“สังคมสูงวัย” เป็นภาวะที่ประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมีสัดส่วนตั้งแต่ร้อยละ 10 ขึ้นไปเมื่อเทียบกับประชากรทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่เข้าสู่ภาวะนี้แล้ว และ “อัลไซเมอร์” ก็เป็นโรคสำคัญที่ผู้สูงอายุหลายคนต้องเผชิญซึ่งยังไม่มียารักษาให้หายขาด ส่งผลให้ครอบครัวที่ต้องดูแลผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคนี้ต้องพลอยเป็นทุกข์จากความเครียดไปด้วย

ปัญหาที่เกิดขึ้นได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้นักเขียนบทละครและภาพยนตร์มือรางวัล “เจี๊ยบ-ภีมพ์กมล ประเสริฐวงศ์” ตัดสินใจสร้างซีรีส์คุณภาพดีต่อใจ สร้างสรรค์สังคมเรื่อง “ความรักความทรงจำ-Love & Memory” โดยได้รับการสนับสนุนและอำนวยการผลิตโดย กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ หวังให้ครอบครัวและสังคมไทยเข้าใจผู้ป่วยอัลไซเมอร์และดูแลได้อย่างถูกต้อง ซึ่งก่อนหน้านี้ ในปี 2555 เจี๊ยบ-ภีมพ์กมล เคยจัดทำหนังสือเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ และเข้าใจดูแลสื่อสารกับผู้ป่วยอัลไซเมอร์อย่างไรไม่ให้เครียดมาแล้ว

“ซีรีส์ความรักความทรงจำ-Love & Memory เป็นซีรีส์ที่ถ่ายทอดมุมมองความรักความผูกพันธ์ที่เกี่ยวโยงให้ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ระลึกได้ว่าตนเองเป็นใคร เพราะหลงลืมเรื่องราวในอดีต จึงจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวให้สังคมได้ตระหนักรู้ทันโรคอัลไซเมอร์ เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถเกิดได้กับคนส่วนมาก โดยเฉพาะผู้สูงวัย แต่หากมีการระมัดระวังตนเองจะทำให้เรารู้ทันโรคอัลไซเมอร์และรับมือกับโรคนี้ได้ตั้งแต่เริ่มต้น” เจี๊ยบ-ภีมพ์กมล กล่าว

จุดเริ่มต้นของซีรีส์เรื่องนี้ เจี๊ยบ-ภีมพ์กมล เล่าว่า เป็นการทำงานร่วมกันของตนกับ “แหม่ม-พิไลวรรณ บุญล้น” จากบริษัท ไอคอน สตูดิโอ จำกัด พิจารณาร่วมกันว่าจะทำละครในแนว Telemovie ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานเขียนหนังสือให้แก่กรมสุขภาพจิต รวมถึงมีข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับหัวข้อโครงการสื่อสร้างสรรค์เพื่อความสุขในยุคสังคมสูงวัย

ซีรีส์ ความรักความทรงจำ-Love & Memory รวบรวมทีมนักแสดงคุณภาพระดับแถวหน้าของไทย โดยได้รับเกียรติจากนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง ดวงดาว จารุจินดา มารับบทนำในเรื่องอย่าง “อุไร” ตัวละครซึ่งเป็นผู้เริ่มมีอาการอัลไซเมอร์ ขณะที่บทลูกๆ ของอุไร ทีมผู้สร้างได้คัดเลือกนักแสดงที่สามารถรับบทเหมือนกับเป็นพี่น้องกันจริงๆ ให้ได้มากที่สุด โดยได้ “มิลลี่-อภิสรา วงศ์ทัศนีโย” สังกัดช่อง 7 HD รับบท “แววดาว” และ “เอิร์ท-ชิษณุพงศ์ เศิกสิริ” รับบท “เข็มทิศ” ขณะที่ “คริส-พีรวัส แสงโพธิรัตน์” รับบท “ภูพิง” ซึ่งเป็นนักแสดงนำของอีกบ้านที่มีคุณย่าเป็นอัลไซเมอร์

นอกจากนี้ยังมีนักแสดงคุณภาพอีกมากมาย อาทิ “บี๋-ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์” รับบท “ปราชญ์” ลูกชายแสนดีทำหน้าที่ดูแลแม่ , “คุณน้ำเงิน บุญหนัก” รับบท “ย่าน้อย” , และ “ซูโม่ตู้-จรัสพงศ์ สุรัสวดี” รับบท “ลุงตู้” ซึ่งเป็นการกลับมารับงานแสดงอีกครั้งในรอบหลายปีมาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวความรักและความประทับใจในซีรีส์เรื่องนี้อีกด้วย

ในด้านโปรดักชั่น นอกจากจะมี ภีมพ์กมล ประเสริฐวงศ์ รับหน้าที่กำกับการแสดงและเขียนบท รวมถึง พิไลวรรณ บุญล้น เป็นผู้ควบคุมการผลิตและประพันธ์เพลงประกอบแล้ว ยังมี “นพ.เขษม์ชัย เสือวรรณศรี” แพทย์ด้านประสาทวิทยา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และ “ดร.ศนินุช สวัสดิโกศล” ผู้แต่งหนังสือ "สบาย สบาย กับอัลไซเมอร์" ร่วมให้ข้อมูลและคำปรึกษาในการพัฒนาบท รวมทั้งยังมี “คุณแม่พัชรี หล่อวัฒนพงษา” ถ่ายทอดพฤติกรรมอาการอัลไซเมอร์บางส่วนด้วย

“เพื่อความสุขในยุคสังคมสูงวัย จึงต้องการให้เนื้อเรื่องมีความทันสมัยเข้ากับยุคปัจจุบันที่สามารถเข้าถึงผู้ชมได้ทุกช่วงวัย ให้เขาเข้าใจโรคอัลไซเมอร์ว่าเป็นธรรมชาติ และหวังให้ผู้ชมมอบความรักให้คนในครอบครัว ให้สามารถเยียวยาคนใดคนหนึ่งของครอบครัวที่เจ็บป่วยไม่ว่าโรคอะไรก็ตาม พร้อมมีรอยยิ้มและมีความสุข เพราะความรักเท่านั้นจะกอดเกี่ยวให้ความทรงจำเลือนหายไปอย่างช้าที่สุดได้นั่นเอง” เจี๊ยบ-ภีมพ์กมล ระบุ

สำหรับซีรีส์ ความรัก ความทรงจำ - Love and Memory เป็นซีรีส์สั้น 4 ตอน นำเสนอเรื่องราวของสองครอบครัวที่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นผู้ป่วยอัลไซเมอร์ แต่มีความเข้าใจในการดูแลและสื่อสารกับผู้ป่วยแตกต่างกัน โดยชี้ให้เห็นว่าการสื่อสารกับผู้ป่วยอัลไซเมอร์นั้นย่อมไม่เหมือนการสื่อสารกับคนปกติ และควรใช้ความรักเป็นเครื่องมือในการเหนี่ยวรั้งความทรงจำของคนที่รักไว้ให้นานที่สุด

จึงอาจกล่าวได้ว่า “ความรัก ความทรงจำ - Love and Memory เป็นละครเรื่องแรกๆ ที่หยิบยกประเด็นโรคอัลไซเมอร์มาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน” ผ่านบทละคร การแสดง โปรดักชันที่ละเมียดละไมและข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อให้ผู้ชมตระหนักรู้และมีความเข้าใจถึงพฤติกรรม อาการของผู้ป่วยอัลไซเมอร์ รวมทั้งการให้ความรู้แก่การปฏิบัติตัวและดูแลจิตใจของคนใกล้ชิดให้เข้าใจและมีกำลังใจในการอยู่ร่วมกับผู้ป่วยอัลไซเมอร์อย่างมีความสุข

สามารถติดตามชมได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. เริ่มวันที่ 2 เมษายน 2565 นี้ ผ่านช่องไทยพีบีเอส หมายเลข 3 และแอปพลิเคชั่น VIPA หรือที่เว็บไซต์ www.VIPA.me

-(016)