แผนการส่งความช่วยเหลือแก่ยูเครน มูลค่ากว่า 9,000 ล้านยูโรของสหภาพยุโรป หรืออียู ยังคงชะงักงัน เหตุยังตกลงเรื่องรายละเอียดความช่วยเหลือไม่ได้ ขณะที่อียูเองก็กำลังกระอัก หลายประเทศหวั่นก๊าซสำรองไม่เพียงพอในช่วงฤดูหนาวหากไม่มีก๊าซของรัสเซีย
เป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว นับตั้งแต่การประชุมผู้นำสหภาพยุโรป หรืออียู ที่บรรดาผู้นำได้ตกลงที่จะให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่ยูเครนมูลค่า 9,000 ล้านยูโร ในรูปแบบของเงินกู้ฉุกเฉิน หลังยูเครนต้องเผชิญกับการรุกรานของรัสเซีย แต่ปรากฏว่าจนถึงขณะนี้มาตรการช่วยเหลือยังกล่าวยังไม่คืบหน้า ยังไม่มีเงินถึงมือยูเครนแม้แต่ยูโรเดียว อันเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่อียูยังไม่สามารถตกลงเรื่องรายละเอียดความช่วยเหลือได้ ตอนนี้เพิ่งตกลงเรื่องรายละเอียดต่างๆ ได้เพียง 1 ใน 9 ของมาตรการความช่วยเหลือทั้งหมด ทำให้รัฐบาลยูเครนหวั่นวิตกมากขึ้น เพราะประเทศกำลังต้องการเงินอย่างเร่งด่วน อย่างน้อยๆ เดือนละ 5,000 ล้านยูโร เพื่อนำมาใช้บูรณะประเทศและกอบกู้เศรษฐกิจที่กำลังย่อยยับจากการถูกรัสเซียโจมตี แม้ตอนนี้จะยังพอมีเงินทุนสำรองจากธนาคารกลาง หรือแบงก์ชาติของยูเครนเอง แต่เม็ดเงินก็ร่อยหรอลงเรื่อยๆ จนรัฐมนตรีคลังยูเครนต้องออกมาเตือนว่า หุ้นส่วนของยูเครนในยุโรปควรหาทางออกเรื่องการให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่ยูเครนโดยเร็ว เพราะยูเครนจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือทางการเงินขนานใหญ่ก่อนถึงสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ดี ถึงตอนนี้ รัฐมนตรีคลังของบรรดาชาติสมาชิกอียู เพิ่งอนุมัติแผนการเบิกจ่ายเงินเพียง 1,000 ล้านยูโร จากทั้งหมดที่ให้คำมั่นไว้ 9,000 ล้านยูโร เพื่อสนับสนุนด้านการเงินให้แก่ยูเครน โดยเงินส่วนที่เหลือของวงเงิน 9,000 ล้านยูโร ยังไม่ได้รับการเบิกจ่ายเงินเพราะบางประเทศสมาชิกกำลังถกกันว่า ยูเครนสามารถลงนามกู้เงินระยะยาวได้หรือไม่ และยังตกลงกันไม่ได้ว่าจะใช้วิธีระดมเงินช่วยเหลือในกลุ่มชาติสมาชิกอียูอย่างไร อีกทั้งยังเกิดความกังวลในบางชาติสมาชิกว่าอาจมีการทุจริตคอร์รัปชั่นเกิดขึ้น การพิจารณาความช่วยเหลือจึงยังล่าช้า แม้หากนับรวมวงเงินมูลค่า 1,200 ล้านยูโร ที่ได้รับการเบิกจ่ายเงินเมื่อต้นปีนี้ ยูเครนจะได้รับเงินช่วยเหลือจากอียู ไปแล้วรวม 2,200 ล้านยูโรก็ตาม
สิ่งหนึ่งที่สร้างความกังวลให้กับอียู ก็คือ การระดมเงินช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจแก่ยูเครน เกิดขึ้นในช่วงที่อียูเองก็กำลังเผชิญความยากลำบากทางเศรษฐกิจจากปัญหาเงินเฟ้อ น้ำมันและสินค้าจำเป็นราคาแพงและขาดแคลน เพราะได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนกันถ้วนหน้า ทำให้ เปาโล เจนติโลนี กรรมาธิการด้านเศรษฐกิจ หรือรัฐมนตรีคลังของอียู ยอมรับว่า รัฐบาลประเทศต่างๆ มีภาระหน้าที่ที่ต้องช่วยเหลือดูแลประชาชนพลเมืองในประเทศตนเองก่อน โดยเฉพาะกลุ่มคนรายได้ต่ำที่ได้รับผลกระทบจากราคาอาหารและน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในปัจจุบัน
ที่น่ากังวลไปกว่านั้น คือช่วงฤดูหนาวอันโหดร้ายของยุโรปที่กำลังคืบหน้าใกล้เข้ามา ท่ามกลางความวิตกกังวลของหลายชาติ ในประเด็นปริมาณก๊าซสำรองในประเทศที่อาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ผ่านพ้นฤดูหนาวอันหฤโหดไปได้โดยที่ไม่ต้องซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย ที่ตอนนี้ ประกาศลดปริมาณส่งก๊าซลงเหลือเพียงร้อยละ 20 จากปริมาณความจุทั้งหมด โดยตัวแทนรัสเซีย ได้ระบุถึงสาเหตุว่า เป็นปัญหาด้านเทคนิคที่เกิดจากมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรป จึงทำให้กังหัน ที่เป็นชิ้นส่วนสำคัญในท่อส่งก๊าซที่ถูกส่งไปซ่อม ไม่สามารถส่งคืนมายังรัสเซียได้ตามกำหนด จนตอนนี้หลายประเทศในยุโรปเริ่มออกมาตรการประหยัดไฟกันยกใหญ่ ทั้งในเยอรมนีและฝรั่งเศส
นับตั้งแต่รัสเซียเปิดปฏิบัติการรุกรานยูเครนในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ราคาก๊าซธรรมชาติในยุโรปพุ่งสูงขึ้น แตะระดับเหนือกว่า 3,600 ดอลลาร์ต่อ 1,000 ลูกบาศก์เมตร สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในช่วงต้นเดือนมีนาคม แม้ยูเครนและประเทศยุโรปตะวันออกบางชาติ ในนั้นรวมถึงโปแลนด์ เรียกร้อง EU แบนนำเข้าก๊าซธรรมชาติรัสเซีย แต่จนถึงตอนนี้ อียู ยังไม่อาจนำมาตรการนี้มาใช้ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เนื่องจากบรรดาชาติสมาชิกมีความเห็นแตกแยกกันในประเด็นนี้ ท่ามกลางคำเตือนซ้ำๆของหลายชาติสมาชิกว่า การหยุดจ่ายอุปทานก๊าซของรัสเซียจะก่อความเสียหายใหญ่หลวงแก่เศรษฐกิจของพวกเขา
ล่าสุด ผลกระทบเงินเฟ้อรุนแรง ยังทำให้แมคโดนัลด์ สหราชอาณาจักร ประกาศปรับราคาชีสเบอร์เกอร์ขึ้นร้อยละ 20 เป็น 1.19 ปอนด์ หลังคงราคา 99 เพนซ์หรือ 43 บาทมานาน 14 ปี ทำให้ฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกันกลายเป็นบริษัทล่าสุดที่ตัดสินใจผลักภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังผู้บริโภคท่ามกลางวิกฤตค่าครองชีพของประเทศที่พุ่งสูงขึ้นในรอบหลายสิบปีโดยเมื่อเดือนที่แล้ว เงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรแตะระดับร้อยละ 9.4 สูงสุดในรอบ 40 ปี และคาดว่าจะขยับขึ้นเป็นเลข 2 หลักเร็วๆ นี้ ท่ามกลางราคาพลังงานที่พุ่งสูง จากผลกระทบของวิกฤตยูเครน-รัสเซีย
แน่นอนว่า หากเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ดี แล้วจะเจียดเงินไปช่วยเหลือยูเครนทำไม สู้นำเงินที่มีอยู่อย่างจำกัดช่วยประชาชนของตัวเองก่อนไม่ดีกว่าหรือ
ยูเครนจึงต้องรอคอยความช่วยเหลือทางการเงินต่อไป ด้วยประการฉะนี
โดย ดาโน โทนาลี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี