สถาบันแบลคมอร์สประเทศไทยระบุการรับมือกับความเครียดได้ต้องมีสุขภาวะจิตที่ดี หากปล่อยทิ้งจะเกิดความเครียดเรื้อรังและส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แนะการรับสารอาหารที่เหมาะสมเช่น วิตามินบี และแมกนีเซียมช่วยปรับสมดุลสุขภาวะจิตได้
สรีรวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทยร่วมกับสมาคมเภสัชวิทยาแห่งประเทศไทย จัดประชุมวิชาการร่วมกันโดยมีคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ และคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรร่วมเป็นเจ้าภาพ ในหัวข้อ The Science of Successful Ageing Physiopharmacological Perspectives and Beyond ซึ่งการประชุมวิชาการครั้งนี้ ภญ.ดร.อโนมา เจริญทรัพย์ ผู้จัดการด้านการศึกษา สถาบันแบลคมอร์ส ประเทศไทย กล่าวถึง สุขภาวะจิตที่ดีหรือ Mental Wellbeing เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะไม่เพียงส่งผลต่อจิตใจเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อร่างกายด้วยการมีสุขภาวะจิตที่ดี คือการที่คนเราสามารถปรับสภาพอารมณ์และใช้สติในการรับมือกับความเครียดที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้อย่างดี
ความเครียดส่งผลให้เกิดความผิดปกติของร่างกาย เช่น ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น เกิดการรบกวนจังหวะการเต้นของหัวใจ ความไม่สมดุลของฮอร์โมนจำนวนมากผลกระทบต่อการหลั่งอินซูลินการสร้างกระดูกลดลง เป็นต้น การตอบสนองต่อความเครียด แบ่งออกเป็น 3 ระยะโดยสองระยะแรกจะเกิดขึ้นระหว่างที่เผชิญกับความเครียดแบบเฉียบพลันและความเครียดในชีวิตประจำวัน และระยะที่ 3 นำไปสู่ความเครียดเรื้อรัง หรือเรียกว่าภาวะต่อมหมวกไตล้า ซึ่งส่งผลให้สภาพจิตใจย่ำแย่ และเกิดปัญหาต่อสุขภาพในระยะยาว
การได้รับสารอาหารที่เหมาะสมจะเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยจัดการความเครียด เพราะสารอาหารที่มีประโยชน์จะไปช่วยกระตุ้นการปรับสมดุลสุขภาวะจิตในระยะสั้น พร้อมกับการเสริมสร้างและป้องกันในระยะยาวอย่างไรก็ตาม ความต้องการสารอาหารแต่ละคนไม่เท่ากัน คนที่มีความเครียดสูงร่างกายต้องการสารอาหารเพิ่มขึ้น เพื่อการฟื้นฟูสุขภาวะจิตให้กลับมาสมดุลและรับมือกับความเครียดได้ ร่างกายจึงควรได้รับสารอาหารที่จำเป็น เช่น วิตามินบีหลากหลายชนิด ในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละช่วง จะช่วยบำบัดและจัดการกับสภาวะความเครียดต่างๆ ได้ รวมถึงสารอาหารจำพวกแมกนีเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นช่วยในการทำงานของเอนไซม์ในร่างกายมากกว่า 300 ชนิดอีกทั้งช่วยในเรื่องการทำงานของกล้ามเนื้อระบบประสาท ควบคุมความดันโลหิตและช่วยระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้แมกนีเซียมยังปรับการทำงานของแกนHPA ซึ่งเป็นกลุ่มของความสัมพันธ์และการตอบสนองต่อกันและกันระหว่างสมองส่วนไฮโปทาลามัส ต่อมพิทูอิทารีและต่อมหมวกไตที่ควบคุมการตอบสนองของร่างกายต่อความเครียดโดยทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด
สำหรับ สถาบันแบลคมอร์สประเทศไทย เป็นสถาบันที่จัดการสอนเกี่ยวกับเรื่อง Complementary Medicines Education (CMEd) หรือโภชนเภสัชภัณฑ์ โดยให้ความรู้เกี่ยวกับการแพทย์ผสมผสานที่นำไปใช้เสริมหรือใช้ร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบัน ในเรื่องวิตามิน เกลือแร่สมุนไพร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเปิดการสอนมากว่า 5 ปี เพื่อให้เภสัชกรสามารถนำความรู้เหล่านั้นมาวิเคราะห์ผู้ป่วยและให้คำปรึกษาในการรักษาเสริมควบคู่กับการใช้ยาหลักสูตรแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ขั้นพื้นฐานกลางและสูงเป็นการเรียนผ่านทางออนไลน์หลังจากนั้นจะเป็นการเข้าอบรมในชั้นเรียน Masterclass ซึ่งเภสัชกรที่ผ่านในระดับ Masterclass สามารถสะสมหน่วยกิตการศึกษาต่อเนื่องทางเภสัชศาสตร์หรือ CPE ได้ ปัจจุบัน CMEd เปิดตัวในหลายประเทศครอบคลุมเกือบทั้งเอเชีย เช่นออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ มาเลเซียเป็นต้น โดยผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเรียนได้ที่ www.blackmoresinstitute.org สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ education.th@blackmores.co.th หรือ ติดต่อแผนก Education สถาบันแบลคมอร์ โทร.02-2037900
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี