วันพฤหัสบดี ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2569
เมื่อก้าวสู่วัยกลางคนขึ้นไป ช่วงที่ร่างกายจะดูเหมือนไม่เป็นดังใจ หลายคนเเริ่มคิดได้ว่าอายุจะยืนยาวเท่าไร อาจจะไม่สำคัญเท่ากับขอให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ และคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุจะเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าสมองทำหน้าที่ผิดเพี้ยนไป ความจำเสื่อม เป็นภาวะความผิดปกติที่เรามักจะเข้าใจกันว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่มากับอายุที่มากขึ้น แต่ความจริงแล้ว อายุที่มากขึ้น ไม่จำเป็นของความจำเสื่อม แต่ในทางกลับกันมีคนจำนวนไม่น้อยที่อายุน้องกว่า 65 ปี แต่มีภาวะความจำเสื่อม
แพทย์หญิง ปิยะนุช รักพาณิชย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู และผู้อำนวยการ สวนสุขภาพอรุณสหคลินิก (Arun Health Garden) ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูผสมผสาน กายภาพบำบัด และดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เป็นหนึ่งในคุณหมอ 2 คนแรกในประเทศไทยที่เป็น Registered Physician อย่างเป็นทางการของคลินิก Apollo Health ของ Dr.Dale Bredesen แพทย์ระบบประสาท มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ทำการวิจัยและรักษาผู้ป่วยอัลไซเมอร์แนวใหม่ที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดย แพทย์หญิง ปิยะนุช กล่าวถึง "อัลไซเมอร์" ว่าเป็นโรคที่ยายังรักษาไม่ได้ แต่สำหรับการรักษาแบบแนวคิดใหม่ของ Dr.Dale นั้น ต้องแก้หลายปัจจัยที่เป็นต้นเหตุ และหนึ่งในนั้นก็คือ การปรับไลฟ์สไตล์
"คุณหมอเดล เบรดีเซน ได้ทำการวิจัยการรักษาแนวใหม่ให้กับผู้ป่วยอัลไซเมอร์ 10 ราย และพบว่า เกือบทุกรายอาการดีขึ้นและบางรายหายจากโรคนี้ได้ โดยคุณหมอเดลนั้นมีแนวคิดที่ต่างไปว่า อัลไซเมอร์เป็นโรคที่เกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน ซึ่งแต่ละคนมีปัจจัยที่ทำให้เกิด 'อัลไซเมอร์' ไม่เหมือนกัน ดังน้ัน การป้องกันหรือรักษาอัลไซเมอร์เป็น Multifactorial คือ ต้องไปจัดการกับปัจจัยที่เป็นสาเหตุ และไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวสำหรับผู้ป่วยทุกคน แต่เป็นเรื่องที่ต้องตรวจหาเฉพาะบุคคล (Personalized Medicine) การให้ยาตัวเดียวแล้วหวังให้ผู้ป่วยหายจากโรคนี้นั้นเป็นไปไม่ได้
ที่น่าสนใจคือ ปัจจัยหลายๆ สาเหตุที่คุณหมอเดลพบ เป็นเรื่องของการปรับไลฟ์สไตล์ที่ดี ทางสวนสุขภาพอรุณสหคลินิก ได้มีการนำแนวคิดเรื่องนี้มาปรับให้เข้ากับการรักษาผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ได้อย่างตรงจุด เป็นการปรับไลฟ์สไตล์แบบผสมผสานที่ทาง AHG มุ่งเน้นและใช้ในการฟื้นฟูรักษาโรคอัลไซเมอร์ หรือ ภาวะสมองเสื่อม ใน AHG Alzheimer Program แม้ว่าอีกหลายปัจจัยจะต้องใช้การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น ตรวจเลือด ปัสสาวะ หรือเอ็กซเรย์ ก็ตาม"
การปรับไลฟ์สไตล์ ดังกล่าวนั้น แพทย์หญิง ปิยะนุช แนะนำว่า เราต้องเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารเพื่อต้านอัลไซเมอร์ หรือ Anti-Alzheimer’s diet นั่นคือ ลดน้ำตาลและแป้ง ทั้งนี้ พบว่า น้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว มีผลต่อการดื้อของฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนคุมน้ำตาลและเกิดการอักเสบในร่างกายและสมองได้ ให้เลือกรับประทานอาหารแบบค่าดัชนีไกลซีมิกต่ำและอาหารต้านการอักเสบ
Ketoflex 12/3 diet คือ รูปแบบ (lifestyle) ในการรับประทานอาหารเพื่อเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการทำงานของสมอง (optimized brain function) โดย Keto หมายถึง คีโตซิส คือ ภาวะที่ร่างกายใช้พลังงานจากไขมันเป็นหลัก และทำให้เกิดคีโตน เพื่อเป็นแหล่งพลังงานของสมอง ขณะที่ Flex มี 2 ความหมาย คือ หมายถึง ความยืดหยุ่นของสมองและร่างกายในการเลือกใช้พลังงาน (metabolic flexibility) จากกลูโคส หรือ จากไขมัน ซึ่งเป็นเป้าหมายของ Ketoflex 12/3 หมายถึง Flexitarian คือ การรับประทานอาหารจากพืช ผัก และผลไม้เป็นหลัก (plant-based) โดยเฉพาะผัก ผลไม้ที่ไม่มีแป้งและน้ำตาล โดยที่เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์เป็นแค่เครื่องเคียง ซึ่งไม่ควรรับประทานเกิน 0.8-1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
ให้มีช่วงท้องว่างจากการรับประทาน หรือ fasting 12 ชั่วโมงในช่วงกลางคืน และรับประทานมื้อเย็นก่อนเข้านอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ซึ่งเป็นผลดรต่อฮอร์โมนอินซูลินในร่างกาย และช่วยลดโปรตีนเบต้าแอมีลอยด์ที่สะสมในสมอง ซึ่งเป็นพยาธิสภาพผิดปกติของสมองที่ตรวจพบในผู้ป่วยอัลไซเมอร์ และช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเซลล์ไม่ดีของตัวเอง (autophagy)
เลือกทานผักที่มีแป้งต่ำและไขมันดี (non–starchy vegetables & healthy fats) ผักที่ไม่มีแป้ง หรือมีแป้งต่ำ non–starchy vegetables ผักท้องถิ่น ตามฤดูกาล หลากสี ออร์แกนิค อย่างน้อย 6-9 ถ้วย ต่อวัน เพิ่มการรับประทานผักที่แปลกใหม่ ผักใบเขียว ผักประเภทกะหล่ำ สมุนไพร เครื่องเทศ และชา เพิ่มการรับประทาน “ไขมันดี” เช่น รับประทานน้ำมันมะกอก (EVOO หรือ Extra virgin Olive Oil) อโวคาโด ถั่ว
ออกกำลังกาย พบว่า การออกกำลังกายเป็นการกระตุ้นการเชื่อมต่อการทำงานของเซลล์สมองได้เป็นอย่างดี แนะนำให้ออกกำลังกายประมาณ 30-60 นาที 4-6 วันต่อสัปดาห์ เลือกออกกำลังกายประเภทที่ตัวเองชอบหรือสามารถทำต่อเนื่องได้อย่างสม่ำเสมอ เพราะความสำคัญคือ การออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมงและระวังเรื่องคุณภาพของการนอน เช่น บางคนอาจมีภาวะขาดออกซิเจนในขณะนอนหลับ หรือ sleep apnea ก็ต้องแก้ไข ในกรณีที่มีปัญหาเรื่องการนอน เมลาโทนิน หรือ ทริฟโตเฟน อาจจะช่วยได้
ลดความเครียด โดยเลือกวิธีที่เหมาะกับตนเอง เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ ไปเที่ยว เป็นต้น ซึ่งจะช่วยลดฮอร์โมนคอร์ติซอล หรือฮอน์โมนความเครียดที่มีผลทำลายสมองได้ หรือฝึกสมาธิเป็นประจำ จะช่วยให้สมองหลั่งสารที่กระตุ้นการพัฒนาเซลล์สมองและระบบประสาทเพิ่มมากขึ้นได้
ฝึกเกมกระตุ้นสมอง การฝึกสมองในส่วนที่เราไม่ถนัด จะกระตุ้นให้เซลล์สมองของเราให้เชื่อมต่อสื่อสารกันได้ดีขึ้น สมองสว่นด้านที่จะเสื่อมไปก่อนหรือเป็นสมองส่วนที่เราไม่ค่อยได้ใช้ ดังนั้น จึงต้องฝึกกิจกรรมใหม่ๆ ให้สมอง เช่น ใครไม่ชอบคิดเลข ก็ฝึกคิด ใครที่ไม่ชอบทางด้านภาษาหรือดนตรี ก็ฝึกภาษาใหม่ๆ เล่นดนตรี เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันมีเกมฝึกสมองทางแอพพลิเคชั่นมากมายและสมารถช่วยกระตุ้นสมองได้เป็นอย่างดี
สิ่งสุดท้ายคือ เติมส่วนที่ขาด พบว่า วิตะมิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระหลายอย่างที่จะช่วยรักษาหรืออาจะช่วยป้องกันอัลไซเมอร์ได้ แต่ทั้งนี้ แนะนำให้ไปพบแพทย์และตรวจประเมินความผิดปกติของร่างกายก่อน เช่น การตรวจเลือดดูระดับโฮโมซิสเตอีน ตรวจโลหะหนักที่อาจจสะสมเป็นพิษในร่างกาย เป็นต้น เพราะแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ตัวอย่างวิตะมินและเกลือแร่ที่ช่วยบำรุงเซลล์สมองและเพิ่มความเชื่อมต่อของเซลล์สมอง เช่น วิตะมินบี 6,9,12 วิตะมินดี วิตะมินอี วิตะมินเค 2 โคเอ็นไซคิว 10 สารสกัดจากขมิ้น สารสกัดจากองุ่น เช่น เรสเวอราทรอล และไขมันดี เช่น ดีเอสเอ ไขมันเอ็มซีที เป็นต้น
"ถามว่า ควรเริ่มพร้อมกันทั้งหมดเลยไหม หรือเริ่มเมื่อต้นเมื่อวัยใด หลักการคือ ถ้าทำได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีต่อสมอง หมายถึง การเตรียมตัวเข้าสู่วัยสูงอายุได้อย่างมีคุณภาพ ถ้าใส่ใจดูแลสมองให้ดีดังข้างต้น ผลพลอยได้คือ ร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงด้วย" พญ.ปิยะนุช กล่าวทิ้งท้าย
และจะดีกว่าไหม? ถ้าเราไม่ลืมกัน...สามารถเข้ารับคำปรึกษาและประเมินความเสี่ยงและความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์ได้ที่ สวนสุขภาพอรุณสหคลินิก ในบรรยากาศที่ร่มรื่นเขียวขจีของต้นไม้ ภายในหมู่บ้านธารารมณ์ หรือผ่านช่องทาง LINE Official : @arunhealthgarden https://lin.ee/kVkb3zA โทร.02-717-4441 หรือ 094-812-7722 และที่ www.arunhealthgarden.com
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี