วันเสาร์ ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
อาการทางจิต ภัยเงียบ แต่มีผลรุนแรงของสังคมมนุษย์

อาการทางจิต ภัยเงียบ แต่มีผลรุนแรงของสังคมมนุษย์

วันเสาร์ ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2565, 06.00 น.
Tag : จิตแพทย์ อาการทางจิต
  •  

เมื่อรู้ว่าตนเองหรือคนใกล้ชิดมีอาการทางจิตประสาทจนทำให้ชีวิตประจำวันไม่เป็นปกติสุขอีกต่อไป สิ่งที่ต้องเร่งทำในทันทีคือไปพบจิตแพทย์ เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับตนเอง เพื่อลดปัญหาที่จะเกิดตามมา

ไลฟ์ วาไรตี สัปดาห์นี้ ดร.เฉลิมชัย ยอดมาลัย นำคุณไปสนทนากับ นาวาอากาศตรี นายแพทย์ วุฒิโชคพิทักษากร ที่ปรึกษาพิเศษด้านจิตเวชศาสตร์ สถาบันเวชศาสตร์การบิน กองทัพอากาศ เพื่อหาทางออกให้กับผู้มีอาการด้านจิตเภท


คุณหมอครับ คนไทยจำนวนไม่น้อยยังเชื่อว่าการไปปรึกษากับคุณหมอด้านจิตเวช คือคนที่มีจิตใจไม่ปกติ บางรายเหมาไปเลยว่าเป็นคนบ้า คุณหมอช่วยอธิบายประเด็นนี้ด้วยครับ

นพ.วุฒิโชค : เป็นความเชื่อของคนครับ เขาเชื่อเพราะไม่ทราบข้อเท็จจริง การไปพบจิตแพทย์ไม่จำเป็นต้องเป็นคนบ้าครับ เพราะคนที่บ้าจริงๆ เขาคงไม่สามารถไปพบจิตแพทย์ได้แล้ว ต้องมีคนพาเขาไป (หัวเราะ) ในความเป็นจริง คนเรามีความเครียดต่างกันไปหลายระดับ บางคนมีความเครียดจริงแต่มีพลังใจเข้มแข็ง ก็สามารถจัดการกับความเครียดของตนได้โดยไม่ต้องไปพบจิตแพทย์ แต่สำหรับบางคนมีความเครียดแล้ว จัดการกับมันไม่ได้ แล้วความเครียดก็ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของตนเอง และคนรอบข้าง บางรายเครียดจัดจนอย่างฆ่าตัวตาย หรือทำร้ายผู้อื่น แบบนี้แนะนำว่าต้องรีบไปพบจิตแพทย์ด่วนที่สุด อย่าปล่อยไว้เป็นอันขาด เพราะอันตรายมาก ในเรื่องจิตเวชนั้นมีความสัมพันธ์กันระหว่างสมองกับร่างกาย เมื่อสารเคมีในร่างกายเปลี่ยนแปลงไปมากๆ ก็จะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจ และบุคลิกภาพ นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับการเลี้ยงดู รวมถึงสภาพแวดล้อมด้วย สังคมยุคปัจจุบันมีสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความเครียด บางคนจัดการกับความเครียดไม่ได้ ก็เกิดปัญหาในการดำรงชีวิต บางคนหมกมุ่นกับความเครียดโดยไม่สามารถปล่อยวางได้ หากแบบนี้ต้องไปพบจิตแพทย์ให้เร็วที่สุด เมื่อไปพบคุณหมอแล้ว จะได้รับการวินิจฉัย แล้วอาจจะได้รับยาเพื่อปรับระดับสารเคมีในสมองให้สมดุล ก็ทำให้แก้ปัญหาได้ แล้วทุกอย่างก็จะกลับมาปกติได้ ไม่เกิดปัญหากับตนเองและสังคม

เรียนถามคุณหมอว่า คนที่มีอาการอะไรบ้างที่ต้องไปพบคุณหมอโดยทันทีครับ

นพ.วุฒิโชค : อันดับแรกคือคนที่คิดอยากฆ่าตัวตายอันนี้ด่วนที่สุด คนที่คิดแบบนี้มักจะคิดว่าไม่มีใครช่วยเขาได้อีกแล้วเขาจึงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป บางคนมีอาการซึมเศร้า เขาจะคิดว่าเขาอยู่โดยไม่มีความสุข แต่เมื่อวิเคราะห์คนกลุ่มนี้จริงๆ ก็อาจพบว่าบางรายมีความคิดเช่นนั้นเพราะเข้าใจผิดไปเอง เพราะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อให้มีความสุข ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วสังคมไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เขาคิดไปเอง คือกระบวนการในสมองเกิดความผิดเพี้ยนจนประมวลผลผิด เขาจึงคิดว่าขอตายดีกว่า ย้ำว่าแบบนี้ต้องไปพบคุณหมอทันที พวกที่สองคือมีสภาวะบ้าคลั่ง ภาวะที่สองคือพวกที่บ้าคลั่ง รุนแรง ชอบทำร้ายผู้อื่น อาการกลุ่มนี้จะผิดไปจากกลุ่มที่กล่าวมาข้างต้น คือโรคซึมเศร้า กลุ่มนั้นคิดจะทำร้ายตัวเอง แต่กลุ่มหลังคิดจะทำร้ายผู้อื่น อาจมีภาวะประสาทหลอนคิดว่ามีคนมาสั่งให้ทำสิ่งรุนแรง มีอาการหูแว่ว หรืออ้างว่ามีองค์มาสั่งให้ทำ เช่นต้องไปฆ่าคนอื่น หวาดระแวงว่าใครจะมาฆ่าตนเอง เลยชิงฆ่าเขาเสียก่อน แบบนี้ก็ต้องรีบไปพบแพทย์ครับ ปัจจุบันเรามีกฎหมายสุขภาพจิตที่ตราขึ้นมาเพื่อป้องกันเหตุไม่พึงประสงค์จากกลุ่มจิตเภท กฎหมายอนุญาตให้ญาติ คุณหมอ ตำรวจ สามารถนำผู้มีอาการจิตเภทไปรักษาได้ หรือมีสิทธิ์กักตัวผู้มีอาการจิตเภทในที่ๆ เหมาะสมได้ แม้เจ้าตัวจะไม่ยินยอมก็ตามเนื่องจากเขาเป็นผู้ป่วยทางจิต หากปล่อยไว้จะเกิดอันตรายต่อตัวของเขาและต่อสังคม

เราจะสังเกตได้อย่างไรครับว่าใครมีอาการจิตเภท

นพ.วุฒิโชค : สำหรับกลุ่มโรคซึมเศร้า ส่วนใหญ่เขารู้ตัวว่าเขามีปัญหา ประเด็นนี้แยกได้ไม่ยากนัก ส่วนอีกกลุ่มคือผู้ไม่ยอมรับว่าตัวเองป่วย คือโรคพวกโรคจิตเภทที่ค่อนข้างหนัก กลุ่มนี้การประมวลผลในสมองของเขาผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริงมาก เขามักคิดว่าสิ่งที่เขาคิดอยู่นั้นเป็นความจริงกลุ่มนี้มีปัญหามากกว่า ส่วนกลุ่มซึมเศร้ามักจะรู้ตัวว่าเขามีความทุกข์ แต่หาทางออกไม่ได้ ไม่รู้จะพึ่งใคร ทางที่ดีคือเราต้องหมั่นสังเกตคนในครอบครัวของเรา และเพื่อนร่วมงาน ร่วมสังคมของเรา ตัวอย่างเช่น ญาติๆ บางคนมีอาการซึมกินข้าวน้อยผิดปกติ นอนไม่หลับ แยกตัวจากสังคม เมื่อพบแบบนี้ เราต้องพูดคุยกับเขาให้มากขึ้น แต่คุยแบบไม่จับผิดคุยเพื่อให้เขาได้ระบายความในใจออกมา เมื่อเขาได้ระบายออกมาแล้ว เขาก็จะโล่งขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือหากเขาไม่ไปพบแพทย์โดยตรง แต่เขาระบายกับคนใกล้ชิด ขอให้คนใกล้ชิดอย่างนำปัญหาของเขาไปเป็นปัญหาของตัวเอง คืออย่า in กับปัญหาที่เขาระบายออกมา เพราะจะให้กลายเป็นมีคนเกิดปัญหาทางจิตสองคน สำหรับจิตแพทย์นั้นจะรับฟังปัญหาของเขามากกว่า คือจะ empathy (เข้าอกเข้าใจในปัญหา) แต่ไม่ sympathy(สะเทือนใจกับปัญหา) สรุปเบื้องต้นคือ พาคนที่มีปัญหาทางจิตมากๆ หนักๆ ไปพบจิตแพทย์ดีที่สุดครับ อย่ารักษากันเอง

อีกประเด็นคือคนที่วิตกทุกข์ร้อนมากเกินเหตุ หวาดระแวงเกินไป เช่น กลัวโควิด-19 จนอยู่ไม่เป็นปกติ วิตกเรื่องข้าวของแพงมากๆ กลัวว่าจะตกงาน ทั้งๆ ที่ยังมีงานทำ หรือบางคนหาเรื่องทะเลาะกันหลังจากดูข่าวต่างๆ เช่น บางคนเชียร์ฝ่ายนี้ ด่าฝ่ายโน้น จนสุดท้ายตีกันเอง แบบนี้เป็นโรคจิตไหมครับ

นพ.วุฒิโชค : หากวิเคราะห์ทางการแพทย์ไม่ใช่โรคจิต แต่เป็นความไม่พอดีของมนุษย์มากกว่า คือไม่สามารถควบคุมอารมณ์และความคิดให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมได้ คนกลุ่มนี้อาจชอบทำให้คนรอบข้างเดือดร้อนแล้วตนเองมีความสุข แบบนี้ไม่ใช่โรค หมอจึงไม่สามารถรักษาได้ แต่คนพวกนี้อยู่ในกลุ่มชอบสร้างปัญหา ชอบยุแยงตะแคงรั่ว (หัวเราะ) การรับข่าวใดๆ ก็ตามขอให้กลั่นกรองก่อน อย่าตะบี้ตะบันรับไปเรื่อยๆ ข่าวไหนที่รับแล้วเรามีความทุกข์ก็อย่าไปรับมัน ปล่อยมันไป เพราะมันไม่มีคุณค่าต่อสมองของเรา พูดง่ายๆ คืออะไรที่ทำให้เราเป็นทุกข์ อย่าไปรับมัน ทิ้งมันไป ต้องเลือกรับให้เป็น เลือกเสพสิ่งมีประโยชน์ อะไรที่ทำให้เราตีกันอย่าไปรับมันเข้ามา อาจจะฟังแต่ไม่ต้องไป in กับมัน คือรับรู้แล้วปล่อยวาง

ในทางการแพทย์ คุณหมอมีกระบวนการใดที่จะลดปัญหาจิตเภทของคนในสังคมได้บ้างครับ 

นพ.วุฒิโชค : อันดับแรกคือผู้รับสารทุกคนต้องมีสติ ต้องกลั่นกรองข่าวสารได้ ต้องรู้ว่าสิ่งใดมีประโยชน์ หรือไม่มีประโยชน์ เมื่อเลือกได้เช่นนี้ก็ลดปัญหาไปได้มากแล้ว ปัจจุบันมีข่าวสารมากมาย ทั้งจริงและเท็จ มีระบบการสื่อสารมากมาย เรารับสารในแต่ละวันมากจนเกินความจำเป็นหรือเปล่า ขอให้เลือกรับสักหน่อย อย่ารับเข้ามาทั้งหมด เราต้องบอกตัวเองว่าต้องทำชีวิตให้มีความสุข อย่าหมกมุ่นมากไป แล้วก็อย่าปลีกวิเวกมากไป เอาแบบพอดีๆ บางคนปลีกวิเวกมากเสียจนเหมือนกับอยู่คนเดียวบนโลก แบบนั้นก็ยิ่งเครียดหนัก เพราะเวลาอยู่คนเดียวก็มักจะมโนไปเรื่อยจนกลายเป็นฟุ้งซ่าน คิดมาก เราต้องมีสังคมบ้าง เพราะเราเป็นสัตว์สังคม หากลุ่มเพื่อนฝูงที่คุยกันรู้เรื่อง สามารถแบ่งปันความทุกข์ความสุขกันได้ ระบายให้แต่ละคนรับรู้เรื่องเครียดๆ ได้บ้าง แล้วขอย้ำว่าอย่ารับสารพิษเข้าในร่างกายของเรา เราต้องเลือกให้เป็น และต้องระบายอารมณ์เครียดให้เป็น อย่าเก็บกด เพราะมันจะเป็นพิษต่อตัวเราเอง การมีเพื่อนที่คุยกันได้ หารือกันได้ รับรู้เรื่องราวของกันและกันได้เป็นเรื่องดี ในทฤษฎีด้านจิตเวช ความเครียดเป็นพลังงาน เพราะฉะนั้นถ้าเราเอาความเครียดเก็บไว้ในอกมากๆ มันเหมือนกับลูกโป่งที่ถูกเติมลมเข้าไปเรื่อยๆ วันหนึ่งมันก็ระเบิด สติแตก แต่ถ้าเราค่อยๆ ปล่อย ระบายความเครียดไปเรื่อย ๆ ก็ไม่ระเบิด ขอย้ำเรื่องการระบายให้คนใกล้ชิดกันฟังเรื่องราวต่างๆ คือขอให้รับฟังเท่านั้น อย่าเสนอแนะ อย่าตั้งคำถาม ปล่อยให้เขาพูดออกมาให้หมด หากเขาถามว่าจะเสนออะไรไหม ก็อาจจะถามกลับไปว่า แล้วเธอคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เพราะบางทีเขาแค่อยากระบายเท่านั้น เมื่อระบายแล้วก็โล่งใจ ขอให้ระลึกไว้ว่าการให้คำแนะนำใดๆ ก็ตาม หากผู้ให้คำแนะนำไม่ใช่จิตแพทย์ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้ ส่วนคนที่ดูข่าวแล้วตีกันเอง ก็ขอแนะนำให้เลือกเสพข่าวที่กลั่นกรองแล้วอย่าเชื่อข่าวง่ายมากนัก คิดก่อนเชื่อ แล้วขอให้ระลึกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น เป็นปัญหาของคนทั้งโลก เช่น น้ำมันแพง ก็เป็นปัญหาของคนทั้งโลก ไม่ใช่ปัญหาของเราคนเดียว เพราะฉะนั้นไม่ใช่ว่าเราเดือดร้อนคนเดียว ขอให้มองส่วนดีๆ ของโลกบ้าง อย่าหมกมุ่นกับเรื่องร้ายๆ เท่านั้น ขอยืนยันว่าโลกยังมีสิ่งสวยงามให้ดูให้ชมอีกมาก เลือกชมสิ่งสวยๆ งามๆ ด้วย อย่าดูแต่เรื่องเลวร้ายเท่านั้น อะไรทำให้เราเกิดความทุกข์ก็ดึงตัวเราออกมา มองในสิ่งงดงามสร้างสรรค์ แล้วที่สำคัญคือหมั่นออกกำลังกายทุกวัน วันละ 30 นาทีเป็นอย่างน้อย เพราะร่างกายที่แข็งแรงก็มีสุขภาพจิตที่ดีตามไปด้วย เลือกกินอาหารที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย หลีกเลี่ยงสารเสพติดทุกชนิดตรวจเช็คสุขภาพประจำปี หากิจกรรมที่ทำแล้วมีความสุขเบิกบานร่าเริง ฟังเทศน์ฟังธรรมตามศาสนาที่เรานับถือ ทำบุญทำกุศลบ้างแล้วที่สำคัญคือต้องมีสติทุกขณะ ต้องอยู่กับปัจจุบัน อย่าไปหมกมุ่นกับอดีต อย่าไปวิตกกับอนาคต หากเราฝึกจิตใจของเราทุกวัน จิตใจก็จะเข้มแข็ง และสามารถรักษาใจให้สงบได้ขอย้ำว่าอย่าปฏิเสธความจริง ต้องยอมรับความจริงด้วยสติ แล้วแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยสติ หากเราขาดสติก็จะเกิดปัญหาตามมามากมาย ขอย้ำว่าความเครียดคือพลังชนิดหนึ่ง หากเราเก็บกดความเครียดไว้มากๆ มันจะแสดงออกในทางกายภาพ คือเจ็บป่วย ปวดหัว ปวดท้อง เครียดลงกระเพาะ ลำไส้ทำงานผิดปกติ และเป็นต้นตอของมะเร็ง เพราะความเครียดไปกดภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้เซลล์มะเร็งเติบโตได้รวดเร็ว ขอย้ำทิ้งท้ายว่า หากคุณเครียดจนไม่สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติต้องรีบไปพบจิตแพทย์โดยด่วน อย่าปล่อยทิ้งไว้จนกลายเป็นปัญหาใหญ่ต่อตัวของผู้มีอาการเครียดและต่อสังคม

คุณจะได้พบรายการดีที่ครบครันด้วยสาระและความรู้ รายการ ไลฟ์ วาไรตี ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00-16.25 น. ทางโทรทัศน์ NBT กดหมายเลข 2 และ
ชมรายการย้อนหลังได้ที่ YouTube ไลฟ์ วาไรตี

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'เสื้อแดงโคราช' แห่ต้อนรับ 'ทักษิณ' เป็นประธานเททองหล่อรูปเหมือน 'หลวงพ่อคูณ'

‘ปาเกียว’พร้อม! ตะบันรุ่นใหญ่สุดรอบ 12 ปี

คุกคืนที่2!‘สีกากอล์ฟ’เครียดบ้าง ทำใจได้ อาจเจอ‘สีกาเก็น’ในแดนระหว่างพิจารณาคดี

หนุ่มดวงถึงฆาต! ขี่จยย.จะไปทำงาน-หลบหลุมน้ำ 'เฉี่ยวรถกระบะเสียชีวิต'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved