วันอาทิตย์ ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
ภูมิบ้านภูมิเมือง : ทับสะแก ภูมิสวนมะพร้าวสู่วิสาหกิจชุมชน โดย พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ

ภูมิบ้านภูมิเมือง : ทับสะแก ภูมิสวนมะพร้าวสู่วิสาหกิจชุมชน โดย พลาดิศัย สิทธิธัญกิจ

วันอาทิตย์ ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556, 06.00 น.
Tag :
  •  

การเดินทางท่องเที่ยวทำให้เกิดการเรียนรู้นั้นเห็นจะจริงเสียแล้วในคราวนี้ อาทิตย์นี้คุณปัญญา ไกรทัศน์ จากกรมการท่องเที่ยว ชวนให้ไปอำเภอทับสะแก เมืองประจวบคีรีขันธ์ ก็นึกไม่ออกว่าที่นั่นจะมีอะไรสำคัญ แม้จะค้นหาข้อมูลอย่างไรก็หามีกูรูที่ไหนบอกให้รู้จักทับสะแกได้ไม่ เพราะเป็นอำเภอที่เพิ่งประกาศตั้งเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ.2501 หลังจากที่ทับสะแกเป็นกิ่งอำเภอมานานแล้วตั้งแต่พ.ศ.2481 เดิมนั้นเป็นพื้นที่อยู่ในเขตเมืองประจวบคีรีขันธ์ ที่มีหน้าที่รักษาอ่าวไทยคู่กับเมืองประจันต์คีรีเขตร ปัจจุบันคือเกาะกง ในกัมพูชา ด้วยเหตุที่เป็นชุมชนชายทะเลมีพื้นที่เป็นอ่าวอยู่ด้านตะวันออกซึ่งมีความยาวไกลไปจนถึงอำเภอบางตะพาน อันเป็นแหล่งแร่ทองคำสำคัญในอดีตนั้น ทับสะแกจึงถูกมองเป็นหมู่บ้านชายทะเลธรรมดาอยู่ตรงกลางในแนวหาดทรายเดียวกับอ่าวประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีผู้รู้เรียกว่า หาดพระนเรศวร จากข้อมูลในพงศาวดารว่า เมื่อเสร็จสิ้นการศึกสงครามนั้น พระนเรศวรได้โปรดให้ไพร่พลของพระองค์ลงมาพักผ่อนที่หาดทรายชายทะเลแห่งนี้ ในสมัยอยุธยานั้นมีชื่อเมืองในพื้นที่ว่า “เมืองนารัง” หรือ “เมืองบางนางรม” ใน “คำให้การชาวกรุงเก่า” ลำดับชื่อหัวเมืองปาก (ปักษ์)ใต้ ตามลำดับไว้คือ “เมืองปราณ เมืองชะอัง เมืองนารัง เมืองบางตะพาน” ซึ่งหมายถึงอำเภอปราณบุรี อำเภอชะอำ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ และอำเภอบางสะพานในปัจจุบัน ส่วนทับสะแกนั้น เป็นหมู่บ้านอยู่ในอำเภอเมือง เมื่อทับสะแกถูกแบ่งแยกมาตั้งเป็นอำเภอก็มี ตำบลสำคัญ 6 แห่ง คือ ทับสะแก อ่างทอง นาหูกวาง เขาล้าน ห้วยยาง และแสงอรุณ ชื่อออกดูใหม่ๆ จึงพยายามค้นหาประวัติก็มีตำนานที่เล่าข้างๆ คูๆ ไปว่า เดิมทับสะแกเป็นป่ารกต่อมามีชีผ้าขาวหรือตาปะขาวเดินมาจากไหนไม่รู้มาหาที่ดินทำสวนและปลูกกระท่อมพัก (ทับ-ที่อยู่) อาศัย ต่อมาได้มีชายสองคนชื่อ “แทน” และ “คง” มาจากทางทิศใต้และอีกสองคนชื่อ “ขุนด่านเจาะ” และ “ขวัญแก้ว ขวัญเมือง” มาจากทิศตะวันออก มาตั้งบ้านเรือนและทำสวนทำนาอยู่ใกล้กับกับตาปะขาว ในไม่ช้าก็เป็นหมู่บ้านเล็กๆชายทะเลๆ ใครไป-มาในที่นาที่สวนแห่งนี้ ก็พากันเรียกว่า “ทับตาแก่” นานไปก็เรียกเพี้ยนเป็น “ทับสะแก” ส่วนอีกความเชื่อกันว่าชายทะเลแห่งนี้มีป่าสะแกอยู่เต็มไปหมด เมื่อมีผู้คนมาทำสวนทำไร่ก็พากันเรียกว่าทับป่าสะแก ส่วนจะเชื่อความไหนไปตัดสินใจกันเอง อย่างน้อยก็เป็นพื้นที่หนึ่งที่มีความสำคัญดังปรากฏในคำขวัญของพื้นที่ตั้งให้ท่องกันภายหลังว่า “พ่อปู่ทองมนต์ขลัง น้ำตกดัง ทะเลใส มะพร้าวใหญ่ น้ำปลาดี”

คำว่า ทะเลใส มะพร้าวใหญ่ น้ำปลาดี นั้นเห็นจะเป็นความจริง ด้วยทับสะแกมีสวนมะพร้าวขึ้นอยู่จำนวนมาก สวนมะพร้าวที่เก่าแก่ที่สุดนั้นมีอายุมากกว่า 100 ปี มีลำต้นสูงมากกว่า 20 เมตร จึงไม่แปลกใจที่ทับสะแกจะกลายเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องมะพร้าวระดับประเทศ ด้วยมีแหล่งผลิตสินค้าจากผลมะพร้าวครบวงจรตั้งแต่การปอกเปลือกมะพร้าวออกมาทำเส้นใยที่นอนและเผากะลาเป็นถ่านอัดแท่งเป็นแท่งเชื้อเพลิง รวมทั้งการสกัดน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ส่งออก ส่วนชายทะเลต่อจากเมืองประจวบนั้นก็กลายเป็นแหล่งพักผ่อน ที่มีน้ำทะเลใส และมีรีสอร์ทที่ได้การรับรองมาตรฐานจากกรมการท่องเที่ยว สำหรับพักผ่อนเช่น มาลัย-เอเซียรีสอร์ท นั้นมีหาดทรายขาวที่เหมาะสำหรับการทำสปาด้วยเม็ดทราย ซึ่งมีการนวดแบบไทยบนหาดทรายชายทะเลแข่งกับเสียงคลื่นและแสงตะวันยามเช้าตรู่ ซึ่งเป็นบรรยากาศหนึ่งของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ กับรสชาติของอาหารจากกุ้งหอยปูปลาจากทะลไทย ปลาตัวเล็กที่เรียกกันว่าปลาชิ้งชั้งหรือปลาฉิ่งชั้ง จากท้องทะเลได้กลายเป็นสินค้าพื้นบ้านแห่งเดียวที่สร้างรายได้ให้กับชาวทับสะแก ทุกเช้ามืดเมื่อเรือเข้าชายฝั่งนั้น ปลาชิ้งชั้งที่ถูกอวนล้อมจับมานั้นจะถูกนำมาล้างน้ำจืดและต้มน้ำเดือดก่อนที่จะถูกนำออกตากแดด ปลาแห้งเหล่านี้ได้ถูกซื้อ-ขายและบรรจุส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะ ศรีลังกา เช่นเดียวกันปลาทะเลจำนวนหนึ่งก็จะถูกหมักเป็นน้ำปลาออกสู่ตลาด ทำให้ทับสะแกวันนี้ เป็นภูมิสวนมะพร้าวชายทะเลไทยที่มีเส้นใยมะพร้าวจากสวน และปลาชิ้งชั้งจากทะเล เป็นสินค้าส่งออกสู่ตลาด โดยเฉพาะการสร้างวิถีชุมชนสวนมะพร้าวชาวประมงดั้งเดิมให้เป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีรายได้ระดับประเทศอันเป็นแบบอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ

สวนมะพร้าวมีอายุมากกว่า 100 ปี ที่ทับสะแก

เส้นใยมะพร้าวที่อัดแท่งเป็นสินค้าส่งออก

ถ่านจากกะลามะพร้าวอัดแท่ง

ชายหาดทับสะแก ที่สมเด็จพระนเรศวร ทรงพาทหารพักผ่อน

สะพานท่าเรือหาปลาในทะเล

ชายหาดนเรศวรที่ทับสะแก

ปลาชิ้งชั้้งจำนวนมากที่ต้มสุก

สปาทรายบนหาดทับสะแก


เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

ปรีวิว-ฟันธง!บิ๊กแมทช์ผีดวลปืนเปิดบอลอังกฤษ

ไก่ประเดิมดุ!ถล่มเบิร์นลีย์ยับ-เช็คผลพรีเมียร์ลีกทุกคู่

ทูลกระหม่อมฯ ทรงบำเพ็ญพระกุศลอุทิศพระราชทาน ‘คุณพุ่ม’ เนื่องในวันคล้ายวันเกิด

'หมอมิ้งค์'ยันรัฐบาล-กองทัพเป็นเอกภาพ ทั้งปราบยาเสพติด-รักษาอธิปไตยชายแดน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved