2 หญิงแกร่งแห่งวงการ‘วิศวกรรม’ความภูมิใจของ วิศวะ มธ. (TSE) ผู้จุดประกายการให้โอกาสและส่งเสริมความเท่าเทียมสู่คนรุ่นใหม่

2 หญิงแกร่งแห่งวงการ‘วิศวกรรม’ความภูมิใจของ วิศวะ มธ. (TSE) ผู้จุดประกายการให้โอกาสและส่งเสริมความเท่าเทียมสู่คนรุ่นใหม่

วันจันทร์ ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.
Tag :

จุดเริ่มต้นของความเท่าเทียม เกิดจากการปล่อยให้ทุกคนได้มีอิสระทางความคิด การสร้างพื้นที่ให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย หรือแม้แต่คนอื่นๆ ได้เลือกได้ออกมาแสดงศักยภาพที่มีอยู่ ปัจจุบันประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เปิดกว้างในเรื่องเพศสภาพ อาชีพ ศาสนา และแน่นอนว่าอีกหนึ่งอาชีพที่เรามักจะเห็นว่ามีผู้หญิงเข้าไปโลดแล่นไม่น้อยไปกว่าผู้ชายคือ “อาชีพวิศวกร” หนึ่งในนั้นก็คือ 2 หญิงแกร่ง จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Thammasat School of Engineering) หรือ TSEรองศาสตราจารย์ ดร.อุรุยา วีสกุล อาจารย์ประจำภาควิศวกรรมโยธา และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุภมาศสุชาตานนท์ อาจารย์ประจำภาควิศวกรรมอุตสาหการ ผู้ที่ผ่านทุกคำครหา ผ่านการแบ่งแยกจากเพศสภาพมาแล้ว และวันนี้ทั้งคู่กำลังมุ่งมั่นที่จะพัฒนา TSE ให้เป็นจุดเริ่มต้นของพื้นที่ที่สร้างความเท่าเทียมในทุกๆ ด้านให้นักศึกษาทุกคน

เริ่มที่ รองศาสตราจารย์ ดร.อุรุยา วีสกุล อาจารย์ประจำภาควิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Thammasat School of Engineering) หรือ TSE เล่าว่า สมัยก่อนงานวิศวกรรม หรือแม้แต่คณะวิศวกรรมถูกมองว่ามีความเหมาะสมกับผู้ชายมากกว่า เพราะโดยธรรมชาติแล้วการเรียนวิศวกรรมต้องใช้หลักการคำนวณ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ ซึ่งผู้ชายจะมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้มากกว่าผู้หญิง แต่ปัจจุบันการเรียนวิศวกรรมเปลี่ยนแปลงไป จากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สาขาวิชาในคณะวิศวกรรมศาสตร์เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น มีสาขาใหม่ๆ ที่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้เข้ามาศึกษามากขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มศักยภาพด้านซอฟท์สกิล (Soft Skill) ให้กับนักศึกษา ซึ่งเป็นจุดเด่นของนักศึกษาหญิง จึงทำให้ภาพบรรยากาศการเรียนในคณะวิศวกรรมขณะนี้มีเด็กๆ ผู้หญิงเกือบครึ่งหนึ่งของเด็กผู้ชาย


โดยเฉพาะ TSE ที่มีผู้หญิงประมาณ 35% ของคณะฯ ซึ่งเป็นสัดส่วนที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับอดีตที่สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ที่เปิดกว้างและมองเห็นศักยภาพของผู้หญิง ขณะเดียวกัน ถ้ามองสถานการณ์จากหลายประเทศทั่วโลก จะพบว่ามีวิศวกรที่เป็นผู้หญิงอยู่ประมาณ 20% ดังนั้น ตนจึงมองว่าการปรับปรุงหลักสูตรของ TSE โดยเฉพาะการเพิ่มซอฟท์สกิล (Soft Skill) เข้าไปเพื่อประยุกต์ใช้งานด้านวิศวกรรม เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงมีทางเลือก และได้ลองทำในอะไรนอกกรอบมากยิ่งขึ้น และจุดประกายให้ผู้หญิงสนใจงานด้านวิศวกรรมมากขึ้นด้วย

“หากให้เปรียบเทียบการทำงานด้านวิศวกรรมในสมัยก่อนกับสมัยนี้มีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก เพราะในวงการวิศวกรมักจะมองว่าผู้หญิงไม่สามารถทำงานหนัก งานสกปรก คลุกฝุ่นได้เท่าผู้ชาย ผู้หญิงไม่สามารถคุมไซต์งานได้ดีพอ แต่ปัจจุบันในประเทศไทยมีการเปิดกว้าง และยอมรับวิศวกรหญิงมากยิ่งขึ้น เพราะเชื่อว่าผู้หญิงสามารถทำงานได้อย่างคล่องแคล่วมีความอ่อนหวานในตัวเอง มีความคิดสร้างสรรค์ มีความเชื่อมั่นในตัวเองที่สำคัญผู้หญิงสมัยนี้มีศักยภาพมากพอ ดังนั้นการดึงเอาศักยภาพตัวเองออกมาใช้ให้ได้มากที่สุด จะทำให้สังคมยอมรับ และเชื่อมั่นในตัวเรา”

รองศาสตราจารย์ ดร.อุรุยาย้ำว่า สิ่งที่สำคัญ คือผู้หญิงทุกคนสามารถดึงเอาความชอบส่วนตัวออกมาสร้างสรรค์งานใหม่ๆ ดึงเอาความมั่นใจในของตัวเองออกมาขับเคลื่อนงานที่เราชอบ หรือสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ให้มีความโดดเด่น เพราะตนเชื่อว่าสิ่งที่จะทำให้ผู้หญิงในยุคนี้โดดเด่นคือความแตกต่าง และนำความแตกต่างนั้นมาประยุกต์ใช้กับงาน โดยเฉพาะความสามารถในการติดต่อ ประสานงานความละเอียดอ่อน ความรอบคอบ ความอ่อนหวาน หัวใจที่แข็งแกร่ง นี่คือจุดแข็งของเรา ซึ่งที่ผ่านมา TSE พบว่านักศึกษาหญิงทำงานผิดน้อยมาก การออกแบบก็มีความแตกต่าง ซึ่งผู้ชายยังขาดไป และตนเชื่อว่าผู้หญิงจะเข้ามาเสริมทำให้วิศวกรรมมีสีสันยิ่งขึ้น

“สำหรับการสร้างโอกาสให้เด็กผู้หญิงรุ่นใหม่ สิ่งสำคัญคือ อยากให้ผู้ปกครองมองเห็นความตั้งใจและเข้าใจสิ่งที่ลูกอยากทำ ผลักดันให้พวกเขาสามารถทำในสิ่งที่อยากทำได้ โดยเฉพาะการเลือกสาขาวิชา ที่อยากเรียน ที่ผ่านมาเรียนวิศวกรรมอาจจะถูกมองว่าเป็นคณะของเด็กผู้ชายแต่เด็กผู้หญิงสามารถเรียนได้ และเรียนแล้วมีโอกาสได้งาน ทั้งบริษัทชั้นนำ ในประเทศ หรือบริษัทต่างประเทศ เนื่องจากที่ผ่านมาคนมองว่าคณะวิศวกรรมเรียนยาก จบช้าคนจึงไม่ค่อยสนใจ และเด็กรุ่นใหม่สนใจการเรียนที่เรียนแล้วอยากจบเร็ว และเรียนแล้วได้เงินจำนวนมากกว่า แต่สำหรับตนมองว่าปัจจุบันโลกหรือสังคมเปิดกว้างมากขึ้นดังนั้นจึงอยากให้เด็กๆ หันมามองคณะวิศวกรรมศาสตร์ อย่าไปกลัวว่ามันจะยากเกินไป หากเราเข้าใจเรามีทริคเราจะสามารถเรียนมันได้ TSE เราต้องการที่ผลิตนักศึกษาทุกเพศให้มีคุณภาพ ให้เท่าเทียมกัน ดังนั้น เด็กผู้หญิงไม่ต้องกลัว เราเรียนกันอย่างสนุกสนาน เราเปิดโอกาสให้เด็กทุกเพศทุกวัย สำหรับเด็กๆ ที่กำลังสนใจอยากเรียนวิศวกรรมก็สามารถมองเป็นอีกทางเลือกได้”

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุภมาศสุชาตานนท์ อาจารย์ประจำภาควิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Thammasat School of Engineering) หรือ TSE กล่าวว่า บทบาทของผู้หญิงในอดีต มีความแตกต่างจากปัจจุบัน ซึ่งหากจะเปรียบเทียบระหว่างช่วงเรียนและช่วงที่ทำงาน มักจะมีข้อจำกัดโดยเฉพาะการให้โอกาส ผู้หญิงมักจะโดนตีกรอบ ให้ทำงานแค่ในออฟฟิศและถูกประเมินว่าไม่สามารถทำงานบางอย่างได้ ทำงานแล้วไม่ปลอดภัย ในขณะที่ผู้หญิงยังไม่ได้แสดงศักยภาพให้ได้เห็น แต่ปัจจุบันโลกเปิดกว้างมากขึ้น ผู้หญิงที่เรียนจบวิศวกรรมหรือสาขาวิชาอื่นๆ ทำงานตามความสามารถมากได้มากกว่าขึ้น และสามารถทำงานได้ที่ต้องใช้ความแข็งแรงได้เท่าผู้ชาย ดังนั้น ตนจึงไม่อยากให้ผู้หญิงตีกรอบให้ตัวเอง และมักบอกกับนักศึกษาของ TSE เสมอว่า ให้คว้าโอกาสที่มีอยู่ตรงหน้าและพิสูจน์ศักยภาพให้ทุกคนเห็น

“อยากให้มองทะลุผ่านภาพลักษณะภายนอก ผ่านเสื้อผ้าที่ผู้หญิงสวมใส่ และอยากให้มองเรื่องศักยภาพ ความสามารถมากกว่า ผู้หญิงไม่ได้อยากเก่งกว่าใคร เพียงแต่ต้องการพิสูจน์ว่าเราสามารถทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ และทำงานร่วมกับผู้ชายได้หรือแม้แต่คนอื่นๆ ในองค์กร เช่น TSEที่เปิดกว้างสำหรับนักศึกษาทุกเพศ ปัจจุบัน TSE มีเด็กหญิงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆประมาณกึ่งหนึ่งของเด็กผู้ชาย โดยเฉพาะสาขาวิศวกรรมอุตสาหการ อาจารย์ที่คณะทุกคนอยากสร้างให้มหาวิทยาลัยเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความเท่าเทียมให้กับเด็กๆ แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้น คือ สังคมที่เปิดกว้าง โดยเฉพาะครอบครัวจะต้องสนับสนุนในสิ่งที่ผู้หญิงอยากจะเป็น เพราะครอบครัวถือว่าเป็นการจุดประกาย ที่ทำให้เด็กผู้หญิงมองเห็นสิ่งที่พวกเขาต้องการ รวมไปถึงแรงบันดาลใจจากรุ่นพี่ของ TSE ที่ประสบความสำเร็จ จนทำให้รุ่นน้องอยากเดินตามรอย สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นอีกตัวช่วยที่จะเข้ามา ลบภาพจำที่มองว่าวิศวกรรมต้องมีแต่ผู้ชาย”

ทั้งนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุภมาศ มองว่า การขับเคลื่อนบทบาทสตรีที่มีมาอย่างต่อเนื่องในอดีตต้องยอมรับว่ามีผลต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบันของผู้หญิงค่อนข้างมากเช่นกันเพราะทำให้ผู้หญิงกล้าทลายกำแพงทางสังคม และออกมาเป็นอะไรก็ได้ที่อยากเป็น โดยเฉพาะการทลายกำแพงด้านการศึกษา แน่นอนว่าหากขาดโอกาสเหล่านั้น ผู้หญิงที่อยากเรียนด้านวิศวกรรมคงไม่มีโอกาสได้ทำ เพราะสังคมมองว่าเป็นสาขาวิชาของผู้ชาย การขับเคลื่อนในวันนั้น ทำให้เราสามารถเลือกเรียน เลือกทำในสิ่งที่ชอบได้ ซึ่ง TSE ให้ความสำคัญและยังคงให้โอกาสทุกคนอย่างเท่าเทียม

“ท้ายที่สุดไม่ว่าจะอาชีพใดเพศอะไร สิ่งสำคัญ คือ เราต้องฟังเสียงหัวใจตัวเองเป็นอย่างแรก เราต้องรู้ว่าชอบอะไร อยากเป็นอะไร มันจะทำให้เรามีเป้าหมาย เมื่อเราค้นพบตัวเองมันจะทำให้เราสามารถหาทางไปถึงเป้าหมายได้หลายครั้งที่คนมองว่าผู้หญิงอ่อนแอ แต่จริงๆ ตนเชื่อว่าตัวตนข้างใน ผู้หญิงมีความเข้มแข็งมากพอที่จะเรียนรู้และปรับปรุงตัวเองแบบไม่หยุดยั้ง และเป็นตัวเองไปเวอร์ชั่นที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และดีที่สุด เมื่อผิดพลาดก็กลับมาปรับปรุงแก้ไขพัฒนามันอยู่เรื่อยๆ ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม” ผศ.ดร.สุภมาศ กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างๆ ของ TSE รวมถึงรายละเอียดการเปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ ทุกรอบทุกหลักสูตร สามารถติดตามได้ที่ www.engr.tu.ac.th และ Facebook ของ TSE ที่ www.facebook.com/ENGR.THAMMASAT

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top