หลอดไฟ-นวินดา ปัจฉิมสวัสดิ์
จากเยาวชนที่มีเป้าหมายและหัวใจรักศิลปะการเต้น ทำให้เกิดภาพความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ กับการแข่งขันศิลปะการเต้นระดับประเทศ “CSTD Thailand Dance Grand Prix ครั้งที่ 8” พาร์ท 2 (ซีเอสทีดี ไทยแลนด์ แดนซ์กรังด์ ปรีซ์ ครั้งที่ 8 พาร์ท 2) ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปีนี้มีเหล่าเยาวชนนักเต้นทั้งมือสมัครเล่นและระดับมืออาชีพ เข้าร่วมแข่งขันกว่า 38 สถาบันการเต้นทั่วประเทศ รวม 150 ระบำ 31 รอบการแข่งขัน ท่ามกลางการตัดสินจากคณะกรรมการที่ไลฟ์สดแบบเรียลไทม์จากต่างประเทศ ซึ่งสิ่งที่สำคัญมากกว่าคำว่า “ชัยชนะ” คือศักยภาพของเด็กไทยที่พัฒนาขึ้นในทุกปี พร้อมโอกาสในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมบนเวทีระดับนานาชาติ รวมถึงเป็นการเติมไฟให้กับเยาวชนไทยและคุณครูผู้ฝึกสอนอีกด้วย
ปีนี้ สถาบันบางกอกแดนซ์ Zen & Soloist คว้ารางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทานประเภทสถาบันยอดเยี่ยม จากคะแนนรวมประเภทกลุ่มขนาดเล็ก 4-6 คน(Ensembles) และกลุ่มใหญ่ไม่เกิน 30 คน(Troupes) สองวันเต็มกับการกลับมาจัดอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง ในรูปแบบ แสง สี เสียง จัดเต็ม บนเวทีและกฎกติการะดับมาตรฐานสากล ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 พร้อมก้าวสู่เวทีระดับโลก กับผู้อยู่เบื้องหลังที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นและความกล้าที่จะ “แตกต่าง” ของคุณครูนักออกแบบท่าเต้น หลอดไฟ-นวินดา ปัจฉิมสวัสดิ์ ซึ่งนำทีมไทยไปคว้าแชมป์รางวัลใหญ่ President’s Cup มาถึง 3 ปีซ้อน ในงาน ศิลปะการเต้นนานาชาติภาคพื้นแปซิฟิก ครั้งที่ 22 (CSTD Asia Pacific Dance Competition)ที่แข่งร่วมกับอีกกว่า 16 ประเทศ
น้องยูกิ-พิมพ์มาดา พรสุวรรณกุล
ในฐานะผู้ออกแบบท่าเต้นและฝึกซ้อมของสถาบันบางกอกแดนซ์ และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเด็กไทย คว้าแชมป์ระดับนานาชาติถึง 3 ปีซ้อน หลอดไฟ-นวินดา ปัจฉิมสวัสดิ์ เผยว่า“รูปแบบการเต้นที่ได้รับรางวัลคือประเภทContemporary Dance หรือการเต้นร่วมสมัย เราตั้งเป้าหมายในการออกแบบท่าเต้นไว้เสมอว่า อะไรที่เห็นบนเวทีการแข่งขันแล้ว จะไม่ทำซ้ำอีก และมักจะได้ไอเดียใหม่ๆ จากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ รอบตัวการเต้นต้องใช้ความร่วมมือกันเป็นกลุ่มโชคดีที่เด็กๆ นักเต้นทุกคน รวมถึงผู้ปกครอง โรงเรียน มีความเชื่อมั่น และกล้าที่จะทดลองทำอะไรใหม่ๆ ไปด้วยกันซึ่งความ “กล้า” ของเรามักจะเห็นผล กลายเป็นรางวัลใหญ่และความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ ก็นับว่าเป็นการพลิกวงการเต้น จนทำให้หลายประเทศรอชมทีมจากประเทศไทย เพราะเรามีการออกแบบท่าเต้นและลายเซ็นที่ค่อนข้างชัดเจนและโดดเด่นทุกครั้งบนเวทีเอเชียแปซิฟิก รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การศิลปะการเต้นของทีมไทยไปสู่สายตาในระดับนานาชาติ และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย สำหรับรางวัลแชมป์ใหญ่3 ปีซ้อน จะบอกกับเด็กๆ เสมอว่าเปรียบเหมือนกับโบนัส เพราะกระบวนเรียนรู้หรือส่วนที่สนุกที่สุดจบตั้งแต่ในห้องเรียน ในวันซ้อมวันสุดท้ายแล้วค่ะ ในฐานะผู้ออกแบบท่าเต้นและผู้ฝึกซ้อม คิดว่าถ้าเรารู้สึกสนุกและไม่คาดหวัง เพราะอย่างไรแล้ว ผลก็เป็นบวกเสมอ เป็นพลังงานบวกที่ทุกคนจะได้รับจากศิลปะการเต้นค่ะ”
ด้าน ชุณหกาญจน์ เก่งการพานิช หรือ น้องมีมี่ อายุ 17 ปี จากทีม TEAMBDAได้เล่าผ่านมุมมองของทีมผู้ชนะจากการแข่งขัน CSTD ประเทศไทยว่า “ภูมิใจกับความพยายามของทุกคนในทีม ช่วงการเตรียมตัวจะค่อนข้างยากนิดหนึ่ง เพราะเป็นช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงแรกเป็นการซ้อมรูปแบบออนไลน์ ก็จะเห็นเพื่อนและครูแค่จากในจอ สิ่งสำคัญในพาร์ทนี้ คือ การเป็นทีมเวิร์กที่ดี ถ้าขาดใครไปสักคนหนึ่งก็จะทำให้คุณครูและเพื่อนๆ มองภาพรวมได้ยากขึ้น และจุดที่ทำให้เราชนะทีมอื่นๆ ส่วนสำคัญก็คือ คุณครูหลอดไฟ ผู้ออกแบบท่าเต้น และความสามัคคีของทุกคนในทีม สำหรับการแข่งขันในระดับนานาชาติที่กำลังจะมาถึง เราต้องเจอคู่แข่งที่เก่งมากขึ้น ต้องพัฒนาและฝึกซ้อมมากขึ้นที่ผ่านมา ถึงจะเคยได้ไปแข่งศิลปะการเต้นนานาชาติภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกมาหลายครั้ง แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนกันเลยในแต่ละปี มีปีหนึ่งที่เรานำรำไทยไปโชว์ในรอบเนชั่น ต่างชาติค่อนข้างตื่นเต้นกับชุดและเครื่องประดับของเรามาก อย่างไร ก็ฝากทุกคนเป็นกำลังใจให้ทีมของเราด้วยนะคะ สำหรับเวทีระดับนานาชาติในปีนี้พวกเราจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยค่ะ”
สถาบันบางกอกแดนซ์ Zen & Soloist คว้ารางวัลชนะเลิศประเภทสถาบันยอดเยี่ยม
อีกหนึ่งสาวน้อยคนเก่ง พิมพ์มาดา พรสุวรรณกุล หรือ น้องยูกิ อายุ 13 ปีจากทีม TEAMBDA เผยว่า “ในพาร์ทนี้ยูกิได้ที่หนึ่ง สองระบำ แล้วก็ที่สามอีก สามระบำซึ่งเป็นการตัดสินแบบเรียลไทม์ร่วมกับกรรมการจาก CSTD ประเทศออสเตรเลียนอกจากเพื่อนๆ ในทีม การแข่งขันทุกปีเรายังได้เจอเพื่อนจากโรงเรียนอื่นๆ ได้เห็นสไตล์การเต้นใหม่ๆ และทำให้เราอยากพัฒนาตัวเองไปในหลายด้านเลย สำหรับการแข่งขันในระดับนานาชาติที่จะมีขึ้นรู้สึกตื่นเต้นมากๆ ค่ะ ที่ผ่านมาประเทศไทยได้รางวัลใหญ่ในเวทีระดับโลกติดต่อกัน 3 ปีซ้อนเลย ทุกคนเก่งและมีวินัยในการฝึกซ้อมมากค่ะ”
ทั้งนี้ สามารถร่วมติดตามการแข่งขันศิลปะการเต้น CSTD Thailand Dance Grand Prix และชื่นชมศักยภาพของนักเต้นไทยได้ที่ www.facebook.com/cstdthailand
น้องมีมี่-ชุณหกาญจน์ เก่งการพานิช
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี