วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ผู้หญิง
คุยกัน7วันหน : ศาลสูงสหรัฐฯ ‘เปลี่ยนแปลง’ อเมริกาอย่างไรบ้าง

คุยกัน7วันหน : ศาลสูงสหรัฐฯ ‘เปลี่ยนแปลง’ อเมริกาอย่างไรบ้าง

วันอาทิตย์ ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.
Tag : คุยกัน7วันหน
  •  

ในช่วงเวลาเพียง 10 วัน ที่ผ่านมา เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในสังคมอเมริกามากมาย จากการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งอย่าง ตั้งแต่นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงสิทธิการทำแท้ง อย่างไรก็ดี การตัดสินใจดังกล่าวไม่ได้มาจากประธานาธิบดีหรือสภาคองเกรสแต่มาจากคณะผู้พิพากษาศาลสูง ที่ตอนนี้ใช้อำนาจสิทธิขาดตัดสินใจในเรื่องสำคัญ ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนอย่างแท้จริง

แม้ปัจจุบัน พรรคเดโมแครต จะมีอำนาจคุมทั้งทำเนียบขาว รวมถึงทั้งสภาล่างและสภาสูง แต่ก็มีเสียงไม่มากพอที่จะลงมติผลักดันร่างกฎหมายสำคัญๆ ได้อย่างที่อยากทำ แต่กลับกลายเป็นคำวินิจฉัยหลายชุดของคณะผู้พิพากษาศาลสูง ที่กำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในตอนนี้ศาลสูงกำลังเปลี่ยนแปลงอเมริกาแต่เป็นไปในทางที่แตกต่างไปจากที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ คาดการณ์ไว้


คำวินิจฉัยของศาลสูงสหรัฐฯ ที่คว่ำสิทธิในการทำแท้งของสตรีอเมริกันมานานเกือบครึ่งศตวรรษ หรือที่เรียกว่าคดี Roe v Wade อาจสร้างความโกรธแค้นให้กับกลุ่มผู้สนับสนุนการทำแท้ง แต่ก็สร้างความยินดีให้กลุ่มต่อต้านการทำแท้งที่เคลื่อนไหวกันมานานกว่า 50 ปีกว่าจะมีวันนี้ แต่แทนที่จะทำให้เรื่องทุกอย่างยุติ คำวินิจฉัยของศาลสูงกลับนำมาซึ่งการฟ้องร้องในหลายรัฐทั่วประเทศสะท้อนว่าจะเกิดการต่อสู้ทางกฎหมายในประเด็นนี้ต่อไปอีกหลายปี

คำวินิจฉัยเรื่องการทำแท้งของศาลสูงสหรัฐฯ อาจเป็นที่สนใจมากที่สุด แต่ก็ยังมีการตัดสินใจและคำวินิจฉัยอื่นๆ อีกเช่นกัน ที่ส่งผลกระทบกับโลกโดยตรง

คำตัดสินสุดท้ายของคณะผู้พิพากษาศาลสูงก่อนที่จะหมดวาระในรอบนี้ ส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐฯไม่สามารถผ่านกฎหมายใดๆ ที่เป็นเรื่องนโยบายสีเขียวเพื่อสิ่งแวดล้อมได้อีก จากการตัดสินว่า สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม (EnvironmentalProtection Agency-EPA) ไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการกำหนดมาตรการลดก๊าซเรือนกระจก หากสภาคองเกรสไม่กำหนดเป็นข้อกฎหมายให้ปฏิบัติตามโดยชี้ว่าแต่ละรัฐมีอำนาจตัดสินใจด้วยตัวเอง

เรื่องนี้ทำให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งให้คำมั่นก่อนรับตำแหน่งว่าจะผลักดันนโยบายเพื่อสิ่งแวดล้อมและแก้ไขปัญหาโลกร้อนหนักใจอย่างยิ่ง เพราะเขารู้ดีว่ารัฐบาลไม่มีเสียงมากพอที่จะผ่านร่างกฎหมายเพื่อบังคับให้บริษัทพลังงานต่างๆโดยเฉพาะบริษัททำเหมืองถ่านหินเปลี่ยนจากการใช้ถ่านหินที่สุดแสนจะสกปรก มาใช้แหล่งพลังงานสะอาดอื่นๆ เพื่อผลิตไฟฟ้า

ไม่ใช่แค่ประเด็นนี้เท่านั้น ที่ศาลสูงออกมางัดข้อกับผู้นำประเทศ

สัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีไบเดนเพิ่งลงนามในกฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่มีความสำคัญฉบับแรกที่สภาคองเกรสลงมติรับร่างในรอบกว่า 30 ปี ซึ่งเกิดขึ้นหลังเหตุกราดยิงครั้งใหญ่ 2 เหตุการณ์ในเดือนเดียว รวมถึงเหตุกราดยิงโรงเรียนประถมศึกษาในรัฐเท็กซัส จนทำให้นักการเมืองจากทั้งเดโมแครตและรีพับลิกัน ยอมผ่านร่างกฎหมายชุดใหม่เพื่อควบคุมอาวุธปืนให้เข้มงวดยิ่งขึ้น แม้เนื้อหาในร่างกฎหมายนี้ จะไม่ได้ถึงกับเพิ่มความเข้มงวดเรื่องอาวุธปืนแบบที่หลายคนอยากให้เป็น แต่นี่ก็ถือเป็นการผ่านกฎหมายอาวุธปืนครั้งประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ทั้งนักการเมืองสองพรรคยอมทิ้งความเห็นต่างลงมติร่วมกันผลักดัน

อย่างไรก็ดี ชัยชนะเรื่องนี้ก็ต้องถูกกลบด้วยคำตัดสินของศาลสูง ที่คว่ำร่างกฎหมายเรื่องอาวุธปืนของรัฐนิวยอร์ก ที่เพิ่งสั่งห้ามการพกพาอาวุธปืนไปในสถานที่สาธารณะหากไม่มีใบอนุญาต นั่นแปลว่า ในวันเดียวกับที่กฎหมายควบคุมอาวุธให้เข้มงวดขึ้นผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสศาลสูงสหรัฐฯ กลับมีคำตัดสินที่ลดทอนอำนาจจากหลายรัฐ ที่หวังควบคุมการครอบครองอาวุธปืนของประชาชน

คำวินิจฉัยเหล่านี้ ทำให้ศาลสูง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลที่ควรมีความยุติธรรมที่สุด และคำนึงถึงพวกพ้องน้อยที่สุด กำลังถูกมองจากภายนอกว่าทำอะไรให้เป็น “การเมือง”ไปเสียทุกเรื่อง

ผลสำรวจเมื่อไม่นานมานี้พบว่าสาธารณชนเริ่มหงุดหงิดกับคำวินิจฉัยของศาลมากขึ้นเรื่อยๆ กว่า 2 ใน 3ของชาวอเมริกัน ไม่อยากให้ยกเลิกสิทธิในการทำแท้งของผู้หญิงไปทั้งหมดและกว่าร้อยละ 60 อยากเห็นกฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวดกว่านี้

ขณะที่ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อศาลสูงก็เริ่มลดน้อยถอยลง ผลสำรวจเมื่อไม่นานมานี้ชี้ว่า ชาวอเมริกันเพียง1 ใน 4 เท่านั้นในตอนนี้ ที่ยังหลงเหลือความเชื่อมั่นต่อคำวินิจฉัยต่างๆ ของศาลสูง

สิ่งนี้ สะท้อนความเห็นของซอนยา โซโตมายอร์ เคยออกปากเตือนไว้ตอนที่ศาลสูงเริ่มไต่สวนกรณีคำตัดสินทำแท้งว่า “ศาลสูงจะรอดพ้นจากเสียงซุบซิบนินทาของผู้คนในตอนนี้ที่กำลังเชื่อว่าทั้งศาลสูงและคำวินิจฉัยต่างๆ ที่ออกมา เป็นเรื่องการเมืองมากกว่าคำตัดสินที่เป็นธรรมได้หรือเปล่า”

โซโตมายอร์เป็นหนึ่งในฝ่ายเสรีนิยมในคณะตุลาการศาลสูง 3 คน ที่ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยคว่ำสิทธิในการทำแท้งของผู้หญิง และเตือนว่ามันจะส่งผลกระทบต่อสิทธิด้านอื่นๆเช่น สิทธิในการสมรสของคนเพศเดียวกันและสิทธิในการเข้าถึงการคุมกำเนิด

ฝ่ายเสรีนิยมในคณะตุลาการศาลสูง 3 คน ยังคงมีเสียงน้อยกว่าคณะตุลาการฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่มีจำนวน 6 คน ซึ่งในจำนวนนี้ 3 คนได้รับการแต่งตั้งเข้ามาในสมัยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งในการทำหน้าที่วาระหน้า จะต้องมีการวินิจฉัยในอีกหลายประเด็นสำคัญ รวมถึงสิทธิในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งและการแบ่งแยกกลุ่มคนรักร่วมเพศ

คำวินิจฉัยต่างๆ ของศาลสูงตลอด 10 วันที่ผ่านมา รวมถึงการตัดสินใจที่จะเกิดขึ้นกับประเด็นสำคัญอื่นๆ หลังจากนี้ ก็ไม่สามารถสมานรอยร้าวที่ยังฝังรากลึกในสังคมอเมริกันได้ อย่าลืมว่าขณะที่ชาวอเมริกันรับรู้คำตัดสินของศาลสูงเรื่องสิทธิการทำแท้ง สิทธิการครอบครองอาวุธปืนและการปกป้องสิ่งแวดล้อม พวกเขาก็ได้รับรู้รายละเอียดการไต่สวนเหตุการณ์วันที่ 6 มกราคมปีก่อน ที่ประธานาธิบดีที่กำลังดำรงตำแหน่งของพวกเขา ยุยงกลุ่มผู้สนับสนุนที่เดือดดาลและพกอาวุธ ให้เข้าไปบุกอาคารรัฐสภาด้วย

สัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวอเมริกันได้ท่องเที่ยวและเฉลิมฉลองวันหยุด เนื่องในวันชาติสหรัฐฯ 4 กรกฎาคม วันที่รัฐทั้ง 13 รัฐของประเทศประกาศอิสรภาพจากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษเมื่อ 250 ปีก่อน

แต่ในขณะเดียวกัน หลายคนอาจกำลังสงสัยใคร่ครวญว่า ประเทศของพวกเขากำลังเดินไปบนหนทางที่ถูกต้อง อย่างที่บรรดาผู้ก่อตั้งประเทศตั้งใจไว้หรือเปล่า

โดย ดาโน โทนาลี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • คุยกัน7วันหน : ทรัมป์ยิ้มรับเครื่องบินจากกาตาร์ ระบุ \'คนโง่เท่านั้น\' ที่ปฏิเสธของขวัญชิ้นนี้ คุยกัน7วันหน : ทรัมป์ยิ้มรับเครื่องบินจากกาตาร์ ระบุ 'คนโง่เท่านั้น' ที่ปฏิเสธของขวัญชิ้นนี้
  • คุยกัน7วันหน : เมื่อชาวจีนเปิดใจพูดคุยเกี่ยวกับ ‘ความตาย’ มากขึ้น คุยกัน7วันหน : เมื่อชาวจีนเปิดใจพูดคุยเกี่ยวกับ ‘ความตาย’ มากขึ้น
  • คุยกัน7วันหน : ​วิเคราะห์-เจาะลึก ใครจะได้เป็น ‘สมเด็จพระสันตะปาปา’ พระองค์ใหม่ คุยกัน7วันหน : ​วิเคราะห์-เจาะลึก ใครจะได้เป็น ‘สมเด็จพระสันตะปาปา’ พระองค์ใหม่
  • คุยกัน7วันหน : จีนผนึกกำลัง ‘อาเซียน’ รับมือกำแพงภาษีทรัมป์ คุยกัน7วันหน : จีนผนึกกำลัง ‘อาเซียน’ รับมือกำแพงภาษีทรัมป์
  • คุยกัน7วันหน : จับตาศึกยก 2 สังเวียนการค้าโลก คุยกัน7วันหน : จับตาศึกยก 2 สังเวียนการค้าโลก
  • คุยกัน7วันหน : มิน อ่อง หล่าย เยือนไทย  ประชุม BIMSTEC ‘ได้หรือเสีย’ คุยกัน7วันหน : มิน อ่อง หล่าย เยือนไทย ประชุม BIMSTEC ‘ได้หรือเสีย’
  •  

Breaking News

‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้

รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.

'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved