โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของคนไทย สาเหตุเกิดจากหลอดเลือดไปเลี้ยงที่หัวใจตีบตัน ขาดความยืดหยุ่น เนื่องจากการสะสมของไขมัน โปรตีน ที่บริเวณผนังด้านใน ของหลอดเลือด ยาลดไขมันในเลือดจึงมีบทบาทสำคัญในการรักษาและป้องกันการตายจากโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
ที่จริงแล้วไขมันเป็นสารอาหารชนิดหนึ่งที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ ร่างกายของเราต้องใช้ไขมันสร้างฮอร์โมนต่างๆ ช่วยดูดซึมวิตามินที่ไม่ละลายในน้ำ แต่ไขมันที่ได้รับมากเกินความจำเป็นก็ก่อปัญหาใหญ่ให้กับหลอดเลือดและหัวใจได้เช่นกัน ดังนั้น เมื่อถูกตรวจพบว่าระดับไขมันในเลือดสูงเกินไป ผู้ป่วยก็จะได้รับยาลดไขมันมารับประทาน ยาลดไขมันกลุ่มที่นิยมใช้มากที่สุดในท้องตลาดคือยากลุ่ม HMG-CoA Reductase Inhibitors หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า statins (สะแตติน) เนื่องจากชื่อยามักจะลงท้ายด้วยคำว่า statin นั่นเอง ตัวอย่างของยากลุ่มนี้ก็เช่น simvastatin, atorvastatin, cerivastatin เป็นต้น
ส่วนใหญ่ยาลดไขมันกลุ่ม statins นี้มักจะกินแค่วันละครั้งเดียว หลังอาหารเย็น หรือก่อนนอน เนื่องจากยาไปออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ที่สร้างคอเลสเตอรอลซึ่งทำงานในช่วงกลางคืนนั่นเอง การกินยาตอนเช้าจึงไม่ได้ผล เพราะยาหมดฤทธิ์ไปก่อนที่จะถึงเวลาที่เอนไซม์ทำงาน แต่มีข้อยกเว้นสำหรับยาบางตัวที่ออกฤทธิ์ได้นาน สามารถกินตอนเช้าได้ ผู้ใช้ยาจึงต้องอ่านฉลากยาให้ดีว่ายาลดไขมันที่ตนเองได้รับต้องกินตอนไหน
โดยทั่วไปยากลุ่ม statins ไม่ค่อยมีผลข้างเคียงรุนแรง แต่ก็เช่นเดียวกับยาทุกชนิดที่ต้องมีคำเตือนเกี่ยวกับผลข้างเคียงรุนแรงที่พบได้น้อย เช่น ภาวะตับอักเสบ ช่วงเริ่มใช้ยาผู้ป่วยควรได้รับตรวจติดตามการทำงานของตับ หรือหากใช้ยาไปแล้วมีอาการอ่อนเพลีย ปวดท้อง เบื่ออาหาร ก็ควรรีบกลับไปพบแพทย์ ผลข้างเคียงอีกประการหนึ่งที่พบได้คือภาวะที่เรียกว่า rhabdomyolysis หรือ กล้ามเนื้อสลายผู้ป่วยจะมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อซึ่งไม่สัมพันธ์กับการออกกำลังกายหรือใช้งานหนัก กรณีที่รุนแรงมากอาจทำให้ไตวายเฉียบพลันจากของเสียที่เกิดจากการสลายของกล้ามเนื้อได้ อ่านถึงตรงนี้หลายท่านที่กำลังใช้ยากลุ่มนี้อยู่อาจจะตกอกตกใจ แต่ต้องบอกว่ายา statins นั้นมีประโยชน์เหนือความเสี่ยงมาก อัตราการเกิดผลข้างเคียงรุนแรงก็ต่ำมาก คือ อยู่ที่ประมาณ 1-5 ราย ในผู้ใช้ยา 1,000 คนเท่านั้น ดังนั้นผู้ใช้ยาจึงควรใช้ยาตามคำสั่งแพทย์ร่วมกับคอยสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น หากมีอาการที่สงสัยว่าจะเกิดจากยาควรรีบปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง
อีกประเด็นที่ผู้ใช้ยา statins ควรทราบก็คือเรื่องปฏิกิริยาระหว่างยา statins กับยาอื่น ซึ่งหากผู้ป่วยใช้บริการสถานพยาบาลที่ใดที่หนึ่งตลอด เรื่องนี้อาจไม่ต้องกังวลมากนักเพราะโรงพยาบาลต่างๆ จะมีระบบตรวจสอบว่ายาที่ผู้ป่วยแต่ละรายได้นั้นสามารถใช้ร่วมกันได้หรือไม่ แต่หากผู้ป่วยมีการซื้อยารับประทานเอง หรือไปพบแพทย์หลายโรงพยาบาล ควรแจ้งประวัติการใช้ยาทุกอย่างให้ผู้สั่งยาทราบ เพราะยา statins ที่ผู้ป่วยใช้อยู่อาจตีกับยาใหม่ที่ได้รับเพิ่มได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยใช้ยา simvastarin อยู่ แต่เกิดติดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้ต้องได้รับยา clarithromycin ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่เปลี่ยนแปลงยา simvastatin ส่งผลให้มียาเหลืออยู่ในร่างกายของผู้ป่วยมากขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดภาวะกล้ามเนื้อสลายตัวได้เพิ่มขึ้น เป็นต้น ซึ่งหากแพทย์หรือเภสัชกรที่จ่ายยาทราบก่อนก็จะสามารถหลีกเลี่ยงการให้ยาร่วมกันโดยเลือกยาฆ่าเชื้อตัวอื่นหรืออาจให้ผู้ป่วยงดยา simvastatin ชั่วคราว ระหว่างที่กำลังใช้ตัวที่มีปัญหาอยู่ถ้าไม่สามารถหาตัวเลือกอื่นได้ เป็นต้น
ค่าปกติของระดับคอเลสเตอรอลในเลือดโดยทั่วไปคือไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร อย่างไรก็ตาม ระดับไขมันในเลือดยังคงมีรายละเอียดแยกย่อยออกไปอีกหลายค่า และแต่ละค่าก็มีค่าปกติที่แตกต่างกัน ในคนที่มีไขมันในเลือดสูงและได้รับยาลดไขมันในเลือด แพทย์จะนัดตรวจเป็นระยะเพื่อดูว่าจะต้องปรับเพิ่มหรือลดยาหรือไม่ การกินยาอย่างสม่ำเสมอและไปพบแพทย์ตามนัดจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก และแม้ว่าระดับคอเลสเตอรอลจะลดลงสู่ปกติแล้ว แพทย์ก็อาจจะยังคงให้ผู้ป่วยกินยาต่อไปเรื่อยๆ เพื่อควบคุมระดับไขมันในเลือดไว้ไม่ให้สูงขึ้นมาอีก
โดยสรุป ยากลุ่ม statins เป็นยาลดไขมันในเลือดที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยตัวยาเองมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงถ้าใช้อย่างถูกต้อง ข้อควรระวังคือผู้ใช้ยาควรคอยสังเกตว่าเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงกับตนเองหรือไม่และใช้ยาต่อเนื่องตามที่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ หากต้องใช้ยานี้ร่วมกับยาอื่นควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเสียก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหายาตีกัน หากผู้ที่กำลังใช้ยานี้อยู่มีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามศูนย์ข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัย ได้ที่ line official @guruya
ผศ.ภญ.ดร.ณัฏฐดา อารีเปี่ยม
คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี