FAO ทูลเกล้าฯถวายตำแหน่ง“ทูตพิเศษด้านการขจัดความอดอยากหิวโหย (FAO Special Ambassador for Zero Hunger) ประจำปี 2565-2567” แด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และยกย่องการทรงงานช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความหิวโหยของผู้ยากไร้ในไทยและภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา นายฉู ตงหยู (Mr.Qu Dongyu) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้ส่งหนังสืออย่างเป็นทางการผ่าน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง “การถวายตำแหน่ง ‘ทูตพิเศษด้านการขจัดความอดอยากหิวโหย (FAO Special Goodwill Ambassador for Zero Hunger for Asia and the Pacific) แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2565-2567 และ FAO ได้ยกย่องการทรงงานของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน และแก้ไขปัญหาความหิวโหยของผู้ยากไร้ในไทยและภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมาโดยตลอดรวมทั้ง ทรงสนับสนุนงานด้านการปรับเปลี่ยนพลิกโฉมระบบอาหารและเกษตร (Agri-food systems transformation) ของ FAO เพื่อนำไปสู่การพัฒนาการผลิตที่ดีขึ้น โภชนาการที่ดีขึ้น สิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น และชีวิตที่ดียิ่งขึ้นของทุกคน(Better production, Better nutrition, Better environment, Better life)
สำหรับหนังสืออย่างเป็นทางการดังกล่าว ซึ่งลงนามโดยนายฉู ตงหยู (Mr.Qu Dongyu)ผู้อำนวยการใหญ่ FAO มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
“ถือเป็นเกียรติสำหรับกระผมอย่างยิ่งในการเสนอแต่งตั้งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ดำรงตำแหน่งเป็นทูตสันถวไมตรีพิเศษของ FAO สำหรับโครงการทูตพิเศษโครงการขจัดความหิวโหย ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (Zero Hunger for Asia and the Pacific) และผมขอแสดงความซาบซึ้งอย่างใจจริงที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงมีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการนำเสนองานและเป้าหมายของ FAO มาตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2559
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นผู้ที่ให้การสนับสนุนอย่างใหญ่หลวงต่อโครงการของ FAO ในการต่อสู้กับภาวการณ์ขาดสารอาหารในทุกรูปแบบ และยังได้เป็นผู้ที่ทรงกระตุ้นให้การการรับรู้และขับเคลื่อนโดยรัฐบาล, องค์กรระหว่างประเทศ,บริษัทเอกชนต่างๆ และสาธารณชนในการยุติความหิวโหยและภาวการณ์ขาดสารอาหาร
ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะแจ้งให้ทราบถึงการดำรงตำแหน่งอย่างต่อเนื่องของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะทูตสันถวไมตรีประจําภูมิภาคของ FAO ประจําภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ซึ่งจะทรงดำรงตำแหน่งเป็นวาระสองปี นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 ถึงกรกฎาคม 2567
ด้วยประสบการณ์และความมุ่งมั่นของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ในการที่จะส่งเสริมและสนับสนุนงานของ FAO ทั้งในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงระบบเกษตร เพื่อให้เกิดกระบวนการผลิตที่ดีขึ้นทำให้โภชนาการดีขึ้น ทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น และทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้น โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
กระผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี จะทรงตอบรับคำเชิญนี้และมีความตั้งใจจะทำงานร่วมมือกันต่อไปเพื่อให้ประสบความสำเร็จ”
อย่างไรก็ตาม สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงรับการทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายตำแหน่งทูตพิเศษโครงการขจัดความหิวโหย (FAO Special Goodwill Ambassador for Zero Hunger) ขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organisation of the United Nations : FAO) ครั้งแรกเมื่อปี 2559
ทั้งนี้ FAO จะประกาศรายชื่อบุคคลที่ได้รับการยกย่องแต่งตั้งเป็นทูตพิเศษ (Special Ambassador) เป็นประจำทุก 2 ปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี