เอสซีจี (SCG) ร่วมส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างและเพศและเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงให้มีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจเติบโตยั่งยืน จัดงานเสวนาและระดมความคิด Women Empowerment : “พลังหญิง” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจยั่งยืน เพื่อค้นหาแนวทางพัฒนาศักยภาพของผู้หญิงให้มีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยได้เชิญ 4 หญิงเก่งแถวหน้าของเมืองไทยมาร่วมเสวนา นำโดย Dr.Rebecca Fatima Sta Maria, APEC Secretariat Executive Director กล่าวเปิดงาน เจ๊เกียว-สุจินดา เชิดชัย เจ้าของธุรกิจขนส่งเครือเชิดชัย, อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจฯ ศุภจี สุธรรมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และ ฟ้าเสรี ประพันธา ประธาน บริษัท ไร่นาฟ้าเอ็นดู จำกัด โดยได้รับเกียรติ ยุทธนา เจียมตระการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารกลาง SCG ต้อนรับ โดยงานจัดขึ้นที่ Hall 4 อาคารอเนกประสงค์ เอสซีจี สำนักงานใหญ่ บางซื่อ

ยุทธนา เจียมตระการ ผู้บริหาร SCG กล่าวต้อนรับ

Dr.Rebecca Fatima Sta Maria

Dr.Rebecca Fatima Sta Maria, APEC Secretariat Executive Director ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านคลิปวีดีโอ กล่าวว่า
การที่ผู้หญิงจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในองค์กรต่างๆ นั้นจะไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นอีกต่อไป แต่มันจะเป็นเรื่องปกติ เพราะด้วยความรู้ความสามารถของผู้หญิงจะทำให้ผู้หญิงก้าวไปสู่ตำแหน่งผู้บริหารผู้นำได้มากขึ้น และเอเปกเองก็มีนโยบายระดับภูมิภาคในการสนับสนุนให้ผู้หญิงมีบทบาททางสังคมและเศรษฐกิจมากขึ้น จะเห็นได้จากจำนวนผู้หญิงที่มาเข้าร่วมประชุม APEC ที่มีมากขึ้น และมาจากหลายภาคส่วน ทำให้ในการประชุมต่างๆ มีความเห็นที่หลากหลายและครอบคลุมเกี่ยวกับผู้หญิงมากขึ้น

เจ๊เกียว-สุจินดา เชิดชัย ประธานบริหารกลุ่มบริษัทเชิดชัยทัวร์ ลูกสาวที่เกิดมาในครอบครัวคนจีนที่มีความเชื่อว่าลูกผู้หญิง
ไม่จำเป็นต้องมีการศึกษาสูง โดย เจ๊เกียวบอกถึงผู้หญิงทุกคนว่า“ให้ดูเจ๊เกียวเป็นตัวอย่างเราไม่ได้เรียนสูง แต่เรากล้าที่จะลงมือทำ เวลาเจออุปสรรคเจ๊เกียวไม่เคยท้อไม่เคยเสียใจ ให้คิดว่าตอนเราเกิดมาก็มาตัวเปล่า ถ้าจะต้องเสียอะไรไปจะมานั่งเสียใจทำไม เสียเวลาที่จะหาทางแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาธุรกิจตัวเอง เราเป็นนักสู้ คำว่าท้อสำหรับเจ๊เกียวไม่มี ที่สำคัญผู้หญิงเราต้องมีความมั่นใจ เราต้องดูแลตัวเองให้ได้ อย่าเอาตัวเองไปฝากไว้กับใครเวลาเจออุปสรรค อย่าตกใจ แต่ให้ยิ้มสร้างกำลังใจให้ตัวเองและสู้ในการทำธุรกิจหรือทำอะไรก็แล้วแต่เราต้องมีคุณธรรม มีน้ำใจ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ผู้หญิงเรามีความสามารถทุกคน แต่เราต้องกล้าที่จะลุกขึ้น ยิ่งผู้หญิงสมัยนี้มีโอกาสมากกว่ารุ่นเก่า เจ๊เกียวเชื่อว่าทุกคนทำได้”

อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจฯ ร่วมให้ความคิดเห็นว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่เปิดโอกาสให้กับผู้หญิงมากกว่าหลายๆ ประเทศในโลก แต่ผู้หญิงไทยส่วนใหญ่ก็ยังมีทัศนคติที่ปิดกั้นตัวเองอยู่ไม่มั่นใจในตัวเอง ทั้งๆ ที่ผู้หญิงหลายคนมีศักยภาพมากกว่าผู้ชายด้วยซ้ำไป

“เราต้องหาศักยภาพของตัวเองให้เจอ กล้าที่จะนำเสนอ และลงมือทำ เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเราทำได้ ประสบความสำเร็จได้ อย่ากลัวที่จะต้องเจอกับปัญหาและอุปสรรค เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีการเรียนรู้และมีประสบการณ์ มีความกล้าแกร่งมากขึ้น ในสายงานราชการด้วยระเบียบต่างๆ ไม่ได้ปิดกั้นที่จะให้ผู้หญิงเลย แต่อยู่ที่ผู้หญิงมากกว่าที่ไม่กล้าจะแสดงออก ถ้าเรากล้าที่จะแสดงออกถึงศักยภาพของตัวเองก่อน โอกาสทางสังคมก็จะตามมาเอง“

4 ผู้หญิงเก่ง (ซ้าย) ศุภจี สุธรรมพันธ์, สุจินดา เชิดชัย, อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย และ ฟ้าเสรี ประพันธา

ศุภจี สุธรรมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) อดีต CEO ของบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง IBM ประเทศไทย และไทยคม ให้หลักในการทำงานที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำหญิงได้สำเร็จ เผยว่า “ดิฉันใช้หลัก 3 ข้อ ข้อแรก Purpose การทำงานต้องทำเป็นทีมเราต้องหาจุดร่วมเดียวกัน สร้างวิสัยทัศน์ในการทำงานร่วมกันเพื่อให้ทุกคนเดินไปในทางเดียวกัน สิ่งหนึ่งที่ดิฉันจะบอกกับน้องๆ เสมอว่า เราไม่ต้องรู้ 100% ในสิ่งที่ทำ แต่ต้องทำ 100% ในสิ่งที่รู้ สอง Knowledge ในที่นี้คือ รู้ตนเองว่าเรามีจุดอ่อนจุดแข็งตรงไหน และจะนำมันมาใช้อย่างไร รู้จักตลาดว่าเรากำลังทำอะไร ตลาดต้องการอะไร ใครคือเป้าหมายของเรา มีใครอยู่ในตลาด รวมถึงต้องรู้ช่วงจังหวะเวลาสุดท้ายคือมี Passion มีความมุ่งมั่น เชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ เพราะไม่ว่าจะการทำงานหรือการใช้ชีวิตเปรียบได้กับการวิ่งมาราธอน ถ้าเราไม่มุ่งมั่นจริงจังกับมั่นเราก็มักจะหยุดวิ่งกลางทาง ดังนั้นถ้าเรามี 3 สิ่งนี้ดิฉันเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนประสบความสำเร็จได้”

ปิดท้ายที่ ฟ้าเสรี ประพันธา ประธานบริษัท ไร่นาฟ้าเอ็นดู จำกัด ที่พลิกฟื้นท้องไร่ท้องนา สร้างความยั่งยืนให้กับตนเองและคนในชุมชนได้ กล่าวว่า “ผู้หญิงไม่ได้มีหัวใจที่จะยอมแพ้ เวลาที่เราเจออุปสรรคเราต้องเรียนรู้มันเพื่อเป็นบทเรียนในครั้งต่อไป อย่างตนเองเคยเจอปัญหาน้ำท่วมนา ทำนาไม่ได้ผลผลิต มีหนี้สินเป็นล้าน แต่ก็ไม่ยอมแพ้สิ่งสำคัญคือ ต้องรู้จักที่จะเรียนรู้หาองค์ความรู้มาแก้ปัญหา การเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญอย่ามีข้ออ้าง อย่ากลัวว่าจะทำไม่ได้ไม่ว่าจะเรียนรู้จากคนที่มีความสามารถ เรียนรู้จากความล้มเหลว แล้วนำมาปรับใช้เราก็จะก้าวข้ามทุกอย่างไปสู่ความสำเร็จได้”

ทั้งนี้ เอสซีจีจะได้นำข้อสรุปจากงานเสวนาและระดมความคิดWomen Empowerment : “พลังหญิง” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจยั่งยืน นำไปเสนอในการประชุม ESG Symposium 2022 ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2565 ซึ่ง SCG ร่วมกับ APEC จัดขึ้น เนื่องในโอกาสที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม APEC 2022 เพราะเอสซีจีเชื่อมั่นในคุณค่าของคนทุกคน ให้ความสำคัญกับความแตกต่างหลากหลาย และเชื่อว่าผู้หญิงมีศักยภาพ สามารถเป็นผู้นำสร้างเศรษฐกิจและสังคมที่ดีขึ้นได้ หากได้รับการปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้อง ส่งเสริมความรู้ที่เป็นประโยชน์และสนับสนุนอย่างเหมาะสม