จากประสบการณ์ที่คร่ำหวอดในวงการความงาม ฟิตเนสและสปา มากว่า 20 ปี พร้อมกับแพสชั่นที่อยากให้ทุกคนมี “โอกาส” ที่ดีในการใช้ชีวิต โดยเริ่มต้นจากการมีสุขภาพที่ดี ส่งเสริมความมั่นใจให้สวยทั้งภายในและภายนอก ต่อยอดสู่การดำเนินธุรกิจ Ajintai Wellness Clinic & Spa แบบเต็มรูปแบบภายใต้การบริหารงานของ มาดามลิซ่า
ภิญญาพัชร์ ธีรพิริยากรณ์ รวมถึงอีกหนึ่ง “โอกาส” จาก CEO คนเก่งนี้ที่พร้อมมอบพื้นที่ให้กับเยาวชนได้แสดงความสามารถผ่านธุรกิจค่ายเพลงเล็ก ๆ และทำซีรีส์ ค่ายหนัง แบบครบวงจร ในนาม Ajintai Entertainment
มาดามลิซ่า-ภิญญาพัชร์ ธีรพิริยากรณ์ประธานกรรมการ บริษัท อจินไตย ไทยแลนด์ เผยถึงนิยาม เคล็ดลับและแรงบันดาลใจในการทำงาน ในฐานะ CEO คนเก่งที่บริหารทั้ง 2 ธุรกิจ Ajintai Wellness Clinic & Spa และ Ajintai Entertainmentจนเติบโตได้ในปัจจุบัน“การบาลานซ์ในการเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ เรียกว่ารับได้ให้เป็น ทำตัวเหมือนน้ำที่ไม่เต็มแก้วเสมอ พร้อมที่จะเก็บเกี่ยวเรียนรู้จากสิ่งต่าง ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็บาลานซ์ในการเป็นผู้ให้ เพราะถ้าเราทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วไม่รู้จักเทออกบ้าง มันจะเท่าเดิมอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเป็นแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจของเราเลยคือ ‘คุณแม่’ที่เป็นแรงบันดาลใจ คุณแม่เป็นคนเก่งมากในฐานะที่เขาเป็นคนธรรมดาที่สามารถทำงานส่งลูกเรียนจบทุกคนมีหน้าที่การงานที่ดีและเป็นผู้หญิงที่จิตใจดีมากไม่เคยโกรธใครและมีแต่ให้จริงๆ เราไม่ได้ร่ำรวยแต่เขาเป็นคนที่สามารถให้คนได้ตลอดเลยจริงๆ เราเลยได้ตรงนี้จากคุณแม่มา จนเกิดแพสชั่นที่อยากจะให้ ‘โอกาส’ กับผู้อื่นในทุก ๆ ทางที่สามารถทำได้
นอกจากจะทำธุรกิจเชื่อว่าทุกคนย่อมต้องการผลกำไรอยู่แล้วแต่สิ่งที่สำคัญเรามองว่าเราได้คืนประโยชน์อะไรต่อสังคมได้บ้างเหมือนธุรกิจด้านEntertainment ถ้าเราไม่ได้ทำด้วยใจ ด้วยแพสชั่น หรือไม่ได้ต้องการให้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่แห่งโอกาสของเยาวชนจริงๆ เราเลิกไปนานแล้ว เพราะธุรกิจมีช่วงขาขึ้นและขาลงเป็นปกติ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราใช้ใจทำและคิดว่าเราจะทำสิ่งนี้เพื่อใคร เวลาที่เราจะให้เราจะรู้สึกยิ่งใหญ่เสมอ ส่วนธุรกิจของความงามก็เหมือนกันถ้าเรามองว่าเราทำธุรกิจเพื่อผลกำไรอย่างเดียว เชื่อว่าธุรกิจก็คงไปได้ไม่นานเพราะเราจะมองแค่ผลกำไรเป็นหลัก ถ้าเรามองว่าเราทำขึ้นมาเพื่ออยากให้เขาสวยและดูดีขึ้น ให้เขาได้ออกไปใช้ชีวิตและได้โอกาสดีๆ กลับมา เราก็จะหาสิ่งที่ดีที่สุดให้เขาจริงๆแบบไม่ยัดเยียด
และเคล็ดลับอีกเรื่องที่คุณแม่สอนมาตั้งแต่เด็กๆเลย เมื่อไหร่ที่เหนื่อย เมื่อไหร่ที่เครียดหรือไม่สบายใจให้กลับบ้านนอน เราเป็นคนแบบนั้น บางคนเครียดอาจจะชอบออกไปเที่ยวหรือไปช้อปปิ้ง แต่เราเครียดปุ้บกลับบ้านก่อนเลย ตื่นเช้ามาก็เป็นวันใหม่เริ่มกันใหม่ นี่ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำมาโดยตลอดเช่นกัน”
ถือได้ว่ามาดามลิซ่าเป็นอีกหนึ่งผู้หญิงเก่งที่เป็นแรงบันดาลใจและเป็นตัวอย่างที่ดีให้ผู้หญิงอีกหลายคนกล้าที่จะลุกขึ้นมาทำธุรกิจเป็นของตัวเอง
“เด็กสมัยนี้เก่งมาก เก่งกว่าคนสมัยก่อนอีกปัจจุบันมีหลากหลายลู่ทางในการประสบความสำเร็จและสามารถเติบโดได้อย่างก้าวกระโดด การที่เราจะประสบความสำเร็จไปได้ไกลในสายงานธุรกิจคือการที่เรายืนหยัดอยู่กับสิ่งที่เราตัดสินใจแล้วยืนหยัดกับเป้าหมายที่เราเลือก เพราะทุกๆวันนี้ใครก็เริ่มต้นที่จะทำธุรกิจได้แต่การที่คนเราประสบความสำเร็จได้คุณต้องอยู่กับสิ่งๆนั้นได้ยาวนานพอ ไม่ว่าคุณจะเบื่อหรือเหนื่อย ต้องรู้จักอดทนเพื่อให้ผ่านจุดที่มันไม่ได้สวยงามไปให้ได้” มาดามลิซ่าให้คำแนะนำส่งท้าย
-(016)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี