​บทความพิเศษ : ‘รู้เขารู้เขมร’ ทำไมคนกัมพูชา ไม่ชอบให้เรียกว่า ‘เขมร’

​บทความพิเศษ : ‘รู้เขารู้เขมร’ ทำไมคนกัมพูชา ไม่ชอบให้เรียกว่า ‘เขมร’

วันพุธ ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2568, 15.14 น.

ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยา คนไทยเรียกคนและประเทศกัมพูชาว่า “เขมร” อ่านว่า “ขะ-เหมน” ซึ่งเป็นคำภาษาไทย เกิดจากการเพี้ยนเสียงของคนไทยจากคำว่า “ขแมร์” Khmer และเรียกคนกัมพูชาโบราณ ยุคสร้างปราสาทหินว่า “ขอม” ทั้งในพงศาวดาร จารึก และวรรณกรรม เช่น ขอมสบาดโขลญลำพง ผู้ที่กษัตริย์กัมพูชาส่งให้ไปปกครองกรุงสุโขทัยก่อนที่พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ก่อตั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานีไม่ยอมตกอยู่ใต้อำนาจขอม มีนิทานเรื่อง ขอมดำดิน เพลงขอมพิสัย เพลงเขมรไทรโยค เขมรลออองค์ เขมรปากท่อ เขมรกล่อมลูก เขมรไล่ควาย แต่เมื่อไม่นานมานี้ มีชาวกัมพูชาทำคลิปวีดีโอบอกว่า  ไม่ชอบให้เรียกว่าเขมร (ขะ-เหมน) แต่ให้เรียกว่า คนหรือประเทศกัมพูชา แทน

เมื่อถามต่อว่าทำไมไม่ชอบให้เรียกว่า “เขมร” ก็ได้รับคำตอบว่าเพราะ คำว่าเขมร มาจากภาษาโบราณว่า กฺญุม กมีร์ หรือ เกมร Khnum แปลว่า ทาส หรือ ข้ารับใช้ บ่าว ไพร่ ผู้ใช้แรงงาน Slave, Bondsman ซึ่งเป็นการมองเชิงลบ ดูถูก ด้อยค่า ลดทอน ล้าสมัย ที่คนกัมพูชาหลายคนไม่ชอบ คล้ายกับที่คนจีน ไม่ชอบให้เรียกว่า “เจ๊ก” คนกูย ไม่ชอบให้เรียกว่า “ส่วย” คนอาข่าไม่ชอบให้เรียกว่า “อีก้อ” และ คน มลาบรีไม่ชอบให้เรียกว่า “ผีตองเหลือง”  


ในสมัยโบราณ ชาวขแมร์เริ่มมีบทบาทในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใกล้เคียงกับชาวมอญโดยเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่พูดภาษาในกลุ่มภาษามอญ-ขแมร์และสร้างจักรวรรดิขแมร์ขึ้นในอดีต ชาวขแมร์แบ่งได้เป็นกลุ่มย่อย 3 กลุ่มตามถิ่นที่อยู่และภาษาที่ใช้คือชาวขแมร์กัมพูชา พูดภาษาขแมร์ ขแมร์สูงหรือขแมร์ลือ ជនជាតិខ្មែរខាងជើង อยู่ในประเทศไทย แถบอีสานใต้เช่น สุรินทร์ ศรีสะเกษ  บุรีรัมย์  พูดภาษาขแมร์ถิ่นไทยหรือ ขแมร์บน ที่เป็นสำเนียงอีสานใต้  ที่ไม่เหมือนกับแขมร์กัมพูชา และพูดภาษาไทยด้วยจำนวนราว 1 ล้านคน  บางส่วนมีความสามารถในการเลี้ยงช้าง  ทอผ้าไหม และ ชาวขแมร์กรอมหรือขแมร์ต่ำ  เป็นชาวขแมร์ที่อยู่ทางดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงทางภาคใต้ของประเทศเวียดนาม จำนวนราว 7 ล้านคน   ต่อมาเนื่องจาก สงครามกลางเมืองกัมพูชา ชาวขแมร์หลายพันคนได้อพยพลี้ภัยไปอาศัยอยู่ในประเทศ ฝรั่งเศสสหรัฐอเมริกา  แคนาดา และออสเตรเลีย

คำว่า “ขอม” เป็นคำภาษาไทย  ที่คนสุโขทัย สมัย พ.ศ. 1800  เรียกกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ทางใต้ของกรุงสุโขทัย  บริเวณละโว้ (ลพบุรี)  อยุธยา นครปฐม อีสานใต้   ส่วนในสมัยอยุธยา ขอมหมายคนชาวขแมร์ในพื้นที่กัมพูชาปัจจุบัน คำว่า ขอม มาจากคำภาษาแขมร์โบราณว่า กโรม หรือ กโรม (Karom) กรอม กล๋อม  กะหล๋อม     แปลว่าผู้อยู่ข้างล่าง อยู่ทางใต้  ที่ลุ่มต่ำกว่า  เช่น ลุ่มน้ำเจ้าพระยา หรือแม่น้ำโขง เชี่ยวชาญการสร้างปราสาทหิน  นับถือศาสนาพราหมณ์ฮินดู และพุทธมหายาน   ชาวกัมพูชาไม่เรียกตัวเองว่าขอม เพราะไม่เคยรู้จักขอม  ไม่เรียกตนเองว่าขอม   และภาษาเขมรไม่มีคำว่าขอม  เหมือนชาวอินเดียไม่เรียกตนเองว่า แขก  ทั้งยังไม่พบคำว่าขอมในจารึกขแมร์โบราณอีกด้วย    อักษรขอม พัฒนามาจากอักษรปัลลวะของอินเดียใต้ เช่นเดียวกับอักษรมอญ อักษรไทย และอักษรกัมพูชาปัจจุบัน  พวกขอมนี้ ตัดผมเกรียน กินข้าวเจ้า  นุ่งผ้าโจงกระเบน นับถือศาสนาพราหมณ์ ฮินดู หรือพุทธมหายาน  ต่างจากพวกลาวที่กินข้าวเหนียว ไว้ผมยาว นับถือพุทธเถรวาท 

คนกับพูชา  เรียกภาษา  ประเทศ และ ตนเองว่า  “ขแมร์ Khmer” ออกเสียงว่า แคฺมร์ (khmaer) ซึ่งมาจากภาษาโบราณ ว่า เกมร  ที่แปลว่าข้ารับใช้ที่เป็นชาวแขมร์

คนขแมร์เรียกดินแดนของตนมาตั้งแต่ยุคสร้างปราสาทหินสมัยก่อนเมืองพระนคร ว่า "กัมพูชา"หรือ “กัมพูเจีย” (Kambuja, Cambodia)  เป็นชื่อประเทศ  มาจากคำว่า "កម្ពុជា" (Kampuchea) ซึ่งมีรากศัพท์มาจากภาษาสันสกฤต ว่า กัมโพช หรือกัมพุชะ  "कम्बुज" (Kambuja)  ซึ่งเป็นชื่อแคว้นโบราณในประเทศอินเดีย  หมายถึง "ผู้สืบเชื้อสายจากเจ้าชายกัมพู" โดยอ้างอิงถึงพราหมณ์หรือฤาษี ชาวอินเดียชื่อกัมพูมุนี (Kambu Muni) หรือ กามพู สวยัมภูวะ หรือ โกณทัญญะ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษต้นตระกูลในตำนานของชาวเขมร ผู้สร้างอาณาจักรฟูนันในสมัยพุทธศตวรรษที่ 6 แล้วต่อด้วยอาณาจักรเจนละสมัยพุทธศตวรรษที่ 11     นับถือศาสนาพราหมณ์ฮินดูจากอินเดียที่บูชาพระอิศวร

ในพุทธศตวรรษที่ 17-18 อาณาจักรขอมมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองมหิธรปุระซึ่งอยู่บริเวณอีสานใต้ของประเทศไทย แถบปราสาทหินพิมาย และพนมรุ้ง  แล้วต่อมาย้ายไปสร้างปราสาทนครวัดที่เมืองพระนครหลวง  จนถูกปฏิวัติในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 9 โดยนายแตงหวาน

ในบันทึกของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ จำแนกชาวเขมรในสยามไว้ 4 พวก คือ จำพวกที่ 1 เขมรที่เป็นชาวสยามแท้ เรียกในราชการว่า “เขมรป่าดง” เป็นราษฎรเมืองสุรินทร์ สังฆะ ขุขันธ์ จำพวกที่ 2 เขมรเก่า เป็นคนเขมรที่อพยพมาจากเมืองโพธิสัตว์  เสียมราฐ  พระตะบอง ตั้งแต่สมัยพระเจ้าตากสินบ้าง รัชกาลที่ 1 บ้าง พวกนี้อยู่ที่มณฑลราชบุรีเช่น อ.โพธาราม อ.ปากท่อ   กรุงเทพ (ชุมชนวัดคอนเซ็ปชัญ  ซอยมิตตคาม ถ.สามเสน เขตดุสิต)    จำพวกที่ 3 เขมรกลาง คือ เขมรที่อพยพมาในสมัยรัชกาลที่ 3 พวกนี้โดยมากอยู่ในมณฑลกรุงเทพ  ปราจีนบุรี  นครปฐม(ริมแม่น้ำท่าจีน) สุพรรณบุรี(ต.บ้านโพธิ์  และ ต.ตลิ่งชัน)  จำพวกที่ 4 เขมรใหม่ คือ เขมรที่อพยพตั้งแต่ ค.ศ. 1858 มีมากในมณฑลบูรพา หรือเมืองพระตะบองเป็นต้น    คนไทยเชื้อสายขแมร์ที่มีชื่อเสียง  ได้แก่ นายควง อภัยวงศ์ (ชาวพระตะบอง) นายเนวิน ชิดชอบ (นักการเมืองชาวบุรีรัมย์)  นายสุรชัย  จันทิมาธร (นักดนตรีชาวสุรินทร์ )  นายพิศาล มูลศาสตร์สาธร (อดีต รมว.แรงงาน ชาวสุรินทร์)

เมื่อรู้แล้วว่าคนกัมพูชา ไม่ชอบให้เรียกว่า “ขะ เหมน” ที่คนไทยเรียกมาหลายร้อยปี   เพราะแปลว่า ข้าทาส หรือคนรับใช้ คนไทยก็อย่าเรียก  แต่เรียกว่า คนกัมพูชา  และประเทศกัมพูชา ก็หมดเรื่อง ไม่เห็นจะมีปัญหาที่ไหน     

โดย  สุริยพงศ์

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top