บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ตระหนักและใส่ใจถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอดและดำเนินธุรกิจภายใต้ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างจริงจัง ภายใต้ โครงการ “Green Cinema” ที่ให้ความสำคัญกับปัญ หาขยะ การคัดแยก และหาแนวทางแปรรูป ตลอดจนเพิ่มมูลค่าขยะให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ลดการเกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมในอนาคต ผ่านกิจกรรมต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกองค์กร โดยให้พนักงานและลูกค้าได้มีส่วนร่วม เพื่อสร้างแนวคิดความตระหนักรู้ต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมร่วมกัน
วิศรุต พูลวรลักษณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในทุกวันนี้กำลังเข้าสู่ยุคที่ความสำเร็จไม่ได้วัดจากความสามารถทางการแข่งขันหรือความสามารถในการทำกำไรเพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว แต่ความสำเร็จตัดสินจากความสามารถในการสร้างสรรค์ความยั่งยืนให้กับองค์กรและกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียภายนอก ความท้าทายที่สำคัญคือการหา Business Model ที่เหมาะสมมุ่งเน้นความยั่งยืนให้กับองค์กร ซึ่งเป็น 1 ในแกนหลักของวิชั่นของบริษัทที่มุ่งเน้นในด้านความยั่งยืน
ปัญหาจากขยะพลาสติกและการบริหารจัดการขยะที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ กลายมาเป็นปัญหาหลักทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค ซึ่งได้บรรจุอยู่ในวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ เมเจอร์ฯ ตระหนักถึงความสำคัญในการแก้ไขปัญหา โดยเริ่มจากการรณรงค์การคัดแยกขยะ ด้วยการวางถังขยะแยกประเภทที่โรงภาพยนตร์เพื่อให้ลูกค้าสะดวกในการทิ้ง เชิญชวนให้พนักงานและลูกค้าช่วยกันคัดแยกขวดน้ำพลาสติกประเภทขวด PET ก่อนทิ้งลงในถังขยะ พร้อมเป็นตัวแทนรวบรวมและส่งมอบให้กับหน่วยงานต่างๆ นำไป Recycle หรือ Upcycling เพื่อสร้างขยะให้เกิดมูลค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดเช่น การนำขวดพลาสติกไปผลิตเป็นชุด PPE มอบให้บุคลากรทางการแพทย์และยังนำขวดน้ำพลาสติกประเภทขวด PET ผลิตเป็นเสื้อโปโลสำหรับให้พนักงานในองค์กรสวมใส่
วิศรุต กล่าวต่อว่า การจัดการปัญหาขยะและสิ่งแวดล้อม เป็นหน้าที่ของทุกคน ทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร ที่ต้องให้ความร่วมมือช่วยกันทำจึงจะเกิดผลและเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น ล่าสุด บริษัทฯ ได้เข้าร่วมเป็น 1 ใน 12 ภาคีเครือข่าย โครงการ “สร้างโลกสีเขียว” ร่วมสนับสนุนและส่งเสริมการบริหารจัดการขยะตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy มีการรณรงค์และร่วมผลักดันการนำทรัพยากรกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ รีไซเคิล,อัพไซเคิล ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าและอายุการใช้งานของทรัพยากรเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ นับเป็นการลดการใช้ทรัพยากรใหม่ ลดปัญหาขยะที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิต และช่วยสร้างคาร์บอนเครดิตให้เกิดขึ้นกับสังคมไทยให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน โดย เมเจอร์ฯใช้แนวคิดการดำเนินการจัดการปัญหาขยะตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy นำทรัพยากรกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ ซึ่งจะนำแก้วน้ำพลาสติกประเภทโพลีโพรพิลีนที่ลูกค้าทิ้ง นำเข้าสู่กระบวนการแปรรูป Upcycling เป็นไม้เทียม นำร่องโครงการต้นแบบด้วยการนำกลับมาเป็นวัสดุในการจัดทำเป็น KIOSK POPCORN
อย่างไรก็ตามในช่วง 2 ปีที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เมเจอร์ฯ ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ “แยกขวดช่วยหมอ” ส่งมอบขวดพลาสติกประเภทขวด PET ไปแล้วกว่า 27,355 ขวด หรือ คิดเป็น 415 กิโลกรัม นำไปผลิตเป็นชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE)ซึ่งชุด PPE 1 ชุด ใช้ขวดพลาสติก ขนาด 600 มิลลิลิตร จำนวน 18 ขวด สามารถส่งมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ดังนี้ ปี 2563 ส่งมอบขวดพลาสติกประเภทขวด PET จำนวน 11,176 ขวดคิดเป็น 190 กิโลกรัม ให้กับเครือข่ายสังคมลดขยะ Less Plastic Thailand นำไปผลิตชุด PPE ส่งต่อให้กับโครงการ “แยกขวดช่วยหมอฟันกับทันตแพทยสภา”, ปี 2564 ส่งมอบขวดพลาสติกประเภทขวด PET จำนวน 16,179 ขวด คิดเป็น 225 กิโลกรัมส่งมอบให้กับ โครงการ “YOU เทิร์น Platform by GC” นำไปผลิตชุด PPE ส่งมอบต่อให้กับบุคลากรทางการแพทย์ นอกจากนี้ เพื่อเป็นการปลุกจิตสำนึกให้กับพนักงานในองค์กร การนำขวดน้ำพลาสติกประเภทขวด PET มาผลิตเป็นเสื้อโปโลสำหรับให้พนักงานในองค์กรสวมใส่ 2,500 ตัว ซึ่งเสื้อโปโล 1 ตัว ใช้ขวดน้ำพลาสติกประเภทขวด PET ในการผลิตเส้นใยจำนวน 12 ขวด
โครงการ Green Cinema เป็นหนึ่งในโครงการของการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืนของเมเจอร์ฯ ที่ให้ความสำคัญต่อผลกระทบในด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทฯ ได้ดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง
การสร้างความยั่งยืน นอกเหนือจากโครงการ Green Cinema บริษัทฯ ได้วาง Roadmap ต่อยอดไปถึงกระบวนการในการทำธุรกิจ ทั้งในด้านบรรษัทภิบาล ความโปร่งใส การจัดการและการบริหารความเสี่ยงของธุรกิจ และการสร้างโอกาสในการทำธุรกิจ ที่จะทำให้เกิดผลตอบแทนที่ดีอย่างยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งหลักสำคัญอีกด้านของการดำเนินธุรกิจ คือ การคำนึงถึง สิทธิมนุษยชน การส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ดี ความปลอดภัยในการทำงานต่างๆ โดยมีการกำหนดขอบเขตผลกระทบชัดเจนเกี่ยวกับด้านต่างๆ เพื่อสนับสนุนความยั่งยืนให้เกิดขึ้น
โดยในปี 2564 บริษัทฯ ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในรายชื่อ “หุ้นยั่งยืน” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนถึงการดำเนินธุรกิจในฐานะบริษัทจดทะเบียน ที่มุ่งมั่นการดำเนินธุรกิจตามกรอบแนวคิดการพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ตลอดจน มีจริยธรรม รับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย ควบคู่กับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นวิถีการทำงานร่วมกันในองค์กร และเป็นรากฐานการพัฒนาให้องค์กรและสังคมในระยะยาว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี