หลายคนคงสงสัยมานานแล้วว่าคำว่า Third Reich มันคืออะไรกันแน่ และมันเกี่ยวอะไรกับเยอรมนี แล้วมี First Reich กับ Second Reich หรือไม่ ทำไมไม่ค่อยเห็น คำว่า Reich มาจากภาษาเยอรมันที่แปลว่า อาณาจักรเยอรมนีแบ่งอาณาจักรของตัวเองออกเป็น 3 ระยะนั่นคือ ระยะที่ 1 เรียกว่า Holy Roman Empire of German Nation เริ่มจากการครองราชย์ของพระเจ้า Otto I ในปี 962 จนถึงสงครามนโปเลียนในปี 1806 ระยะที่ 2 เริ่มจากการรวมชาติของเยอรมนีในปี 1871 จนถึงสิ้นสุดสงครามโลก ครั้งที่ 1 การรวมตัวกันเป็นชาติของเยอรมนีในครั้งนี้เกิดขึ้น ณ ห้องกระจกของพระราชวังแวร์ซายน์ ในวันที่ 18 มกราคม ปี 1871 เมื่อเจ้าชายจากรัฐต่างๆ ของเยอรมนีมารวมตัวกันเพื่อยกให้จักรพรรดิ Wilhelm ของปรัสเซียเป็นผู้นำของเยอรมนี ในการเซ็นสัญญาสงบศึกระหว่างฝรั่งเศสและรัสเซีย
ส่วนระยะที่ 3 ซึ่งคนส่วนใหญ่เรียกว่า Third Reich นั้น เป็นคำที่ใช้เรียกอาณาจักรเยอรมนีในช่วงระหว่างปี 1933-1945 อันเป็นช่วงเวลาที่รัฐบาลสังคมนิยมหรือพรรคนาซีของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ปกครองเยอรมนี ในช่วงเวลานั้น ฮิตเลอร์ได้ทำการเปลี่ยนแปลงเยอรมนีไปเป็นรัฐเผด็จการที่ควบคุมชาวเยอรมันในทุกด้านของชีวิต การปกครองในรูปแบบของกลุ่มคนหมดไป ทุกสิ่งทุกอย่างในเยอรมนีขึ้นกับความพึงพอใจของฮิตเลอร์แต่เพียงผู้เดียว เขาแก้ไขปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่สูงมากในเยอรมนีในช่วงเวลานั้้นด้วยการใช้จ่ายเงินไปอย่างมหาศาลกับการก่อสร้างถนนและการทหารหรือที่เรียกว่า Keynesian Military จนทำให้เศรษฐกิจของเยอรมนีฟื้นตัวอย่างรวดเร็วอันเป็นที่มาของความนิยมในตัวฮิตเลอร์ของชาวเยอรมัน
ศิลปะตามแนวทางที่ฮิตเลอร์โปรดปรานหรือที่เรียกว่า Degenerate Art นี้ไม่เป็นที่ชื่นชอบของศิลปินที่ใดหรือยุคใดเลยจนถูกตัดออกจากพัฒนาการทางศิลปะทั่วโลก ทั้งนี้เพราะศิลปะพื้นบ้านของเยอรมนียุคนี้ต้องเสนอในแนวที่เน้นแต่ความเป็นชาติและเชื้อชาติเพื่อคงไว้ซึ่งสายพันธุ์เยอรมนีที่บริสุทธิ์เท่านั้น ฮิตเลอร์จะจัดให้มีการแสดงศิลปะ The Great German Art Exhibition ทุกปีที่มิวนิก ผลงานที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นศิลปะเยอรมันที่บริสุทธิ์อย่างเคร่งครัดเท่านั้นที่จะได้รับการจัดแสดงผลงานศิลปะอื่นๆ ที่ไม่เป็นที่ชื่นชอบไม่เพียงจะไม่ได้รับการจัดแสดง ยังจะถูกกำจัดหรือเผาทิ้งไปจากมิวเซียมทุกแห่งทั่วเยอรมนีด้วยเพื่อให้การควบคุมวิถีชีวิตพลเมืองและสังคมเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ส่วนศิลปินที่เป็นที่โปรดปรานของฮิตเลอร์ เช่น Erwin Puchinger, Georg Gunther, Adolf Ziegler และ Sepp Hilz ก็จะได้รับการยกย่องให้เป็นผู้เผยแพร่ลัทธินาซี
Tyrolean Market ภาพบรรยากาศตลาดที่มึนทึมท่ามกลางหุบเขาล้อมรอบที่มีองค์ประกอบของมนุษย์ วัฒนธรรมและธรรมชาติ โดย Erwin Puchinger นี้เป็นสัญลักษณ์ของเลือดและแผ่นดิน รวมทั้งเป็นการแสดงออกถึงสายพันธุ์อันบริสุทธิ์ของเยอรมนีด้วย Break from the Harvest ภาพแรงงานนั่งพักผ่อนหลังเก็บเกี่ยวในหมู่บ้านท่ามกลางหุบเขาและทุ่งหญ้าของ Georg Gunther นี้ สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตชาวเยอรมันพื้นเมืองที่แนบแน่นกับธรรมชาติที่บริสุทธิ์ก็เป็นอีกทิวทัศน์หนึ่งที่ฮิตเลอร์ชื่นชอบ ส่วน Nude ภาพวัยรุ่นนั่งเปลือยในห้องนอนที่ยุ่งเหยิงของ Adolf Ziegler นี้ก็เป็นภาพอีกแนวหนึ่งที่ศิลปินแนวสังคมนิยมสามารถที่จะวาดได้ เพราะมันเป็นตัวแทนของผู้หญิงที่จะสร้างชาติและแสดงถึงความบริสุทธิ์ของพงศ์พันธุ์เยอรมันได้ในคราเดียวกันด้วย Ziegler ไม่เพียงเป็นศิลปินที่ฮิตเลอร์โปรดปราน ยังเป็นนักการเมืองในพรรคนาซีด้วย
อย่างไรก็ดีในช่วงเวลานั้นศิลปินสัญชาติเยอรมันบางคนที่มีแนวทางศิลปะที่โดดเด่นที่ไม่เน้นเรื่องความรักชาติก็มีผลงานออกมาเนือง ๆ และได้มีโอกาสเล็ดลอดมาจัดแสดงใน The Great German Art Exhibition บ้าง แต่เมื่อฮิตเลอร์พบว่าแนวทางศิลปะที่ศิลปินใช้เลียนแบบมาจากต่างชาติหรือได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานของศิลปินต่างชาติ เขาก็จะสั่งยุติการนำเสนอทันที เช่น Dune Landscape, Mother and Daughter, The Rider และ Couple in the Autumn ของ Ernst Wilhelm Nay
Break from the Harvest
Tyrolean Market
The Red Necklace ของ Sepp Hilz
Nude
Mother and Daughter
Dune Landscape
Couple in the Autumn
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี