นักท่องเที่ยวที่ได้มีโอกาสเยือนฮังการี เที่ยวบูดาเปสต์อย่างจุใจและชื่นชอบเมืองเล็กๆที่ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงชั่วโมง เมืองที่น่าสนใจที่จะไปเยือนก็คือ Szentendre เมืองที่อยู่ห่างจากบูดาเปสต์ไปทางทิศเหนือเพียงแค่ 20 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวที่มีเวลาอาจและไม่เน้นการเข้ามิวเซียมใดๆ อาจใช้เวลาตอนบ่ายสักวันเพื่อเดินทางไปเยือนเมืองบาโรคแห่งนี้ วิธีการเดินทางไปยัง Szentendre ที่ดีที่สุดคือทางเรือ เพราะเป็นเส้นทางที่สวยงามมาก แต่ทำได้เฉพาะในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น หากนักท่องเที่ยวมีกำลังทรัพย์และชอบจิบไวน์อาจซื้อทัวร์ครึ่งวันที่มีทัวร์ชิมไวน์เพื่อลิ้มลองไวน์และคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ได้ด้วย
นอกจากเดินทางด้วยเรือแล้ว การขับรถก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้เวลาน้อยมาก แต่หากนักท่องเที่ยวไม่ได้เช่ารถขับ ทางเลือกอีกทางคือการนั่งรถโดยสารประจำทางหรือรถบัสนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถบัส เบอร์ 880 หรือ 889 ที่สถานี Volanbusz ซึ่งอยู่ทางเหนือของบูดาเปสต์ได้ นักท่องเที่ยวที่อยู่ในเมืองสามารถเดินทางโดยรถใต้ดินเบอร์ 3 ไปยังสถานี Voanbusz ได้ อีกทั้งยังสามารถเช็คตารางเวลารถบัสได้จากอินเตอร์เนตซึ่งสะดวกสบายและตรงเวลามาก สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ชอบนั่งรถบัสและเรือก็สามารถนั่งรถไฟไปได้ โดยสามารถขึ้นที่สถานี Batthyany Square หรือ Margaret Bridge ที่ฝั่งบูดาฯ แล้วเลือกรถเบอร์ H5 โดยซื้อตั๋วที่ตู้ในสถานีกับเจ้าหน้าที่หรือตู้อัตโนมัติก็ได้ แต่หากนักท่องเที่ยวไม่แน่ใจควรซื้อกับเจ้าหน้าที่และถามทางไปด้วยในตัวเพื่อกันการผิดพลาด การเดินทางไปยังสถานีทั้งสองจากในเมืองก็ใช้รถใต้ดิน M2 ได้อย่างไม่ยากเย็น
Szentendre เมืองริมน้ำใน Pest County ที่อยู่ระหว่างบูดาเปสต์ และเขาPilis-Visegrad นี้ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางด้าน Open Air Ethnographic Museum และห้องภาพ เมืองที่มีความสวยงามทั้งทางด้านสถาปัตยกรรมและเข้าถึงง่ายทางเรือนี้จึงเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของฮังการี ชื่อของเมืองมาจากคำละตินโบราณที่ว่า Sankt Andrae หรือ St.Andrew เมืองที่ตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1146 นี้ ยังมีอีกหลายชื่อแล้วแต่ภาษาก่อนที่ชาว Magyar จะมาตั้งถิ่นฐานบริเวณนี้ ในคริสต์ศตวรรษที่ 9 พื้นที่แห่งนี้ไม่มีคนอาศัยอยู่เลย เมื่อเจ้าชาย Kurszan ได้มาตั้งถิ่นฐาน พระองค์จึงตั้งป้อมปราการขึ้น ภายหลังเมืองนี้ก็ร้างผู้คนไปอีก ในช่วงสงครามกับตุรกี ฮังการีเชิญชาวเซิร์ฟให้เข้ามาขับไล่จักรวรรดิ Ottoman หลังจากนั้นชาวเซิร์ฟก็ได้มาอาศัยอยู่ในเมืองและสร้างวัฒนธรรมหลากหลายทิ้งไว้ให้โดยเฉพาะงานทางด้านสถาปัตยกรรม
ความสงบและสวยงามของเมืองกลายเป็นที่ดึงดูดใจของศิลปินตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 จนมีชื่อเสียงระดับที่เรียกว่า Szentendre school ถึงกระนั้นก็ตาม เมืองนี้ก็ยังเป็นเมืองเล็กที่มีประชากรเพียงแค่ 4 พันคน จนถึงทศวรรษที่ 1970 เมืองได้รับการขยายให้ใหญ่ขึ้นและมีประชากรมากขึ้นเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 จนทำให้การเกษตรของเมืองลดน้อยลง
นักท่องเที่ยวที่มาเยือน Szentendre ไม่เพียงจะมีโอกาสเยือน Ethnographic Museum ยังสามารถเดินเล่นชมเมืองที่เต็มไปด้วยร้านอาหารที่ตกแต่งอย่างสวยงามจนน่าที่จะลิ้มลองอาหารมื้อหนักสักมื้อ หรือพักจิบกาแฟ ดื่มชารับประทานเค้กกินก่อนจะช้อปปิ้งเรื่อยเปื่อยในบรรยากาศที่แสนจะผ่อนคลายสมกับเป็นเมืองที่ดึงดูดศิลปินได้อย่างดีจริงๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี