งานมอบรางวัล “Hackulture นวัต…วัฒนธรรม : เรียงร้อยวัฒนธรรมไทย…สู่โลกดิจิทัล” ในหัวข้อ “เห็นแต่ไม่เคยรู้” กิจกรรมการเรียนรู้และแข่งขันสร้างสรรค์ รวมไอเดียคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ เพื่อสร้างพื้นที่ช่วยรักษามรดกทางวัฒนธรรมของชาติ เน้นให้คนรุ่นใหม่ เห็นคุณค่าและมีความหวงแหนในมรดกวัฒนธรรมของชาติ ส่งเสริมการถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมของชาติสู่รูปแบบดิจิทัลรับถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดย สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยมี ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมด้วย ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน ให้เกียรติเป็นผู้มอบรางวัลชนะเลิศให้กับทีมที่ได้คะแนนสูงสุด และ อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมในพิธี ณ ห้องวายุภักษ์ 5 โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการ และคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ

ภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า “นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 2561-2580 มีแผนงานที่สำคัญประการหนึ่งในการส่งเสริมให้ภาคเอกชนและภาคประชาชน ผลิตสื่อดิจิทัลที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ผลิตสื่อภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยประชาชนและชุมชน ดังนั้น สดช. จึงจัดกิจกรรมการเรียนรู้และแข่งขันเชิงสร้างสรรค์ หรือ Hackathon ขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนหรือคนรุ่นใหม่หันมาสนใจวัฒนธรรมไทยและร่วมกันถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมของชาติให้อยู่ในรูปแบบ Digital Content

ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า “กิจกรรมการเรียนรู้และแข่งขันเชิงสร้างสรรค์ฯ จะช่วยรักษามรดกทางวัฒนธรรมของชาติได้อย่างยั่งยืนมุ่งเน้นให้คนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าและมีความหวงแหนในมรดกวัฒนธรรมของชาติรวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรด้าน Digital Content เพื่อรองรับอุตสาหกรรมดิจิทัลและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของประเทศ ภายใต้แนวคิด การต่อยอดอดีตมองกลับไปที่รากเหง้าทางเศรษฐกิจอัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตนำจุดเด่นทางทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลายของชาติ มาประยุกต์ผสมผสานกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้สอดรับกับเศรษฐกิจและสังคมยุคดิจิทัล ซึ่งการแปลงมรดกวัฒนธรรมของชาติที่มีอยู่เป็นจำนวนมากให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล ยังสามารถต่อยอดสู่การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสร้างให้เกิดคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคมได้อีกด้วย”

ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน กล่าวว่า “เรื่องของประวัติศาสตร์ไม่เคยตาย แต่จะต้องถูกขับเคลื่อนโดยเยาวชนหรือคนรุ่นใหม่ และประวัติศาสตร์หรือวัฒนธรรม จะต้องถูกถ่ายทอดอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งกิจกรรมนี้ถือว่าได้เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามารวมตัวกันค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทยซึ่งมีอยู่มากมาย ร่วมกันแสดงความคิดเห็นและใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อสื่อออกมาในรูปแบบดิจิทัลที่น่าสนใจมากๆหวังว่าเด็กๆ หรือคนรุ่นใหม่จะต่อยอดกิจกรรมนี้ต่อไป แม้ว่าการประกวดจะจบแล้วก็ตาม”

งานนี้ ทีม YOUTHTHINK จากการรวมตัวของ Stamford International University มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เจ้าของผลงานMUSIAM ได้รับรางวัลชนะเลิศ รับถ้วยพระราชทาน, โลกของเกมก็เช่นกัน มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ทีม RAMAYANA จากมหาวิทยาลัยธนบุรี นำเกมมาผสมผสานกับวรรณกรรมไทยอันเลื่องชื่อ จนเกิดเป็นผลงาน รามเกียรติ์ เกมการเรียนรู้วรรณคดีไทย ซึ่งสามารถประยุกต์ให้เป็นสื่อสารเรียนการสอนสำหรับคุณครูในห้องเรียนได้ ตัวเกมจะเป็นการผจญภัยของหนุมานเพื่อไปช่วยนางสีดา โดยต้องผ่านด่านต่างๆ และเจอตัวละครที่แตกต่างกันในแต่ละด่าน นอกจากจะตื่นเต้นไปกับเกมแล้วยังทำให้ได้เรียนรู้ตัวละครต่างๆ ในเรื่องรามเกียรติ์ไปพร้อมกับการเล่นเกมได้ จนได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ส่วนทีมง่วงนอน Studio จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผลงาน Muang Kung Pottery Forward to the new generation (เครื่องปั้นดินเผาของบ้านเหมืองกุง จังหวัดเชียงใหม่) คว้ารางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 และยังมีรางวัลชมเชยอีก 2 รางวัล ได้แก่ ทีม Knock Out จากวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม บริหารธุรกิจ สะพานใหม่ SBAC กับผลงานอินโฟกราฟิกชื่อ รำมวยไทย และ ทีม Tomzaaap จากมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เจ้าของผลงาน ไม่มีฉันแล้วเธอจะไม่อร่อย (เครื่องแกงไทย) ที่เกิดจากความชื่นชอบในการกิน “แกงเขียวหวานไทย”