NIA สร้างปรากฎการณ์ใหม่ในงาน STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2022 จัดเต็ม!! ในรูปแบบ Metaverse ครั้งแรกของเมืองไทย พาคุณเชื่อมต่อเมืองนวัตกรรมจากทั่วโลกเพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปด้วยกัน
8มิถุนายน 2565 สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาขน) หรือ NIA แถลงข่าวการจัดงาน “สตาร์ทอัพและอินโนเวชันไทยแลนด์ เอ็กซ์โป 2022” (STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2022 : SITE 2022) เตรียมสร้างปรากฎการณ์ใหม่และความยิ่งใหญ่ในรูปแบบ Metaverse ที่จะพาคุณเชื่อมต่อเมืองนวัตกรรมจากทั่วโลกเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปด้วยกัน ภายใต้แนวคิด "Reconnecting the World เชื่อมเรา เชื่อมโลก กลับมาเจอกัน” จัดงานในรูปแบบไฮบริดณอาคารอุทยานนวัตกรรม (ซอยโยธี) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และทางออนไลน์จัดในรูปแบบจักรวาลนฤมิต (Metaverse) หวังเปิดประสบการณ์ใหม่ให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน ระหว่างวันที่ 23-25 มิถุนายน 2565 เข้าร่วมฟรีทุกกิจกรรม!!
ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIAกล่าวว่าสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกนับตั้งเเต่ต้นปี 2020 ทำให้รัฐบาลของหลายประเทศต้องบังคับใช้มาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมโรคเเละลดจำนวนผู้ติดเชื้อ ซึ่งมาตรการเหล่านี้ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงักและเกิดผลกระทบเป็นวงกว้างดังนั้น NIA ในฐานะองค์กรหลักที่มุ่งใช้นวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมพร้อมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้จัดงาน STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPOขึ้น ตั้งแต่ปี 2020โดยมีสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการไทยนำสุดยอดนวัตกรรมเข้าร่วมแสดงศักยภาพด้านนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ตลอด 2 ปี ของการจัดงานSTARTUP x INNOVATION THAILAND EXPOไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงการใช้ ‘นวัตกรรมเพื่อรับมือภาวะวิกฤติ’ ในระดับโลกที่มาในหลากหลายรูปแบบได้อย่างเป็นรูปธรรมแต่ยังเป็นต้นแบบให้กับงานอีเว้นท์ต่อๆ มานำไปปรับใช้ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตได้เช่น“Virtual Concert”การนำเทคโนโลยีมาสร้างสรรค์สตูดิโอเสมือนจริง เพื่อให้แฟนคลับได้ใกล้ชิดกับศิลปินและมีส่วนร่วมระหว่างการชมคอนเสิร์ต “Virtual Marketplace”ตลาดจำหน่ายสินค้าในรูปแบบเสมือน โดยผู้จำหน่ายและผู้ซื้อสามารถพูดคุยกันได้แบบเรียลไทม์เหมือนคุยกับแบบ face to face ทำให้การติดต่อธุรกิจไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแม้จะมีอุปสรรคในการเดินทาง และเป็นเทรนด์ต่อเนื่องให้เกิดการติดต่อธุรกิจรูปแบบใหม่เกิดขึ้น นอกจากนั้น ยังเป็นการรวมทุกภาคส่วนให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศให้เข้มแข็งขึ้น
ผลงานเชิงประจักษ์ที่นับเป็นความสำเร็จจากการจัดงานดังกล่าว นอกจากจะเป็นการนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อรับมือภาวะวิกฤติและการสร้างสรรค์แพลตฟอร์มของการจัดงานในรูปแบบเสมือนจริงแล้วยังก่อให้เกิดผลกระทบที่ดีในหลากหลายมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษาและวัฒนธรรมโดยการจัดงาน STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPOในปี 2020เกิดการเข้าถึงสินค้าและบริการของ 200 สตาร์ทอัพผ่านตลาดสินค้าออนไลน์กว่า 42,000 ครั้งเกิดการจ้างงานด้านนวัตกรรมไม่น้อยกว่า 1,500 อัตราและสร้างเครือข่ายทางธุรกิจและการลงทุนมากกว่า 15,000 รายสำหรับการจัดงานในปี 2021 สามารถสร้างเครือข่ายทางธุรกิจและการลงทุนมากกว่า 300 ล้านบาท เข้าถึงสินค้าและบริการของ 200 สตาร์ทอัพมีผู้เข้าชมผ่านช่องทางออนไลน์กว่า 181,400ครั้งและสิ่งสำคัญของการจัดงานทั้ง 2 ปี คือ ทำให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชนในการพัฒนาวิชาชีพและการศึกษา
ดร. พันธุ์อาจ กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดงานในปี 2022 นี้ NIAได้พัฒนาก้าวล้ำไปอีกขั้นสู่โลกของจักรวาลนฤมิต(Metaverse)ที่สมบูรณ์ เต็มรูปแบบที่สุดครั้งแรกของไทย ภายใต้แนวคิด “Reconnecting the World เชื่อมเรา เชื่อมโลก กลับมาเจอกัน” เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ และตื่นตาตื่นใจในการเข้าร่วมงานได้มากกว่าที่เคย ซึ่งผู้ใช้งานสามารถสร้างตัวตน (Avatar) และทำกิจกรรมต่างๆ ในโลกเสมือนคู่ขนานไปกับโลกจริงทางกายภาพได้อย่างกลมกลืน นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างผู้จัดงานและผู้เข้าร่วมงานได้แบบเรียลไทม์ ช่วยสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับผู้เข้าร่วมงาน เช่นการพูดคุยกับวิทยากรผ่านโลกเสมือน การรับชมสินค้าและบริการในโลกเสมือน
ภายในงาน SITE 2022 ประกอบด้วยกิจกรรมหลัก 4ด้าน คือ 1) METAVERSE FORUMสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการเข้าร่วมสัมนาสดผ่านจักรวาลนฤมิตตลอด 3 วันเต็ม ภายใต้ 3 หัวข้อหลัก คือ GLOBAL INNOVATION CITY, INNOVATION THAILAND และ METAVERSEซึ่งประกอบด้วยหัวข้อที่น่าสนใจเกาะเทรนด์โลกมากกว่า 35 หัวข้อ ถ่ายทอดความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านนวัตกรรมจากวิทยากรทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 80 ท่าน 2) OPPORTUNITY เปิดโอกาสสำคัญในการจับคู่ทางธุรกิจผ่านกิจกรรม METAVERSE MARKETPLACE พบกับตลาดสินค้านวัตกรรมจากสตาร์ทอัพสายนวัตกรรมและองค์กรชั้นนำที่จะมาแนะนำสินค้านวัตกรรมผ่านจักรวาลนฤมิตกว่า100 บูธ พร้อมด้วย BUSINESS CONSULTING บริการให้คำปรึกษาออนไลน์จากผู้เชี่ยวชาญภาครัฐและเอกชนกว่า30 คน ในมากกว่า 10 สาขา และBUSINESS MATCHING การจับคู่ธุรกิจกับหน่วยงานธุรกิจกว่า 30 บริษัท3) SHOW การแสดงนวัตกรรมที่บ่งบอกถึงอัตลักษณ์ทางนวัตกรรมของประเทศไทย ที่สามารถนำไปสู่การขยายผลเชิงพาณิชย์และมีการใช้จริงภายใต้ธีม ‘Innovation for Crafted Living: นวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น’ และ 4) AWARD พิธีประกาศผลรางวัลอันทรงเกียรติ Prime Minister Award ให้แก่ผู้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีของประเทศ และเสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจให้แก่สตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีให้ก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ พร้อมด้วยรางวัลสำหรับนวัตกรรมรับมือวิกฤตเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
ภายในงานแถลงข่าวได้จัดเสวนาในหัวข้อ ‘Innovative Organization Perspectivesin Changing World’โดยมีองค์กรชั้นนำเข้าร่วมประกอบด้วยภาคธุรกิจสื่อสารจากบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน ภาคธุรกิจบริการทางการแพทย์จากบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)ดร.พัชรินทร์ บุญยะรังสรรค์ ผู้ช่วยประธานฝ่ายปฏิบัติการ ด้านคุณภาพการรักษาพยาบาลและนวัตกรรม ภาคธุรกิจพลังงานจากบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)ดร.ก่อศักดิ์ โตวรรธกวณิชย์ ผู้จัดการสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ และ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองแนวทางการพลิกจากวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสใหม่ทางธุรกิจด้วยนวัตกรรม และการนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อรองรับ ‘การเปิดเมืองนวัตกรรม’ ของประเทศไทยในอนาคต พร้อมเผยกุญแจดอกสำคัญที่แต่ละองค์กรต้องให้ความสำคัญเพื่อให้ธุรกิจสามารถก้าวต่อไปได้
“แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด–19มีแนวโน้มจะคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่เรายังไม่สามารถวางใจได้เต็มร้อย งาน STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2022 จึงเป็นเสมือนการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดเมืองหลังสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด–19 คลี่คลาย ซึ่งจะเป็นการเชื่อมประเทศไทยกับนานาประเทศทั่วโลกให้กลับมามีปฏิสัมพันธ์ต่อกันดังที่ผ่านมาพร้อมเปิดมุมมองใหม่ให้ทั่วโลกรับรู้ว่าประเทศไทยมีเมืองนวัตกรรม (Innovation City)ที่มีจุดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ และมีความพร้อมที่จะเชื่อมต่อกับเมืองนวัตกรรมจากทั่วโลกเพื่อฟื้นฟูให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกันได้ต่อไปและขอเชิญชวนให้ผู้คนในแวดวงสตาร์ทอัพสายนวัตกรรม ผู้ประกอบการฐานนวัตกรรม เอสเอ็มอี และผู้ที่สนใจงานนวัตกรรมเข้ามาพบปะกัน เพื่อร่วมเรียนรู้แลกเปลี่ยนแนวคิด เตรียมพร้อมเปิดประเทศต้อนรับผู้คนในแวดวงสายนวัตกรรมจากต่างประเทศไปด้วยกัน”ดร.พันธุ์อาจ กล่าวทิ้งท้าย
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี