วันอาทิตย์ ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568
ยังคงเป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ตั้งแต่ยังไม่เปิดตัว จนกระทั่งเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไปเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา The Standard, Bangkok Mahanakhon (เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร) โรงแรมแห่งใหม่ล่าสุดและเป็นแฟล็กชิพของแบรนด์ The Standard ในเอเชีย สะท้อนความเป็นเมืองหลวงที่เปี่ยมด้วยพลังของกรุงเทพฯ ผ่านนิยาม Anything But Standard ภายใต้จุดยืนของแบรนด์ The Standard สหรัฐอเมริกาหลังจากที่ The Standard, Huahin (เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน) ได้ดึงดูดนักเดินทางคนไทยและต่างชาติที่แสวงหาความแปลกใหม่ของการพักผ่อนอย่างไม่หยุดหย่อน ตลอด1 ปีที่ผ่านมา

หนึ่งในกำลังหลักและเป็นผู้ขับเคลื่อนให้แบรนด์โรงแรม The Standard กลายเป็นกระแสฮอตและเป็นที่จับตามอง ก็คือ บริพัตรหลุยเจริญ ผู้บริหารหนุ่มรุ่นใหม่ที่นั่งอยู่ในคณะกรรมการบริหาร Standard International บริษัทแม่ของเครือโรงแรม The Standard ซึ่ง บมจ. แสนสิริ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่กว่า 62% ในเชนโรงแรมสุดฮิปสเตอร์นี้ และยังเป็นกรรมการผู้จัดการ ของ Standard Asia ที่กำลังปั้นแบรนด์ The Standard ให้เติบโตในภูมิภาคเอเชีย
“เชื่อว่า The Standard, Bangkok Mahanakhon (เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร) จะสร้างปรากฏการณ์ที่ถูกกล่าวขานถึงและมอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับนักเดินทางจากทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะแค่คนไทย เช่นเดียวกับ The Standard, Huahin (เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน)”
บริพัตร กล่าวพร้อมรอยยิ้ม และบอกเล่าเรื่องราวการทำงานของเขากับ The Standard ที่ผสานลงลึกเข้าไปอยู่ในเนื้อเดียวกัน หรือที่เรียกว่า DNA ของแบรนด์ ด้วยความคิดต่างและความเชื่อมั่นในการทำงานของทีมงานทุกคน เริ่มตั้งแต่การออกแบบโลโก้ของโรงแรม The Standard, Bangkok Mahanakhon (เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร) ที่กลับหัวลง หรือการออกแบบชุดพนักงานในแบบ upside down ผลงานของนักออกแบบคนไทย ฟ้า จักษุเวช เจ้าของแบรนด์แฟชั่นของไทย Fah Chak WO+MAN ที่มีความเก๋สะดุดตาทั้งสีสันและดีไซน์

“โลโก้ของโรงแรม เรามาคิดกันว่าจะสร้างความแตกต่างได้ตรงจุดไหน และก็มาหยุดที่การกลับหัวตัวอักษรลง ผมชอบความเป็น upside down มันดูมีเรื่องราวชวนสงสัยและอยากรู้ ซึ่งได้ต่อยอดมาถึงการออกแบบชุดพนักงาน ที่มีการล้อไปกับ upside down มีการดึงเอาขอบกางเกงผู้ชายมาเป็นปกเสื้อผู้หญิง เป็นการกลับหัวกลับหางที่แบรนด์ Fah Chak WO+MANตีโจทย์ของเราได้ยอดเยี่ยมมาก คิดว่าสองสิ่งนี้มันจะเพิ่มความแตกต่างให้กับ เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร มันน่าจะเป็นความประทับใจแรกที่เมื่อคุณเดินเข้ามาในโรงแรม”

เมื่อถามถึงความเป็นที่สุดของ เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร บริพัตร กล่าวว่า ทุกสิ่งที่นี่คือ ความเป็นที่สุดที่เราตั้งใจจะมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่ก้าวแรก ไม่ว่าจะเป็น ศิลปะ แฟชั่น อาหาร ดนตรี ที่รวมกันอยู่ที่นี่ที่เดียว อย่างเช่น การออกแบบตกแต่งภายใน ที่เราได้ Jaime Hayon (ไฮเม่ ฮายอน) ศิลปินและนักออกแบบชาวสเปนผู้ทรงอิทธิพลแห่งยุคมาทำงานร่วมกับทีมออกแบบมากรางวัลของ The Standard ซึ่งศิลปินได้หล่อหลอมเสน่ห์อันน่าค้นหาของกรุงเทพฯผสมผสานการใช้เทคนิคสร้างสรรค์ ถ่ายทอดออกมาเป็นชิ้นงานในรูปทรงอิสระที่แปลกตาในแต่ละมุมของโรงแรม นอกจากนี้ เรายังสนับสนุนงานศิลปะของศิลปินท้องถิ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในความตั้งใจของแบรนด์ The Standard ที่ต้องการทำงานร่วมกับบุคคลที่มีความสามารถในท้องถิ่น ไม่ว่าจะอยู่ในแวดวงไหนเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และมอบโอกาสการเติบโตไปด้วยกันกับเรา
อีกหนึ่งความต่างที่ เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร นำเสนอและกำลังได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามก็คือ ห้องอาหาร บาร์ และสถานที่ไนท์ไลฟ์ ถึง 6 แห่งด้วยกัน กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่รวมแหล่งแฮงค์เอ้าท์ใหม่ล่าสุดสำหรับนักชิมและนักดื่มไปโดยปริยาย ไม่ว่าจะเป็น The Standard Grill ร้านสเต๊กเฮาส์สไตล์อเมริกันแบบออริจินัลที่มีแม่แบบมาจากกรุงนิวยอร์ก ในย่าน Meatpacking District พร้อมเสิร์ฟตั้งแต่อาหารเช้าไปจนถึงมื้อเย็น ลิสต์เครื่องดื่มค็อกเทลก็ตอบโจทย์สายดื่ม โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากยุค 1920 ช่วงยุคต้องห้าม (prohibition era) ในกรุงนิวยอร์กและกรุงเทพฯ ตามด้วยเมนูไวน์หลากชนิด

บนชั้น 76 เป็นที่ตั้งของห้องอาหาร Ojo (โอโฮ) ห้องอาหารเม็กซิกันที่ตกแต่งในสไตล์เรโทรผสมผสานความหรูหรา พร้อมวิวกรุงเทพฯบนตึกสูง และบรรยากาศที่ชวนตื่นเต้นซึ่งต้องจองที่นั่งกันข้ามเดือนกว่าจะได้รับประทานเมนูอาหารเม็กซิกันสุดสร้างสรรค์ โดยเชฟ Francisco Paco Ruano เชฟมากประสบการณ์จากประเทศเม็กซิโก เช่นเดียวกับ Mott 32 Bangkok ห้องอาหารสไตล์โมเดิร์นกวางตุ้งในตำนานจากฮ่องกง ที่นำทัพความอร่อยมาสู่กรุงเทพครั้งแรก ก็มีลิสต์จองยาวเหยียดไม่แพ้กัน
บนชั้น 78 ที่ Sky Beachขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในรูฟท็อปที่สูงที่สุดในประเทศไทย ในบรรยากาศสุดชิลล์เคล้าเสียงดนตรีจังหวะดาวน์เทมโป ตามด้วยหลากหลายเครื่องดื่มค็อกเทลที่มีให้เลือกสรรไม่รู้จบ หรือคนรักการดื่มชาน่าจะชื่นชอบ Tease ทีรูม ซึ่งถูกตกแต่งด้วยโทนสีขาวดำ ให้บรรยากาศสุดคูลเสมือนหลุดเข้าไปอยู่ในฉากหนัง พร้อมด้วยเมนูชานานาชนิดและอาหารทานเล่นสไตล์อเมริกันแบบทวิสต์ไม่ซ้ำใคร
ยิ่งไปกว่านั้นโรงแรมยังมี TheParlor คอมมิวนิตี้สำหรับคนสุดครีเอทีฟรวมพลคนรักการพบปะสังสรรค์ พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ตลอดจนกิจกรรมโปรแกรมมิ่งมากมายที่ถือเป็นหนึ่งในดีเอ็นเอของแบรนด์ อาทิ The Standard Bingo ที่จะเปลี่ยนธีมไปเรื่อยๆ โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากสุดยอดบิงโกที่ The Standard, High Line งานทอล์กพิเศษจากแขกรับเชิญ และไลฟ์ดีเจที่มาเล่นเพลงเพิ่มจังหวะสุดมันส์ใน Sounds Studio ของ The Standard
.jpg)
“ผมและทีมงานตั้งใจให้ห้องอาหารและบาร์ของเรา เป็นสถานที่ยอดนิยมของนักชิมและนักดื่ม และ stand alone สามารถอยู่ได้ด้วยตัวมันเอง มันจะเป็นเหมือนร้านอาหารและบาร์ที่ทุกคนพูดถึงความอร่อยและมาใช้บริการได้ทุกวัน เพียงแค่มันตั้งอยู่ในโรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อกมหานคร เท่านั้น เราเสาะแสวงหาเชฟรุ่นใหม่ที่มีแพชชั่นในการทำอาหาร อาจจะไม่ต้องมีรางวัลมากมายมาการันตี แต่มีความสุขและสนุกที่จะทำงานกับเรา หรือพร้อมจะเติบโตไปด้วยกันกับเรา”
หลังจากเปิดตัว เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร ซึ่งเป็นเรือธงของแบรนด์ The Standard ในเอเชียแล้ว เป้าหมายต่อไปคือ ที่สิงคโปร์ ในปีหน้า ซึ่งยากมากที่แบรนด์โรงแรมใหม่ๆ จะเปิดตัวขึ้นได้ และถัดไปออสเตรเลีย ขณะเดียวกัน บริพัตร ยังต้องเดินหน้าเปิดตัวอีกสองแบรนด์โรงแรมภายใต้ The Standard International นั่นคือ The Peri Hotel กรุงเทพฯ ซึ่งมีที่ เขาใหญ่ กับ หัวหิน แล้ว และที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ Bunkhouse (บังค์เฮาส์) ลักซ์ชัวรี่ โฮเทลขนาดเล็กในเมืองรอง อย่างเช่น น่าน ชุมพร เชียงราย สุโขทัย โดดเด่นด้านงานดีไซน์ ความใส่ใจในรายละเอียด และการสร้างวัฒนธรรมที่จริงใจ เพื่อต้อนรับนักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์การเดินทางแบบมีสไตล์ ซึ่งปัจจุบัน Bunkhouse มีโรงแรมทั้งหมด 9 แห่งในสหรัฐอเมริกา
“ด้วยเมืองไทยเป็นหมุดหมายหลักที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบและสถานการณ์ที่กำลังฟื้นตัว การเดินหน้าเปิดโรงแรมใหม่อีก 2 แบรนด์ รวมทั้ง The Standard ในเอเชีย น่าจะไม่ยากจนเกินไป หรืออาจจะท้าทายและสนุกกว่าเราทำงานกันเป็นทีม ซึ่งผมให้ความสำคัญมาก ทุกคนสามารถเดินเข้ามาพูดคุยการทำงานกับผมได้ตลอดเวลา ที่ Standard Asia เรามีคนทำงานในทุกๆ อินดัสตรี ไม่ใช่เฉพาะงานโรงแรมเราเปิดกว้างและฟังความคิดเห็น ผมมองว่า “คน ทีม และพาร์ทเนอร์” เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราเติบโต ซึ่งทักษะที่คิดว่าควรจะมี คือ “ทักษะการตัดสินใจ”ถึงแม้จะไม่เคยทำงานด้านโรงแรมมาก่อน แต่ถ้ารับฟังให้ครบทุกฝ่าย เราก็สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ยิ่งในช่วงโควิด-19 ยิ่งทำให้ “การตัดสินใจ” เป็นทักษะหลักที่จำเป็นมาก คือ ต้องเร็วและเฉียบคม” บริพัตร กล่าวทิ้งท้าย
มาถึงบรรทัดนี้ไม่น่าแปลกใจว่าช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจโรงแรมภายใต้แบรนด์ The Standard ได้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งแม้ในสถานการณ์โลกที่ท้าทายและผลกระทบทางเศรษฐกิจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี