สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯทรงเปิดนิทรรศการงาน “ศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 10 และ 11” โดยมี กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่ง กทม., ขจิต ชัชวานิชย์ ปลัด กทม., ฐาปน สิริวัฒนภักดี กก.ผจญ.บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ, นิติกร กรัยวิเชียร ผอ.โครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ เฝ้าฯ รับเสด็จ
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดนิทรรศการและพระราชทานรางวัลในงาน “ศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 10และ 11” ภายใต้หัวข้อ “ในฝัน” และ “คนไทยให้กันได้” จัดโดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่เปิดโอกาสให้เหล่าศิลปินและผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้รังสรรค์ชิ้นงานศิลปะร่วมสมัยให้ขยายไปสู่การรับรู้ของสังคมในวงกว้าง ผ่านการนำเสนอผลงานรูปแบบจิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ และสื่อผสม โดยไม่จำกัดเทคนิคและวัสดุทั้งในรูปแบบรูปธรรม หรือศิลปะรูปลักษณ์ บอกเล่าเรื่องราวจากแนวคิดของศิลปินแต่ละคน โดยในปีนี้งานนิทรรศการศิลปกรรมช้างเผือกนำเสนอผลงานศิลปะของการประกวดศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 11 ประจำปี 2565 และครั้งที่ 10 ประจำปี 2564 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ทางผู้จัดไม่สามารถจัดนิทรรศการศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 10 ตามกำหนดเดิมได้ ทำให้จำเป็นต้องนำผลงานจากการประกวดทั้งสองปีมาจัดแสดงร่วมกันในปีนี้
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงตัดแถบแพรเปิดนิทรรศการฯ
ศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 10 ผลงานที่ได้รับรางวัลช้างเผือก ได้แก่“แหวกว่ายในนิทรา” โดย ลดากร พวงบุบผาชนะเลิศ ได้แก่ “สุขสมดุล” โดย นิลยา บรรดาศักดิ์, รางวัล CEO AWARD ได้แก่ “สวนสัตว์ในฝัน” โดย เสริมศักดิ์ ทามี และ ศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 11ผลงานที่ได้รับรางวัลช้างเผือก ได้แก่ “พลังแห่งดอกทานตะวัน” โดย อนันต์ยศจันทร์นวล, ชนะเลิศ ได้แก่ “ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ” โดย มนัชญา กิจประเสริฐ,รางวัล CEO AWARD ได้แก่ “โฮม Home(บุญบ้านเฮา)” โดย เญอรินดา แก้วสุวรรณ
ทรงวาดภาพฝีพระหัตถ์
นิติกร กรัยวิเชียร ผู้อำนวยการโครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การประกวดศิลปกรรมช้างเผือกเกิดจากความตั้งใจอันดีของ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เพื่อเฟ้นหาศิลปินไทยรุ่นใหม่ที่มีทักษะความสามารถทางศิลปะอันโดดเด่นในการสร้างสรรค์ศิลปะแบบเหมือนจริงและศิลปะรูปลักษณ์ โดยยึดถือความเหมือนจริงเป็นแก่นสำคัญเพื่อให้ผลงานศิลปะเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สำคัญ ในการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านศิลปะร่วมสมัยให้ขยายไปสู่การรับรู้ของสังคมในวงกว้าง การประกวดศิลปกรรมช้างเผือกเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2554 และดำเนินงานต่อเนื่องเรื่อยมาเป็นประจำทุกปี โดยในปี 2565 นับเป็นการจัดการประกวดครั้งที่ 11 ภายใต้หัวข้อ “คนไทยให้กันได้” เพื่อให้ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะได้แสดงฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ โดยตีความจากโจทย์ที่กำหนดให้ซึ่งศิลปินที่เข้าร่วมประกวดแต่ละคนก็ต่างสร้างสรรค์ผลงานที่น่าสนใจในรูปแบบและแนวทางที่แตกต่าง ได้อย่างน่าประทับใจ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งนี้ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานในการพระราชทานรางวัลตั้งแต่การประกวดครั้งแรกตราบจนปัจจุบัน และขอขอบพระคุณคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่านตลอดจนศิลปินผู้ส่งผลงานเข้าร่วมการประกวดทุกคน และจะมุ่งมั่นในการส่งเสริมและสนับสนุนให้วงการศิลปะร่วมสมัยของประเทศไทยประสบความสำเร็จสืบเนื่องต่อไปในอนาคต”
ทรงวาดภาพฝีพระหัตถ์
ลดากร พวงบุบผา ผู้ชนะรางวัลช้างเผือก ครั้งที่ 10 เผยถึงแรงบันดาลใจผลงานชิ้นนี้ว่า “เชื่อกันว่าเราทุกคนต้องเคยฝัน เราจะฝันได้ก็ต่อเมื่อร่างกายเข้าสู่กระบวนการการหลับใหล ส่วนจิตและสมองของเรายังคงทำตามหน้าที่ต่อไป แต่จะมีสักกี่คนที่ตกอยู่ในภวังค์แห่งความฝันตลอดเวลา หนึ่งในนั้น คือ แม่บุญธรรมผู้แก่ชราที่รับอุปการะเลี้ยงดูฉันแต่เพียงลำพังจนเติบโตขึ้นมาภายในบ้านอันแสนอบอุ่น หญิงชราวัย 93 ปี ซึ่งเป็นคุณแม่บุญธรรมที่มีอาการสับสนทางจิต เสมือนว่ามีโลกอีกหนึ่งใบซ่อนอยู่ เธอมักจะเล่าเรื่องราวจากความเป็นจริงปะปนกับโลกแห่งความฝัน เช่น สิ่งของที่อยู่อย่างผิดที่ผิดทาง สถานที่และวันเวลาที่น่าสับสน สัตว์และสิ่งมีชีวิตในรูปแบบเหนือจริง ท่ามกลางบรรยากาศภายในบ้าน พื้นที่สมมุติ เรื่องราวของคุณแม่มักพาดำดิ่งสู่โลกแห่งจินตนาการ โลกที่แม้แต่ตัวเราเองก็อยากให้มีอยู่จริงค่ะ ผลงานชิ้นนี้ใช้เทคนิคภาพพิมพ์โลหะ ร่องลึก ซึ่งเป็นเทคนิคที่เราถนัดอยู่แล้ว ใช้ระยะเวลาการผลิตชิ้นงานเป็นระยะเวลา 4 เดือน”
ทอดพระเนตรภายในนิทรรศการฯ
อนันต์ยศ จันทร์นวล ผู้ชนะรางวัลช้างเผือก ครั้งที่ 11 เผยว่า “ดีใจและเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับรางวัลนี้ ทำให้มีกำลังใจในการทำผลงานชิ้นต่อไป ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานชิ้นที่ 4 ที่ส่งเข้ามาประกวดสร้างสรรค์ขึ้นด้วยแนวความคิดเกี่ยวกับดอกทานตะวันและผ้าสีแดงแสดงให้เห็นถึงความรัก ความหวัง ความสดใสร่าเริงมีชีวิตชีวา ความแข็งแกร่งสง่างามเสมือนเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คนไทยได้ข้ามผ่านช่วงเวลา ณ ปัจจุบันไปด้วยกัน โดยใช้เทคนิคสีน้ำมันและสีอะคริลิกบนผ้าลินิน ใช้ระยะเวลาผลิตชิ้นงานเป็นเวลา 1 เดือนขอขอบคุณโครงการศิลปกรรมช้างเผือกที่ทำให้ผมและเพื่อนๆ ได้ต่อยอดทำงานศิลปะอย่างต่อเนื่องครับ”
พระราชทานรางวัลในงาน “ศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 10 และ 11” ภายใต้หัวข้อ “ในฝัน” และ “คนไทยให้กันได้”
นิทรรศการ “ศิลปกรรมช้างเผือก ครั้งที่ 10 และ 11” เปิดให้ประชาชนเข้าชมตั้งแต่วันนี้จนถึง 28 สิงหาคม 2565 (หยุดทุกวันจันทร์) เวลา 10.00-19.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ ห้องนิทรรศการ ชั้น 9หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี