ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกต่อรัสเซียได้เปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของรัสเซียกับโลกภายนอกเป็นอย่างมาก แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า รัสเซียจะสามารถเอาตัวรอดได้จากวิกฤตนี้
สำนักข่าวอัล จาซีรา รายงานว่า ในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมาหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต รัสเซียอ้าแขนรับทุนนิยม และแม้รัสเซียและชาติตะวันตกเผชิญความตึงเครียดทางการเมืองบ่อยครั้ง แต่สายสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกันยังคงแข็งแกร่ง ชาวรัสเซียชนชั้นกลางสามารถเดินทางเข้า-ออกยุโรปได้อย่างง่ายดาย หรือซื้อสินค้าตะวันตกรุ่นใหม่ล่าสุด ขณะที่บริการทางการเงินพื้นฐานเช่นการส่งหรือรับเงินข้ามประเทศ สามารถทำได้ในเวลาไม่กี่นาที
แต่สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปหลังรัสเซียเปิดปฏิบัติการทางทหารพิเศษในยูเครน ทำให้สหรัฐฯและชาติพันธมิตรในยุโรปและเอเชียมีมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย ตั้งแต่การสั่งอายัดเงินทุนสำรอง/ ตัดธนาคารรัสเซียออกจากระบบโอนเงินระหว่างประเทศ /ห้ามเรือและเครื่องบินของรัสเซียเข้าเทียบท่าหรือผ่านน่านฟ้า /รวมถึงจำกัดการนำเข้าสินค้ารัสเซีย นอกจากนี้ บริษัทต่างชาติมากกว่า 1,200 รายประกาศถอนตัวหรือระงับกิจการในรัสเซียด้วย เช่น แอปเปิล แมคโดนัลด์ อิเกีย วีซาและมาสเตอร์การ์ดเป็นต้น
การถาโถมคว่ำบาตรรัสเซียกลับส่งผลในหลายมุม
ในมุมหนึ่ง จีดีพีของรัสเซียหดตัวลดราวร้อยละ 4 ในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว และคาดว่าจะหดตัวร้อยละ 7 ในไตรมาสที่สาม ขณะเดียวกันมาตรการจำกัดการส่งออกสินค้าบางประการให้รัสเซีย ดันอัตราเงินเฟ้อของรัสเซียทะยานสู่เลขสองหลักไปแล้ว และสินค้าที่ถูกจำกัดการนำเข้านั้น สำคัญต่อภาคการผลิตของรัสเซีย และรัสเซียเองยอมรับว่า เป็นเรื่องท้าทายที่จะต้องหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ทดแทน
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ด้วยข้อจำกัดอันมากมาย แต่ปรากฏว่าเศรษฐกิจรัสเซียนั้นมีความยืดหยุ่นมากกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ เงินรูเบิลของรัสเซียกลับกลายเป็นสกุลเงินที่ทำผลงานดีสุดของปีนี้ อัตราเงินเฟ้อเริ่มลดลงจาก ร้อยละ 17.8 ในเดือนเมษายน มาอยู่ที่ร้อยละ 14.9 ในเดือนสิงหาคม นอกจากนี้ ระหว่างเดือนมกราคมถึงกรกฎาคม บัญชีเดินสะพัดของรัสเซียยังได้ดุลทำสถิติสูงสุดที่ 167 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 6 ล้านล้านบาท หรือมากกว่าสามเท่าจากปีที่แล้วด้วย
นั่นจึงหมายความว่า การคว่ำบาตร ไม่ส่งผลกระทบต่อรัสเซียมากเท่าไหร่นัก
ขณะเดียวกัน เมื่อเดือนที่แล้ว กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ปรับเพิ่มการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจรัสเซียใหม่ โดยคาดการณ์ว่าจีดีพีปี 2022 ของรัสเซียจะหดตัวร้อยละ 6 จากที่เดิมคาดว่าจะหดตัวร้อยละ 8.5
แอนตอน ทาบัคห์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Expert RA กล่าวกับอัล จาซีรา ว่า มีสองปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจรัสเซียยังไปได้ดีประการแรก คือ การส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ที่มากขึ้น โดยเฉพาะพลังงาน ทางการรัสเซียคาดว่าจะมีรายได้จากการขายพลังงานในปีนี้มากกว่า 337 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 12 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2021 ถึงร้อยละ 31ส่วนปัจจัยที่สองคือ การใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกัน สำหรับผู้ประกอบการชาวรัสเซียบางราย การคว่ำบาตรนั้นกลายเป็นแหล่งของโอกาสที่ไม่คาดคิด
นิโคไล ดูเนฟ รองประธาน Opora Russia ซึ่งเป็นสมาคมธุรกิจเอสเอ็มอีในรัสเซีย กล่าวว่า การแห่ถอนตัวของธุรกิจข้ามชาติยักษ์ใหญ่ นั้นเปิดโอกาสให้ธุรกิจภายในประเทศได้ขยายส่วนแบ่งตลาด โดยเฉพาะด้านอาหาร เครื่องสำอาง เครื่องแต่งกายการท่องเที่ยว และการก่อสร้าง
นอกจากนี้ ทาบัคห์กล่าวว่า ชาติที่ไม่ได้เป็นชาติตะวันตก ยังมีบทบาทสำคัญในยุทธศาสตร์รับมือการคว่ำบาตรของรัสเซียด้วย เช่น การเติบโตในภาคการผลิตเอเชียและตะวันออกกลาง ทำให้รัสเซียหาสินค้าทดแทนของตะวันตกได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม คำถามต่อจากนี้คือ แล้วเศรษฐกิจรัสเซีย จะสามารถเปลี่ยนผ่านเชิงโครงสร้างในระยะยาวได้อย่างไร และจะกลับมาสร้างเศรษฐกิจบนรากฐานใหม่ให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร
คริส เดวอนเชอร์-เอลลิซผู้ก่อตั้ง Dezan Shira & Associatesบริษัทที่ปรึกษาการลงทุนทั่วเอเชีย เผยว่า มีสองปัจจัยสำคัญที่อาจเอื้อให้รัสเซีย อย่างแรกคือ รัสเซียครอบครองทรัพยากรธรรมชาติมหาศาลซึ่งสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกในวงกว้าง หากดูจากการจัดอันดับต่างๆ รัสเซียจะครองอันดับหนึ่ง สอง หรือไม่ก็สามในการครอบครองทรัพยากรสำคัญของโลก ตั้งแต่พลังงาน ไปจนถึงเพชรน้ำจืด สินแร่หายาก และแร่อื่นๆ อีก
ส่วนประการที่สอง แม้รัสเซียกำลังมีปัญหากับชาติตะวันตก แต่ในแง่ภูมิศาสตร์การเมือง ยากที่จะสามารถโดดเดี่ยวรัสเซียได้ เพราะรัสเซียยังมีมิตรมหาอำนาจอีกหลายราย เช่น จีนอินเดีย และอิหร่าน รวมถึงซาอุดีอาระเบียตุรเคีย บราซิล และหลายชาติในแอฟริกาที่ทรงอิทธิพลมากขึ้น
ดังนั้น เดวอนเชอร์-เอลลิซ จึงเชื่อว่า เมื่อชั่งดูแล้ว ดูเหมือนว่ารัสเซียน่าจะผ่านเรื่องนี้ไปได้นั่นเอง
โดย ดาโน โทนาลี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี