การกีฬาแห่งประเทศไทยเชิดชูเกียรตินักกีฬาคนพิการ กับภาพยนตร์สารคดี‘WONDER HERO ฮีโร่ ไม่เคยแพ้’

สร้างแรงบันดาลใจและเติมพลังให้กับประชาชนในการสู้ชีวิต

ปัจจุบันการกีฬาแห่งประเทศไทย มุ่งเน้นเรื่องการเสริมสร้างศักยภาพการกีฬาในการสร้างคุณค่าทางสังคมและพัฒนาประเทศ รวมถึงส่งเสริมการกีฬาเพื่อพัฒนาสู่ระดับอาชีพ ซึ่งนักกีฬาคนพิการเป็นที่สนใจของประชาชนชาวไทยอย่างมากและสามารถสร้างแรงบันดาลใจและสร้างแรงจูงใจให้กับนักกีฬาและประชาชนทั่วไป ซึ่งนักกีฬาคนพิการของไทยประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในระดับโลก จึงเล็งเห็นว่าการยกย่องเชิดชูเกียรตินักกีฬาคนพิการ บุคลากรกีฬาคนพิการ และบุคลากรกีฬาอาชีพ สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับประชาชนทั่วไปในการพัฒนาตนเองสู่การเป็นนักกีฬา และเพื่อต่อยอดสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพในระดับโลก

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้จัดทำโครงการและดำเนินการผลิตภาพยนตร์สารคดี “WONDER HERO ฮีโร่ไม่เคยแพ้” เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรตินักกีฬาคนพิการ บุคลากรกีฬาคนพิการ และบุคลากรกีฬาอาชีพ อัตชีวประวัตินักกีฬาคนพิการสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพในการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ โดยรูปแบบของภาพยนตร์สารคดีจะดำเนินเรื่องโดยกลุ่มนักกีฬาคนพิการที่ก้าวข้ามข้อจำกัดทางด้านร่างกาย พัฒนาศักยภาพของตนเองจนเป็นตัวแทนประเทศไทยในการแข่งขัน Tokyo 2020 Paralympics และกลุ่มผู้ดูแลนักกีฬา วิธีในการคัดเลือกนักกีฬา การฝึกซ้อมที่ต้องใช้เทคนิคพิเศษสำหรับนักกีฬาคนพิการ ความพร้อมสู่เป้าหมายในการแข่งขันและความสำเร็จ รวมไปถึงผลงานการแข่งขันของนักกีฬาใน Tokyo 2020 Paralympics

โดยการดำเนินเรื่องจะสัมภาษณ์เจาะลึกถึงความรู้สึกของเหล่าทัพนักกีฬาผู้พิการ นำโดย พงศกร แปยอ, ประวัติวะโฮรัมย์, สายสุนีย์ จ๊ะนะ, ขวัญสุดา พวงกิจจา,รุ่งโรจน์ ไทยนิยม, นักกีฬาบอคเซียประเภททีมและนักกีฬาฟุตบอลตาบอด ซึ่งบางคนพิการตั้งแต่กำเนิด แต่นักกีฬาบางคนเพิ่งมาพิการ ทำให้เห็นถึงความรู้สึกในใจของพวกเขา แต่การเปลี่ยนมุมมองและทัศนคติทำให้นักกีฬาคนพิการเห็นคุณค่าในตัวเอง และเริ่มต้นที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นนักกีฬา การฝึกซ้อมที่ต้องมีความตั้งใจ ความอดทน ความไม่ย่อท้อ รวมไปถึงเป้าหมายต่อไปในชีวิตหลังจากจบการแข่งขัน ซึ่งการเล่นกีฬาและเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยทำให้ชีวิตของนักกีฬาคนพิการเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
นอกจากนี้ การเล่นกีฬาไม่ใช่แค่เพื่อการแข่งขัน หรือการได้เหรียญรางวัล แต่ยังสามารถสร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้กับนักกีฬาอีกด้วย

พงศกร แปยอ นักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งอันดับ 1 ของไทย กล่าวว่า “การที่ได้มาเป็นนักกีฬาในตอนแรกคิดแค่ว่าเล่นกีฬาเพื่อพัฒนาตนเอง ไม่ได้คิดถึงขั้นที่จะเป็นนักกีฬาที่ได้ชัยชนะและคว้าเหรียญรางวัลให้กับประเทศไทย การฝึกซ้อมในช่วงแรกต้องมีการใช้วีลแชร์ที่ไม่คุ้นเคย จึงทำให้ต้องปรับตัวอยู่พักใหญ่ และในการแข่งขันพาราลิมปิก โตเกียวเกมส์ 2020 ยังตั้งเป้าหมายในการสร้างสถิติโลก แต่เกินคาดที่สามารถคว้าเหรียญทองได้ถึง 3 เหรียญ และยังสามารถทำลายสถิติพาราลิมปิก และสถิติโลก สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับกีฬาคนพิการ นอกจากนี้ยังมองว่าการเล่นกีฬาสามารถสร้างอาชีพและเลี้ยงครอบครัวได้ รวมถึงทำให้ครอบครัวภาคภูมิใจ”

รุ่งโรจน์ ไทยนิยม นักกีฬาเทเบิลเทนนิสกล่าวว่า “เริ่มจากการที่มองหากีฬาที่ตนเองสามารถเล่นได้ เพื่อพัฒนาศักยภาพทางด้านร่างกาย โดยไม่ได้มีเป้าหมายในการเป็นนักกีฬาอาชีพ และนำคำพูดของคนรอบตัวมาเป็นแรงผลักดันในชีวิต จึงเริ่มเล่นกีฬาเทเบิลเทนนิส เมื่อได้เล่นทุกวันทำให้ร่างกายมีการพัฒนาและแข็งแรงมากขึ้น จึงทำให้มีโอกาสเข้าสู่การเป็นนักกีฬาเต็มตัว ซึ่งมีความคิดถ้าคิดแต่ว่าพิการ ไม่กล้าออกไปสู่กับโลกภายนอก ก็จะไม่สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดของตนเองได้ ทุกอย่างในชีวิตให้ลองลงมือทำก่อนก่อนที่จะพูดว่าทำไม่ได้ ถึงแม้ในระหว่างการแข่งขันจะเจ็บหรือปวดร่างกายแค่ไหนก็ต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และการที่จะไปแข่งขันกับคนอื่นต้องทำตัวเราให้ชนะร่างกายตัวเองให้ได้เสียก่อน”

สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบอัศวินกระบี่มือหนึ่งของไทยผู้คว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ที่กรุงโตเกียว กล่าวว่า “ช่วงแรกของสถานการณ์โควิด ทำให้การแข่งขันถูกเลื่อนออกไป การฝึกซ้อมไม่มีทิศทาง ไม่สามารถฝึกซ้อมได้อย่างต่อเนื่อง แต่ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการพาราลิมปิกเกมส์ ได้จัดพื้นที่ให้นักกีฬาคนพิการได้ฝึกซ้อมอย่างเต็มที่มีการตรวจคนเข้าออกสนามฝึกซ้อมอย่างเข้มงวด และสุดท้ายระยะเวลาการฝึกซ้อมที่ยาวนานขึ้นก็ทำให้ร่างกายแข็งแรง แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จึงทำให้สามารถคว้าเหรียญรางวัลมาให้ประชาชนชาวไทย”

ในมุมมองของผู้ดูแลนักกีฬามองเห็นว่ากีฬาบางประเภทไม่ได้จำกัดเฉพาะคนพิการ แต่แพร่หลายมากขึ้นซึ่งมีการนำเอากีฬาของคนพิการนำไปเป็นกีฬา หรือกิจกรรมของบุคคลทั่วไป จากการฝึกซ้อมนักกีฬาคนพิการจะไม่ได้มีแค่การฝึกซ้อมกีฬาอย่างเดียว แต่จะมีทางด้านจิตใจร่วมด้วย ซึ่งผู้ดูแลนักกีฬาจะต้องศึกษาและสัมผัสเรื่องราวของนักกีฬาแต่ละคน เพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนเทคนิคในการพูดและการฝึกซ้อมที่แตกต่างกัน ซึ่งนักกีฬาคนพิการทุกคนมีความพยายามที่อยากจะสู้ ซึ่งเป็นหนึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้การฝึกซ้อมและการแข่งขันประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจ

ทัศนีพรรณ สิวราวุฒิ โค้ชผู้ฝึกสอนกีฬาฟันดาบวีลแชร์ทีมชาติไทย กล่าวว่า “นักกีฬาคนพิการทุกคนมีความพยายาม และพร้อมที่จะสู้ การที่คนพิการได้มาเล่นกีฬาทำให้พวกเขาได้เปิดโลกใหม่ ได้เล่นกีฬาใหม่ๆ เจอสังคมและเพื่อนที่เป็นคนพิการเหมือนกันจากทั่วโลก สำหรับการแข่งขันจะต้องตั้งเป้าหมายในการแข่งทุกครั้ง โดยการพูดคุยกับนักกีฬาว่าถ้ามีเป้าหมายที่ตรงกันก็จะสามารถทำให้การฝึกซ้อมไปในทิศทางเดียว ที่สำคัญต้องศึกษาและเรียนรู้คู่ต่อสู้ และการสร้างสถิติให้กับตัวเองรวมถึงระดับโลก”

สัมฤทธิ์ คชศิลา โค้ชผู้ฝึกสอนกีฬาบอคเซียทีมชาติไทย กล่าวว่า “สมรรถภาพ จิตใจ และเทคนิค คือสิ่งสำคัญในการฝึกซ้อมให้กับนักกีฬาคนพิการ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่แค่การฝึกซ้อมทางด้านร่างกายเท่านั้นที่สำคัญ แต่ทางด้านจิตใจของนักกีฬาก็มีความสำคัญมากเช่นกัน ซึ่งโค้ชจะต้องศึกษาและพูดคุยกับนักกีฬาเป็นรายบุคคล การฝึกสอนจะต้องทำให้นักกีฬารู้จักและเข้าใจพื้นฐานของตัวเองก่อนถึงจะสามารถเรียนรู้คู่แข่ง และที่สำคัญที่สุดคือกำลังใจและการสนับสนุนนักกีฬา ไม่ใช่แค่จากคนรอบตัวแต่ยังรวมถึงนักกีฬาทั่วไปและประชาชนชาวไทยที่จะเป็นแรงผลักดันและเติมพลังให้กับนักกีฬาคนพิการซึ่งในปัจจุบันกีฬาบอคเซียได้รับการสนับสนุนที่ดีมากจากการกีฬาแห่งประเทศไทย”

และเนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ยังทำให้เหล่านักกีฬาและผู้ดูแลนักกีฬา ได้รับผลกระทบในการฝึกซ้อม ทุกคนต้องระมัดระวังตัวในการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก มีการเปลี่ยนแผนในการฝึกซ้อมเนื่องจากการแข่งขันได้ถูกเลื่อนออกไป และมีช่วงเวลาที่ต้องหยุดฝึกซ้อม การฝึกซ้อมที่ไม่ต่อเนื่องทำให้มีผลกระทบในช่วงแรก แต่ในอีกมุมมองถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่นักกีฬาได้มีระยะเวลาในการฝึกซ้อมที่มากขึ้นจึงทำให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

ภาพยนตร์สารคดี “WONDERHERO ฮีโร่ ไม่เคยแพ้” เรื่องราวของนักกีฬาผู้พิการใจสู้ที่ก้าวผ่านข้อจำกัดของร่างกาย พัฒนาความสามารถจนได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันในระดับนานาชาติ ผลงานของพวกเขาจะทำให้ประชาชนชาวไทยภาคภูมิใจและยกย่องนักกีฬาคนพิการว่าเป็นฮีโร่ที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยได้เป็นที่รู้จักในระดับโลก รวมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนกีฬาคนพิการสู่การเป็นนักกีฬามืออาชีพ ภาพยนตร์สารคดียังมีส่วนให้เยาวชนไทยเกิดความมุ่งมั่นและตื่นตัวที่จะพัฒนาตัวเองในด้านกีฬา รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬาและประชาชนทั่วไปที่กำลังย่อท้อให้ลุกขึ้นสู้กับอุปสรรคในชีวิต และเพิ่มพลังใจในการดำเนินชีวิตและไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง

ซึ่งภาพยนตร์สารคดีสามารถรับชมได้ในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ทางช่อง T Sports, 11 NBT, ททบ.5,JKN18 รับชมออนไลน์ได้ที่ AIS Play, VIU, WeTV รวมถึงรับชมได้อีกหนึ่งช่องทาง Youtube พระนครฟิลม์,RightComedy และ Hollywood Thailand