งานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 24 ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เปิดตัวด้วยการแสดงสุดประทับใจจาก แคทเธอรีนเจนกินส์ นักร้องคลาสสิกขวัญใจราชวงศ์อังกฤษ ที่กลับมาเปิดการแสดงเป็นปีที่ 2ติดต่อกันตามคำเรียกร้องของแฟนๆ ภายใต้การควบคุมวงของ แอนโธนี่อิงกลิซ (Anthony Inglis) วาทยากรชื่อดังที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ โดยครั้งนี้ แคทเธอรีน เจนกินส์ ได้คัดเลือกบทเพลงมาอย่างพิถีพิถัน ทั้งเพลงคลาสสิกที่นำมาปรับให้ฟังง่าย เพลงประกอบภาพยนตร์ และบทเพลงอมตะที่ใครๆ ก็รู้จัก ผสานเข้ากับเสน่ห์และความน่ารักของตัวแคทเธอรีน สร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับผู้เข้าชมที่ต่างร้องคลอตามเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เขตห้วยขวาง

รอบเปิดม่านการแสดงนั้น ได้รับเกียรติจาก องคมนตรี ดร.จิรายุ-ท่านผู้หญิงอรนุช อิศรางกูร ณ อยุธยา, นิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พอฤทัย ณรงค์เดช ร่วมกับคณะกรรมการจัดงาน อาทิ ท่านผู้หญิงวราพร ปราโมชณ อยุธยา, ชาติศิริ โสภณพนิช, หรัณ เลขนะสมิทธิ์, อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย พิไลพรรณ สมบัติศิริ ประธานนายเลิศพัฒนา, รพีพรรณ เหลืองอร่ามรัตน์ ประธานบริหาร บริษัท เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ทรี จำกัด และคุณไซมอน เบลล์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์พร้อมด้วยเหล่าศิลปินผู้มีชื่อเสียงในแวดวงดนตรีอย่าง อาร์ม-กรกันต์ สุทธิโกเศศ, ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม, รอน-ภัทรภณ โตอุ่น, ลูกหว้า-พิจิกา จิตตะปุตตุ คุณนิโคลเทริโอ และคุณแก้ม-กุลกรณ์พัชร์ โพธิ์ทองนาค ร่วมเข้าชมการแสดง

นิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา การท่องเที่ยว
แห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในฐานะหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี มีความยินดีสนับสนุนการจัดงานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ที่นับเป็นงานมหกรรม ที่ทุกคนต่างตื่นเต้นและรอคอยไม่เพียงเพราะเล็งเห็นความสำคัญของการจัดงานมหกรรม ในแง่การยกระดับทางศิลปวัฒนธรรม ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้าชมผ่านการแสดงระดับตำนานหลากหลายการแสดง แต่ความสามารถในการนำโชว์จากศิลปินระดับโลกจากประเทศต่างๆ มาจัดแสดงที่เมืองไทย ท่ามกลางความท้าทายที่ต้องเผชิญในยุคโควิด-19 นับเป็นเรื่องที่ต้องยกย่องและขอชื่นชมคณะผู้จัดงาน การแสดงที่มากมายกว่า 10 โชว์ไม่เพียงตอบรับความชอบที่หลากหลาย หากยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทย และยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังประเทศไทยมากขึ้นหลังการกลับมาเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ”

นอกจากโชว์จากแคทเธอรีนเจนกินส์ แล้ว ศิลปินและนักแสดงแถวหน้าจากทั่วโลกต่างตอบรับเข้าร่วมเปิดการแสดง หมวดดนตรีแบบผสมผสาน (Crossover) พบกับเหล่านักดนตรีชื่อดังระดับโลก ได้แก่ นักเปียโน แม็กซิม มิรวิก้า (Maksim Mrvica) และวง เท็น เทนเนอร์ส(Ten Tenors) ในส่วนของการแสดงเต้นเตรียมพบกับการเต้นแบบร่วมสมัยของคณะโทเดส (Todes) ที่จะทำให้พวกคุณตื่นตาตื่นใจด้วยการเคลื่อนไหวแบบกายกรรม และฝีเท้าแท็ปแดนซ์ของคณะเคลทิค เลเจนส์ (Celtic Legends) นอกจากนี้ยังมีการแสดงจากโรงละครบอลชอยแห่งชาติเบลารุส(Bolshoi Theatre of Belarus) มาพร้อมกับการแสดงบัลเลต์ชื่อดังตลอดกาล3 เรื่อง ได้แก่ นัทแครกเกอร์ (Nutcracker)เชอเฮเรอสาด/คาร์เมน สวีท (Scheherazade/Carmen Suite) และเจ้าหญิงนิทรา (Sleeping Beauty) ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการแสดงบัลเลต์ สวอน เลค (Swan Lake) ถึง 2 ชุดการแสดงที่จะถูกถ่ายทอดเรื่องราวอย่างสวยงาม ต่างทางอรรถศิลป์โดยคณะบัลเลต์เปรลโจกาจ (Ballet Preljocaj) จากฝรั่งเศส และคณะบัลเลต์สตานิสลาฟสกี (Stanislavsky Ballet) แห่งกรุงมอสโก โดยการแสดงและโชว์ต่างๆ จะมีไปจนถึงวันที่ 18 ตุลาคม

สิ่งที่น่าสนใจยังไม่หมดเพียงเท่านี้ปีนี้ถือเป็นครั้งแรกของมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ที่ได้เปิดโอกาสให้ศิลปินเยาวชนได้เรียนกับศิลปินระดับตำนาน ภายใต้โครงการ Student Outreach Program ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับการศึกษาด้านวัฒนธรรมในประเทศไทย ด้วยการจัดให้มีการทำกิจกรรมกับเยาวชนต่างชาติและเรียนมาสเตอร์คลาสกับศิลปินชื่อดังที่ได้รับเชิญมาร่วมมหกรรมฯ ในครั้งนี้ โดยมีความหวังว่าการสร้างการมีส่วนร่วมกับหลากหลายวัฒนธรรม สังคม และประเพณี จะช่วยหล่อหลอมคนรุ่นใหม่ให้เป็นพลเมืองของโลกได้อย่างแท้จริง

เรซิน่า อูเบอรอย บาอาจ คณะกรรมการผู้จัดงานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ กล่าวปิดท้ายว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่งานมหกรรมฯ ได้ดำเนินต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 24 แล้ว เรามีความตั้งใจคัดสรรโชว์เด่นจากวัฒนธรรมต่างๆ กว่า 10 โชว์รวบรวมไว้ที่งานนี้เพื่อสร้างความสุขให้กับคนไทย นอกจากนี้ อีกวัตถุประสงค์หลักในการจัดงานในครั้งนี้เพื่อปลุกปั้นให้กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางศิลปวัฒนธรรมของภูมิภาคและสำคัญที่สุดคือ เพื่อแสดงให้ทั่วโลกได้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะเวทีที่ได้รับเลือกจากการแสดงระดับตำนาน อยากเชิญชวนให้ทุกคนพาครอบครัวและคนที่คุณรักมาเต็มอิ่มไปกับประสบการณ์ทางศิลปะและดนตรีในปีนี้”

สนใจสามารถสำรองที่นั่งได้ทาง Thai Ticket Major : www.thaiticketmajor.com และเคาน์เตอร์ Thai Ticket Major ทุกสาขา