ดูเหมือนการใช้ชีวิตทุกวันนี้จะเข้าสู่โหมดปกติที่เราต่างก็กลับไปทำงาน ไม่ได้ Work from Home เหมือนที่ผ่านมา รวมถึง
การออกไปทำกิจกรรมต่างๆ นอกบ้านกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเชื้อโควิดกลายเป็นโรคประจำถิ่น และคนส่วนใหญ่ก็ป้องกันตัวเองกันอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังฉีดวัคซีนกันมาครบโดสแล้ว แต่หลายคนก็อาจจะกลับมาติดเชื้อซ้ำได้อีก อย่างไรก็ตามผู้ติดเชื้อก็ยังคงต้องแยกตัวออกจากผู้อื่นและรักษาตัวด้วยการกินยาตามดุลยพินิจของแพทย์จนกว่าจะหายป่วยและสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ข้อมูลจาก รศ.ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญสมุนไพรสหประชาชาติ และอาจารย์ประจำวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า หากใครที่ติดโควิด-19 และรักษาจนหายแล้ว แต่กลับยังต้องเผชิญกับอาการที่หลงเหลืออยู่ หรือลองโควิด (Long COVID) ตามมา ซึ่งลักษณะอาการสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย ตั้งแต่ระบบหายใจ ระบบประสาท ระบบทางเดินอาหาร หัวใจ และหลอดเลือด โดยที่แต่ละบุคคลอาจจะมีอาการหลากหลายแตกต่างกันไป อีกทั้งผู้ที่หายป่วยบางรายอาจยังไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือนเดิม
หนึ่งในอาการลองโควิดที่กรมการแพทย์ออกมาเปิดเผยก็คือ อาการสมองเสื่อมถอย ที่มักจะพบในช่วง 1-6 เดือน
หลังจากติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากสมองเป็นอวัยวะที่ต้องการออกซิเจนไปเลี้ยงค่อนข้างมาก การติดเชื้อลงปอดทำให้ออกซิเจนในเลือดลดลง ออกซิเจนจึงไม่สามารถไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ และในขณะเดียวกันก็เกิดการอักเสบเรื้อรังของเซลล์ประสาท ทำให้สมรรถภาพการทำงานของสมองถดถอย ส่วนใหญ่มักจะเกิดในด้านสมาธิ ทักษะในการตัดสินใจ การวางแผน การแก้ปัญหา และความจำระยะสั้น โดยมีอาการรู้สึกเหมือนสมองล้า (brain fog) รู้สึกตื้อๆ มึนๆ เบลอๆ ไม่มีสมาธิ หรือไม่สามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ กระทั่งส่งผลกระทบต่อการทำกิจวัตรประจำวัน การทำงาน หรือการเข้าสังคมในระยะยาว
ปัจจัยเสี่ยงของอาการสมองเสื่อมถอย
l อายุมาก ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคหลายอย่างร่วมอยู่ด้วย
l อาการติดเชื้อที่รุนแรง อาการติดเชื้อระยะเฉียบพลันที่รุนแรงและมีภาวะขาดออกซิเจน
l เดิมมีโรคทางระบบประสาทและสมองอยู่ เช่น โรคหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก
l ซึมเศร้าและวิตกกังวล มีโรคร่วมทางจิตเวช เช่น ผู้ป่วยมีภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวล
เสริมสุขภาพ ชาร์จพลังสมอง
สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ ไม่มีใครดูแลเราได้ดีกว่าตัวเราเอง ฉะนั้น ทางที่ดีคุณควรให้เวลากับสุขภาพตัวเองเสียแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะสมอง กองบัญชาการสำคัญที่ควบคุมระบบต่างๆ ในร่างกาย ก็จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างดี โดยเริ่มจาก
อาหารบำรุงสมอง การเลือกบริโภคอาหารที่มีประโยชน์เป็นสิ่งสำคัญ นอกจากช่วยให้ร่างกายเราเจริญเติบโตแล้ว ยังช่วยบำรุงและฟื้นฟูให้สมองของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฉะนั้น จึงควรรับประทานอาหารให้หลากหลาย ครบมื้อครบหมู่ตามหลักโภชนาการ โดยเฉพาะอาหารประเภท โปรตีน ถือเป็นอาหารบำรุงสมองที่สำคัญ ยิ่งถ้าเป็นโปรตีนจากสัตว์ก็จะมีธาตุเหล็กสูงและกรดอะมิโนจำเป็นที่สมองต้องการนำมาสร้างสารสื่อประสาท ซึ่งมีหน้าที่ถ่ายทอดข้อมูลระหว่างเซลล์ประสาทตัวหนึ่งไปยังอีกตัวหนึ่ง
พักผ่อนเพื่อผ่อนคลาย สมอง จำเป็นต้องได้รับการพักผ่อนเช่นเดียวกับส่วนอื่นๆ ของร่างกาย และการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ ช่วยให้สมองได้หยุดพักและผ่อนคลายหลังจากใช้งานมาทั้งวัน เพื่อซ่อมแซมและบำรุงรักษาเซลล์ประสาทให้กลับสู่สภาพที่พร้อมใช้งานได้ในวันถัดไป รวมทั้งยังช่วยให้สามารถคิดอ่านหรือตัดสินใจได้ดี เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้เร็วขึ้นกว่าเดิม และมีกระบวนการในการจดจำที่ทรงประสิทธิภาพ
ออกกำลังกาย ถ้าต้องการให้ร่างกายและสมองฟิตพร้อมอยู่เสมอก็ต้องหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำด้วยไม่ว่าเป็นเต้นแอโรบิค ว่ายน้ำ เดิน วิ่ง ฯลฯ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที จะช่วยให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น รวมถึงช่วยในการสร้างเซลล์สมองใหม่ซึ่งจะเชื่อมต่อการทำงานของสมองและร่างกายให้ทำงานควบคู่กันได้อย่างดีมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความเครียดและปรับปรุงสภาวะอารมณ์ให้ดีขึ้นด้วย
หมั่นลับสมอง การมีกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นสมองและบันเทิงจิตใจอย่างต่อเนื่องทุกๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การเขียนหรืออ่านหนังสือ รวมถึงการเล่นเกมส์ฝึกสมองต่างๆ เช่น หมากรุก ครอสเวิร์ด ปริศนาอักษรไขว้ ต่อภาพจิ๊กซอว์ เกมประเภทตัวเลข ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยการเรียนรู้ ปฏิภาณไหวพริบ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จึงถือเป็นวิธีที่ช่วยบริหารสมองได้ดี
เสริมภูมิคุ้มกันทางอารมณ์ แม้จะมีเรื่องหงุดหงิด ไม่สบายใจ วิตกกังวล ควรรู้จักปล่อยวาง อย่าเอาเรื่องร้ายๆ มาใส่ใจ พยายามมองโลกในแง่บวก คิดถึงแต่สิ่งดีๆ เพราะสมองของเราทำงานได้ดีในขณะที่มีความสุข พร้อมหาวิธีผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ หรือทำงานอดิเรก ไม่ว่าจะเป็น ปลูกต้นไม้ วาดรูป ฟังเพลง หรือไปเที่ยวพักผ่อน เพื่อช่วยให้สมองปลอดโปร่งและลดความตึงเครียดลงได้
หากรู้จักใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเองเสียตั้งแต่วันนี้ สมองของคุณก็จะมีสุขภาพดี มีสมาธิ และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผศ.(พิเศษ)ดร.อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์
ประธานกรรมการ มูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี