คะแนนนิยมของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ตกลงไปอยู่ที่ 41% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดีสำหรับพรรคเดโมแครตที่ต้องการรักษาที่นั่งในสภาคองเกรส ในการเลือกตั้งกลางเทอมปลายปีนี้
ผลสำรวจความเห็นของรอยเตอร์ส-อิปซอส ล่าสุดพบว่า คะแนนความเห็นชอบของประธานาธิบดีไบเดนล่าสุดอยู่ที่41% มากกว่าช่วงกลางเดือนมีนาคม ซึ่งอยู่ที่ 40% ซึ่งอยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เขาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ มาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 40 ปี เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาคือหนึ่งในความเสียหายหลักสำหรับไบเดนและพรรคเดโมแครต ซึ่งกำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลเลือกตั้ง โดยคนอเมริกันกำลังประสบความยากลำบากเพราะราคาพลังงานและอาหารพุ่งสูงขึ้น เป็นผลพวงมาจากสงครามในยูเครน
ผลสำรวจยังพบว่า ชาวอเมริกันต้องการให้ไบเดนให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก และ 27% ระบุว่า เศรษฐกิจคือ
ปัญหาที่สำคัญที่สุดของสหรัฐฯในเวลานี้ ขณะเดียวกัน ผลสำรวจยังพบว่า ชาวอเมริกัน 53% ไม่เห็นชอบกับผลการทำงานของนายไบเดน และเพียงหนึ่งในสี่เท่านั้น ที่เชื่อว่าประเทศกำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง
รอยเตอร์ส-อิปซอส ได้สำรวจชาวอเมริกันทั่วประเทศ 1,005 คน เป็นผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต 444 คน และรีพับลิกัน 369 คนและมีการคาดการณ์ว่า พรรคเดโมแครตจะสูญเสียการควบคุมสภาผู้แทนราษฎร และอาจสูญเสียการควบคุมวุฒิสภาในการเลือกกลางเทอมเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะส่งผลให้การผ่านร่างกฎหมายต่างๆ ของรัฐบาลไบเดนประสบความยากลำบากมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีรายนี้พยายามกล่าวโทษไปที่ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน และการรุกรานที่ก่อความปั่นป่วนแก่ตลาดพลังงานโลก โดยอ้างว่า ราคาที่เพิ่มขึ้นในเดือนมีนาคม 70% มาจากการขึ้นราคาเบนซินของปูตินแม้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่ามันคิดเป็นสัดส่วนราวๆ เกือบครึ่งหนึ่งเท่านั้น
ขณะเดียวกัน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ไบเดนได้เผยแผนการที่จะขยายการผสมเชื้อเพลิงชีวภาพกับน้ำมันเบนซินในสัดส่วนที่สูงขึ้นตลอดจนฤดูร้อนนี้ เพื่อแก้ปัญหาราคาพลังงานแพง และลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานต่างชาติ
มาตรการดังกล่าวจะทำให้ชาวอเมริกันสามารถยังซื้อน้ำมัน E15 ซึ่งเป็นน้ำมันเบนซินที่มีส่วนผสมเอทานอล 15% ได้ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน ไปจนถึง 15 กันยายนโดยน้ำมัน E15 มีราคาต่ำกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงราว 10 เซ็นต์เท่านั้น และมีความหนาแน่นของพลังงานต่ำกว่า ซึ่งหมายความว่า แม้จะต้องเติมน้ำมันมากขึ้น แต่ก็จะสามารถลดค่าใช้จ่ายลงได้บ้าง
มาตรการนี้มีขึ้นหลังการถกเถียงกันภายในทำเนียบขาวมาหลายสัปดาห์ เพราะแต่เดิม สหรัฐฯแบนการใช้น้ำมัน E15 ในช่วงฤดูร้อนเพราะกังวลว่าจะทำให้เกิดหมอกควันท่ามกลางอากาศร้อนแต่สถานการณ์ในยูเครน และการคว่ำบาตรภาคพลังงานของรัสเซีย ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินนั้นพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ซึ่งอ่อนไหวต่อพรรคเดโมเครตในการเลือกตั้งกลางเทอมจนทำให้รัฐบาลไบเดนต้องประกาศปล่อยขายน้ำมันดิบจากคลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ของชาติ จำนวน 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นเวลาหกเดือน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อช่วยแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี