ซีพี จับมือ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ขับเคลื่อนโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน เข้าสู่ปีที่ 34ส่งเสริมเด็กและเยาวชนเข้าถึงอาหารปลอดภัยเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการให้น้องๆนักเรียน เป้า 1,000 โรงเรียนทั่วประเทศ ในพื้นที่ชนบทห่างไกล เป็นห้องเรียนสร้างอาชีพจากการเรียนรู้การเลี้ยงไก่ไข่ แปรรูปอาหารจากผลผลิตไข่ไก่ ต่อยอดสู่การบริหารจัดการของเสียจากมูลไก่นำมาทำเป็นปุ๋ย ขยายผลสู่ชุมชนเป็นคลังเสบียงในสถานการณ์ระบาดของโควิด-19
จอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือซีพี และผู้ช่วยบริหาร สำนักประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่าเครือซีพีซีพีเอฟและมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบทน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตาม “โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน”สานต่อดำเนิน “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกลและในถิ่นทุรกันดาร ได้บริโภคไข่ไก่อย่างต่อเนื่อง เสริมสร้างโภชนาการที่ดี และการเติบโตสมวัย ทั้งด้านร่างกายและสติปัญญา โดยตั้งแต่ปี 2532 จนถึงปัจจุบัน มีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯแล้ว 905 โรงเรียน มีจำนวนนักเรียนมากกว่า180,000 คน และเป็นแหล่งเรียนรู้การจัดการอาชีพเกษตรเชิงธุรกิจให้กับครู 12,000 คน ตลอดจนชุมชน 1,900 แห่ง ได้รับประโยชน์จากโครงการฯมีไข่ไก่บริโภคในราคาย่อมเยาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงเกิดการพัฒนาระบบการบริหารจัดการผลผลิตนำไปสู่ความยั่งยืนของโครงการ ทั้งนี้ มีเป้าหมายเพิ่มขึ้นปีละ 25 โรงเรียน คาดว่าภายใน 2568จะมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการฯ 1,000 โรงเรียน
ด้าน สมคิด วรรณลุกขี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจไก่ไข่ ซีพีเอฟ กล่าวว่า โครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ เป็นหนึ่งในโครงการที่ซีพีเอฟดำเนินการภายใต้ 3 เสาหลัก คือ อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตนและดินน้ำป่าคงอยู่ ซึ่งสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ(Sustainable Development Goals : SDGs) ในข้อ 2 การขจัดความหิวโหย บรรลุความมั่นคงทางอาหาร และข้อ 3 การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน ทุกช่วงอายุ ซึ่งตลอด 34 ปีของการดำเนินโครงการดังกล่าว ซีพีเอฟให้การสนับสนุนโรงเรือน อุปกรณ์การเลี้ยง พันธุ์สัตว์ และอาหารสัตว์สำหรับการเลี้ยงรุ่นแรก (ระยะเลี้ยงประมาณ 60 สัปดาห์) ให้กับโรงเรียนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมส่งผู้เชี่ยวชาญให้ความรู้ด้านเทคโนโลยีการเลี้ยงไก่ไข่การดูแลสุขภาพสัตว์ การจัดการโรงเรือน ตามหลักวิชาการและสุขาภิบาล รวมถึงให้คำแนะนำการบริหารจัดการผลผลิตและบัญชี เพื่อให้โครงการฯมีผลประกอบการที่ดี และมีเงินเข้ากองทุนโครงการฯสำหรับการเลี้ยงเองในรุ่นถัดไป โดยการเลี้ยงไก่ตั้งแต่รุ่นที่ 2 เป็นต้นไปโรงเรียนจะได้รับพิจารณาให้สามารถซื้อพันธุ์ไก่ไข่ และอาหารไก่ไข่ในราคาพิเศษ โดยส่วนต่างราคาที่เกิดขึ้นมีซีพีเอฟเป็น
ผู้ให้การสนับสนุน
“เครือซีพี ซีพีเอฟ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และภาคีเครือข่ายที่สนับสนุนโครงการฯ ประกอบด้วย หอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (JCC) และ บมจ.สยามแม็คโคร มุ่งมั่นต่อยอดความสำเร็จของโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน เป็นศูนย์เรียนรู้และคลังความรู้ในโรงเรียนที่เปิดให้ชุมชนเข้ามาเรียนรู้อาชีพเกษตร เทคโนโลยีการเลี้ยงไก่ไข่ การจัดการฟาร์ม และการตลาด เพื่อนำโมเดลธุรกิจเกษตรฉบับย่อไปประยุกต์ใช้ในอาชีพ” สมคิด กล่าว
นอกจากนี้ ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 โครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ ยังเป็นคลังเสบียงสำหรับชุมชน โดยผลผลิตไข่ไก่ที่ได้นำมาทำเป็นอาหารกลางวัน และนำผลผลิตส่งให้นักเรียนถึงที่บ้านตามบ้านตามวิถี New Normal เพื่อให้เด็กๆ ได้บริโภคไข่ไก่เสริมสุขภาพให้แข็งแรงแม้อยู่ในช่วงโควิดก็ตาม ขณะเดียวกัน สามารถบริหารจัดการผลผลิตไข่ไก่จำหน่ายให้แก่ชุมชน หรือผู้ปกครองนักเรียน เป็นคลังเสบียงอาหารที่มั่นคงของชุมชน ทำให้ประชาชนได้บริโภคไข่ไก่คุณภาพดี สด ใหม่ สะอาด และปลอดภัย ผลผลิตจากฝีมือของลูกหลาน ในราคาย่อมเยา ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารของครัวเรือน
สมคิด กล่าวเพิ่มเติมว่า ซีพีเอฟนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเลี้ยงไก่ อาทิ นำระบบแอปพลิเคชั่นไลน์ (LINE) ที่ถูกนำมาใช้ในการสื่อสารระหว่างโรงเรียนและเจ้าหน้าที่ของซีพีเอฟ เพื่ออำนวยความสะดวกในการประสานงาน สามารถให้คำแนะนำและแก้ปัญหาในการเลี้ยงไก่ได้อย่างทันท่วงทีใช้กูเกิ้ลฟอร์ม (Google Form) ในการรวบรวมข้อมูลทางออนไลน์ ทั้งการรายงานข้อมูลผลผลิตไข่ไก่ จำนวนไข่ที่จำหน่ายให้ชุมชน ฯลฯ ซึ่งน้องๆ นักเรียนต้องมีการรายงานอย่างสม่ำเสมอทุกสัปดาห์ ทำให้ทราบข้อมูลที่รวดเร็วเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนการผลิต
ทั้งนี้ โรงเรียนที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ ติดต่อขอข้อมูลได้ที่ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท โทรศัพท์ 02-7667340/4310 โทรสาร 0-2638-2716 หรือดาวน์โหลดเอกสาร
การสมัครและหลักเกณฑ์ ที่เว็บไซต์ www.rurallives.org
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี