กากัน มาลิค ซูเปอร์สตาร์ชาวอินเดียเปิดตัวการแสดงเรื่องพระพุทธเจ้าในปี พ.ศ.2556 รับบทเป็นเจ้าชายสิทธัตถะโคตมะ ก่อนตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ในเรื่อง “ศรีสิทธัตถะโคตมะ” ก่อนการแสดงเรื่องพระพุทธเจ้านี้ กากัน มาลิค ต้องศึกษาหลักธรรมอย่างมาก จนได้คำตอบให้แก่ความต้องการของชีวิตตนเอง การเล่นบทเจ้าชายสิทธัตถะในเรื่องนี้เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตและทัศนคติของเขาอย่างสิ้นเชิง

กากัน มาลิค ตัดสินใจเดินทางมาสู่ประเทศไทย ศูนย์กลางทางพุทธศาสนาเพื่อเข้าบวชในร่มผ้ากาสาวพัสตร์เป็นเวลา
15 วัน เพื่อเรียนรู้วิถีแห่งหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ณ วัดธาตุทอง พระอารามหลวงอันเป็นวัดในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในวันที่ 10 ก.พ.2565 ได้นามฉายาว่า กากัน อโสโก ต่อมาในวันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 พระภิกษุกากัน อโสโก คณะสงฆ์และญาติในธรรมก็ได้ตั้งใจเดินทางมาสักการะพระพุทธเมตตา ณ เจดีย์ศรีพุทธคยา (พุทธคยาน้อย) วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ในพระองค์ฯ อันเป็นวัดในพระองค์ฯ เพียงวัดเดียว ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ หมู่บ้านเขาโคกเผ่นต.ทำนบ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ในโอกาสพิเศษนี้ พระกากัน อโสโก ได้เข้าสักการะ พระพรหมวชิรากร (สุนทร สุนทราโภ) เจ้าอาวาสวัดราชผาติการามวรวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานสงฆ์ผู้จัดสร้างวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ในพระองค์ฯ และพระครูวิจิตรสีลาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ในพระองค์ฯ ด้วย

พระพรหมวชิรากร ได้เมตตาสอนกรรมฐาน และหลักเบญจเคารพ (การไหว้ 5 ครั้ง) ของพระธรรมวโรดม วัดราชาธิวาสวิหาร ให้พระกากัน อโสโก ต่อจากนั้นพระพรหมวชิรากร ได้นำพระทั้งหมดร่วมทำวัตรเย็น ในอุโบสถ และได้นำชม
เจดีย์ศรีมหาราช และเจดีย์พกาพรหมปิตุมาตานุสรณ์ จนได้เวลาอันสมควรคณะพระกากัน อโสโก ก็นมัสการลากลับในยามเย็น การมาอุปสมบทของพระกากัน อโสโก ในครั้งนี้ ท่านได้รับคำตอบจากการบวชว่า “มหาสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก คือ พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า “จากนี้ไปท่านจะกลับไปอินเดีย เพื่อเร่งความเร็วของกงล้อแห่งธรรมในอินเดียให้เร็วขึ้นเพื่อประชาชนชาวอินเดียจะได้มีโอกาสใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไป