผแอม ที่สืบเชื้อสายมาเป็นราชวงศ์นโรดมสมัยปัจจุบัน แล้วยกเลิกประเพณีสร้างปราสาทหินอย่างเด็ดขาด ทำให้ประเมินได้ว่าพวกราชวงศ์และผู้นิยมกษัตริย์ทั้งหลายจะต้องอพยพหลบหนีจาก พระนครหลวง ตามเส้นทางราชมรรคา มาสู่พิมายที่เป็นถิ่นเดิมของราชวงศ์มหิธรปุระ
ไม่ใช่การกวาดต้อน: เพราะไม่มีหลักฐานจากหน้าประวัติศาสตร์
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยสุโขทัยถึงปัจจุบัน ไม่เคยปรากฏเรื่องราวการกวาดต้อนประชากรจำนวนมากมายังบริเวณอีสานใต้หรือจากอีสานใต้ไปที่อื่น ในลักษณะเดียวกับเหตุการณ์ที่ชาวพม่าเคยกวาดต้อนคนสยามจากกรุงศรีอยุธยา การที่สยามเผาเมืองเวียงจันทน์แล้วกวาดต้อนชาวไทดำไปยังราชบุรี การจับเชลยจากปัตตานีมาขุดคลองแสนแสบ หรือการอพยพของชาวจามที่หนีภัยสงครามมาตั้งรกรากที่บ้านครัวในกรุงเทพฯ เลย
หากพวกคนไทยเชื้อสายแขมร์ในอีสานใต้ ได้อพยพหรือถูกกวาดต้อนมาจริง น่าจะมีการบันทึกถึงเรื่องนี้ในพงศาวดารหรือเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ แต่กลับไม่มีปรากฎอยู่เลย
ความแตกต่างนี้ชี้ให้เห็นว่า ชาวไทยเชื้อสายเขมรเหล่านี้อาจไม่ใช่ "ผู้มาใหม่" แต่เป็น "คนดั้งเดิม" ที่อาศัยอยู่ในดินแดนนี้มากว่าหนึ่งพันปีมาแล้วตั้งแต่ยุคที่อาณาจักรขอมยังรุ่งเรือง พวกเขาคือทายาทโดยตรงของผู้สร้างปราสาทหินทั้งหลาย และไม่ได้มีการย้ายถิ่นฐานครั้งใหญ่แต่อย่างใด
รากเหง้าอันแน่นแฟ้น: อัตลักษณ์ที่ไม่มีวันจางหาย
การสืบเชื้อสายมาตั้งแต่ยุคโบราณทำให้ชาวไทยเชื้อสายเขมรในบุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ มีความผูกพันทางวัฒนธรรมกับรากเหง้าอย่างลึกซึ้ง ภาษาเขมรที่ใช้ในพื้นที่นี้มีสำเนียงและคำศัพท์บางอย่างที่แตกต่างจากภาษาเขมรที่ใช้ในกัมพูชาปัจจุบัน ซึ่งอาจเป็นภาษาขอมในยุคโบราณที่ยังคงหลงเหลืออยู่
นอกจากภาษาแล้ว วัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อก็ยังคงสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นอย่างแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นการรำตรุษ, การแสดงเรือมอันเร หรือประเพณีแซนโฎนตา หรือ กันตรึม ซึ่งล้วนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมาอันยาวนานของพวกเขาในดินแดนนี้
ดังนั้น การเรียกคนกลุ่มนี้ว่า "คนไทยเชื้อสายขแมร์" อาจไม่เพียงพอที่จะอธิบายความลึกซึ้งของความเป็นมาของพวกเขา หากมองลึกลงไปในรากเหง้า จะพบว่าพวกเขาคือผู้สืบทอดอารยธรรม "ขอม" ที่เคยยิ่งใหญ่และยังคงยืนหยัดอยู่ในดินแดนแห่งนี้มานับพันปี
การมองชาวไทยเชื้อสายเขมรเหล่านี้ว่าเป็น "เจ้าของเดิม" ของดินแดนนี้ จึงเป็นมุมมองที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงทางประวัติศาสตร์มากที่สุด และเป็นการยกย่องบรรพบุรุษผู้สร้างปราสาทหินที่ยังคงยืนยงเป็นพยานแห่งกาลเวลามาจนถึงทุกวันนี้
โดย สุริยพงศ์
ขอบคุณภาพจาก https://www.beartai.com/
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี